ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4.0ในการพัฒนาประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมถือเป็นอีกหน่วยงานหลักของโครงการนี้ โดยการดำเนินงานอย่างบูรณาการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่อุตสาหกรรมใหญ่ กลาง เล็กโดยเฉพาะอุตสาหกรรมในขนาดเล็กหรือ SMEที่กำลังเริ่มเติบโต ถือเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาประเทศในรูปแบบอย่างโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up)
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐเดินหน้าสานต่อ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” ตามแนวทาง “ประเทศไทย 4.0” โดยพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุน และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SMEs จัดโครงการเสริมสร้างการรับรู้ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด” โดยประเดิมจังหวัดสงขลาเป็นที่แรก เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และเข้าใจที่ถูกต้องต่อนโยบายดังกล่าว โดยได้รับเกียรติจาก นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในการดำเนินงาน พร้อมพาสื่อมวลชนพบกับผู้ประกอบการที่ได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว เพื่อทราบถึงความคืบหน้า ปัญหา และแนวทางการพัฒนาของกิจการ
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “โครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เป็นโครงการที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีความสำคัญอย่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธนาคารSME) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) และกระทรวงมหาดไทย เพราะได้มีการจัดตั้งกรรมการSMEจังหวัดขึ้นมาเป็นผู้ดำเนินการโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดร่วมกับธนาคารSME
กองทุนทั้งหมดที่ทางรัฐบาลอนุมัติให้เข้ามาช่วยผู้ประกอบการSMEมีหลายกองทุนมาก และทุกกองทุนจะต้องทำงานประสานกันเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับบรรดาผู้ประกอบการ สำหรับวันนี้เป็นการนำเสนอคลินิคSME เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคใต้ได้ทำความรู้จัก และสมัครเข้ามาในโครงการเพื่อยื่นสินเชื่อ และรับความช่วยเหลือในด้านต่างๆรวมถึงด้านงานวิชาการ ทั้งการอบรมในเรื่องของบัญชี การบริหารการจัดการในองค์กรฯลฯ โดยวันนี้ท่านนายกฯ ก็ให้เกียรติมาเป็นประธานในการมอบสินเชื่อก้อนแรกของประเทศ โดยอนุมัติไปแล้วเกือ 1,600ล้านบาท และงานนี้เราจะเดินทางทำแผนทำความเข้าในในโครงการนี้ 8จังหวัดจากทั่วประเทศ โดยมีจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดแรก” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้ยังได้มีการเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการนี้อีก 2แห่ง คือบริษัทโกรรับเบอร์ ลาเท็กซ์ จำกัด ผลิตและจำหน่ายยางรองส้นเท้ายางพารา ดำเนินงานโดย นางสาวอรฤดี เมฆตรงเป็นกรรมการผู้จัดการ
โดยคุณสาวอรฤดี เมฆตรง กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวถึง ความรู้สึกที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการนี้ว่า “โรงงานโกรรับเบอร์ ลาเท็กซ์ ถือว่าเป็นโรงงานระดับ Start Upที่มีขนาดเล็กและตนเองก็ยังมีอายุน้อยประสบการณ์การทำงานก็ไม่มากการที่จะเข้าหาแหล่งเงินทุนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย จะไปขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์เขาก็ยังไม่มีความมั่นใจในศักยภาพของเรา โชคดีที่เราได้รับการอบรมหลักสูตร โครงการเพิ่มมูลค่ายางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง ที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมทำให้เราได้มีโอกาสดีๆ โดยผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยวิจัยร่วมกันระหว่างคณะแพทยศาสตร์ร่วมกันกับคณะวิศวะกรรมศาสตร์เป็นแผ่นยางรองเท้าเพื่อสุขภาพ และรองเท้าแตะที่ผลิตจากยางพาราซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดีโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีน และอยากจะขอบคุณโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เป็นอย่างมากที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเรา” นางสาวอรฤดี กล่าว
อีกแห่งคือบริษัทเอ.บิล.อาร์ทอินดัสทรี จำกัด ผลิต จำหน่าย ประเก็น และวัตถุกันรั่ว สำหรัเครื่องยนต์ที่ขอกู้เพื่อจัดซื้อระบบบริหารจัดการภายในโรงงาน
คุณสิริอัญญา พรสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ.บิล.อาร์ทอินดัสทรี จำกัด ผลิต จำหน่าย กล่าวว่าเดิมทีทางบริษัทเอ.บิล.อาร์ทอินดัสทรี ได้ทำงานวิจัยมาเยอะมากโดยใช้เงินลงทุนของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อมีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐยืนมือเข้ามาช่วยเหลือทำให้เรารู้สึกมีขวัญและกำลังใจขึ้นมาก พร้อมทั้งกำลังต้องการการพัฒนาเครื่องจักรใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงเปลี่ยนกระบวนการทำงานใหม่ให้เข้ากับนโยบาย 4.0ของรัฐบาล โดยเริ่มต้นจากการเข้าร่วมอบรมโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (MDICP ภูมิภาค) ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเป็นอันดับแรกเพราะเชื่อว่าถ้าพนักงานมีคุณภาพสินค้าก็ย่อมมีคุณภาพตามไปด้วย ในส่วนของเครื่องจักรจึงเป็นโครงการต่อไปในอีกไม่ช้านี้ และต้องขอขอบคุณกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐที่เข้ามาให้การสนับสนุนในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งอยากจะเชิญชวนผู้ประกอบการรายย่อยหรือขนาดกลางที่คิดว่ายังขาดความพร้อม หรือมีปัญหาให้ลองเข้ามาปรึกษากับศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี ดูเชื่อว่าจะได้รับความช่วยเหลือแบบจริงจังอย่างที่เราได้รับมาแล้ว
สองบริษัทดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจตนเองให้มีศักยภาพ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงได้ผ่านกระบวนการพัฒนาจากโครงการภาครัฐ เช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นต้น จากความตั้งใจดังกล่าวกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจึงได้ให้ความดูแลและช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจทั้ง 2 รายนี้ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งหลังจากนี้ทางกระทรวงจะได้เร่งขยายผลและเตรียมเข้าไปช่วยเหลือในจังหวัดสงขลา และพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทุกสาขา และศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี www.smessrc.com หรือ Call Center 1358