“อาจารย์วิศวกรรมทรัพยากรน้ำ” จี้ กทม. ใช้วิธีทะลวงท่อระบายน้ำที่อยู่ใต้ดินให้ไหลผ่านได้ตลอดหัวถึงท้าย ชี้ทำครึ่งๆ กลางๆ ไร้ประโยชน์ มั่นใจแก้อุทกภัยได้อย่างแท้จริง ตั้งข้อสงสัยรู้ปัญหาดีแต่ไม่ทำอาจเพราะงบบำรุงรักษาได้ไม่มากเท่าก่อสร้างใหม่ หมดหวังปัญหาผักตบชวา เหตุงบมหาศาลหน่วยงานราชการคงอยากเก็บไว้กินยาว
วานนี้ (30 พ.ค.) ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ว่า ปัญหาน้ำท่วม กทม. ที่นายกฯบอกจะสร้างโรงสูบน้ำเพิ่ม นายกฯรู้ยังตอนนี้ปัญหาคืออะไร มันไม่ได้อยู่ที่โรงสูบ เพราะพอฝนตกปุ๊บมันไม่ไหลลงท่อ นองแล้วท่วมเลย มันไปไม่ถึงคลอง ไม่ถึงโรงสูบ ไม่ถึงอุโมงค์ มีโรงสูบไปจะสูบอะไร ตอนนี้คือต้องทำอย่างไรให้น้ำไปถึงโรงสูบได้ก่อน
ผศ.ดร.สิตางศุ์ กล่าวอีกว่า ระบบระบายน้ำ กทม. ใช้ค่าความเข้มของฝนในการออกแบบ ถ้าเป็นถนนสายเล็ก 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แปลว่าใน 1 ชั่วโมงถ้าฝนตก 6 เซนติเมตร จะต้องระบายได้ ถ้าเป็นถนนสายใหญ่อย่างรัชดา ลาดพร้าว 120 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แปลว่า 1 ชั่วโมง มีน้ำ 12 เซนติเมตรต้องเอาอยู่ วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่น้ำท่วมหลายจุดใน กทม. ฝนตก 169 มิลลิเมตร ตกใน 2 ชั่วโมง ตีเป็นชั่วโมงนึง 100 มิลฯ อีกชั่วโมง 69 มิลฯ ถ้าตามคาดการณ์คือต้องเอาอยู่ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ระดมสูบก็ยังท่วม เพราะสูบย้ายไปอีกที่ ไม่ใช่ระบาย สักพักน้ำก็ไหลกลับมาที่เดิม ระบบระบายน้ำ กทม. ตั้งแต่ท่อเล็ก ๆ ไปยังคลองเล็ก ไปออกคลองใหญ่ ตอนนี้ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ท่อระบายน้ำ กทม. ที่อยู่ใต้ดิน 3,000 กิโลเมตร เป็นได้แค่ที่พักน้ำชั่วคราว กทม. บอกเคลียร์ท่อแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ มันคืออะไร นึกถึงหลอดดูดหัวท้ายยาว 100 เซนติเมตร มีดินน้ำมันอุดตลอดเส้น เอาออกแค่ 60 อีก 40 มันตัน น้ำก็ไปไม่ได้ มันก็ทะลักออกมาหัวทางอยู่ดี อะไรคือลอกท่อ 60 เปอร์เซ็นต์ ไปลอกเฉพาะบ่อซ้ำหรือเปล่า ที่ไปเปิดขึ้นมามีไขมันมีขยะ แล้วยืนถ่ายรูปกัน ท่อที่หมายถึงคือที่อยู่ใต้ดิน กทม. รู้ปัญหาหมด แต่ทำไมไม่ทำ ถ้าไม่ทะลุมันไม่มีประโยชน์เลย แล้ว กทม.ไม่ได้จน เอางบทำอุโมงค์เป็นหมื่นล้าน หรือว่ามันคืองบบำรุงรักษา หน่วยราชการไม่ชอบ เพราะชอบงบก่อสร้างใหม่มากกว่า
ส่วนปัญหาผักตบชวา ผศ.ดร.สิตางศุ์ กล่าวว่า แก้ได้แต่ต้องเข้มงวดมาก ต้องทำสม่ำเสมอ ไม่ใช่ออกข่าวทีทำที ตอนนี้เราไม่มีเจ้าภาพรับผิดชอบหลัก เหมือนกรณีน้ำท่วมเลย เอาผิดกับใครไม่ได้ กฎหมายบ้านเราจะบังคับใช้ได้คือต้องมีการเอาผิด ก่อนอื่นต้องมีเจ้าภาพก่อนเลย ที่สำคัญ อีกอย่างงบกำจัดผักตบฯ เยอะมาก อย่างเฉพาะกรมชลฯใช้ปีละ 200 กว่าล้าน แล้วแต่ละกรมก็ใช้งบไม่เท่ากัน อย่าง กทม. ใช้มหาศาล ปี 55 - 59 ใช้พันกว่าล้านบาท แล้วกำจัดได้แค่ล้านตันเอง งานพวกนี้พอๆ กับขุดลอก ใช้เงินแต่วัดปริมาณงานไม่ได้ และมีราคากลางไม่ตรงกัน แถมทำเสร็จปีหน้ามาอีก กินงบได้ชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับราชการคงมองว่าแล้วจะกำจัดเพื่อ หากผักตบฯหมดไปก็ไม่มีงบสิ