สาวพริตตี้จำใจเหมารถแท็กซี่จากระยองไป อ.ปลวกแดง พบระหว่างทางคนขับเปิดขวดยาเหลือง พร้อมกระดาษทิชชูใช้แล้ว รู้สึกมึนศีรษะและชาไปทั้งตัว ก่อนจี้ให้ลงปั๊มน้ำมันใน อ.นิคมพัฒนา แล้วขอความช่วยเหลือ สนง.ขนส่งระยอง ตรวจสอบแล้ว พบเป็นยาเหลืองธรรมดา คาด ผู้โดยสารคงมีอาการแพ้ ส่วนมิเตอร์ที่ถอดอ้างกำลังเอาไปจูน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเฟซบุ๊ก Lukchub Rujirada ทราบชื่อ คือ น.ส.รุจิรดา พรมคง หรือ ลูกชุบ อายุ 25 ปี ประกอบอาชีพรับจ้าง (พริตตี้) ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการแท็กซี่ โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ตนไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้า ซี.เค.พลาซ่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยขึ้นรถตู้จาก จ.ชลบุรี มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยอง เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. แต่เมื่อเห็นว่ามีฝนตกหนัก อีกทั้งระยะทางจาก จ.ระยอง ไป อ.ปลวกแดง ไกลถึง 50 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเรียกใช้บริการแท็กซี่ แต่ขณะนั้นถูกชายใส่เสื้อวินสีฟ้าแซว และคนขับรถแท็กซี่ กล่าวว่า “วันนี้ฝนตก ส่งนางฟ้าลงมานั่งรถให้เว้ย” ก่อนขึ้นรถแท็กซี่สีน้ำเงิน-เหลือง ทะเบียน ทข 13 ระยอง
แต่จากการสังเกตพบว่า เป็นแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ กล่องถูกถอดสายออก เหลือแต่สายวางห้อยอยู่ ป้ายชื่อคนขับ รหัสคนขับ เลขทะเบียนที่แปะฝั่งกระจก ข้างในห้องผู้โดยสารไม่มีปรากฏให้เห็น เมื่อสอบถามราคาพบว่า คนขับรถคิด 500 บาท และคนขับมีท่าทางกวนประสาทเมื่อขอต่อราคา หลังจากนั้น เมื่อขับรถออกจาก บขส. ปฏิกิริยาท่าทางของคนขับรถ ดูลกๆ มองกระจกมองหลังตลอด มือพยายามหาของ สลับมองกระจกตลอดเวลา สักพักปิดแอร์ในรถ มือซ้ายเอื้อมไปหยิบขวดคล้ายกับขวดน้ำมันเหลืองตรงคอนโซลกลางด้านซ้าย มือขวามีกระดาษทิชชูที่ขยำๆ เป็นกลมๆ แล้ว กับถุงหิ้วพลาสติกใบเล็กๆ
พริตตี้สาวพยายามกลั้นหายใจ เป่าลมออกจากปากแทนการหายใจด้วยจมูก พยายามสูดอากาศในรถให้น้อยที่สุด ไม่นานเริ่มมีอาการผิดปกติ เริ่มมึน ซา แสบที่หัว ตาเริ่มมัวเบลอๆ พยายามตั้งสติ เมื่อเอานิ้วไปกดเปิดกระจกฝั่งที่นั่ง พบว่ากระจกเปิดออกมาไม่ได้ ลองเอามือแงะเปิดประตูก็ไม่ได้ จึงบอกคนขับรถให้เปิดกระจกถึงสองครั้ง กระทั่งคนขับแสดงอาการลุกลน ถามว่า มึนศีรษะ เมารถหรือ ตนจึงตัดสินใจบอกให้ลงกลางทาง เลี้ยวไปจอดในปั๊มน้ำมัน ปตท.นิคมพัฒนา รีบเก็บของบนรถ เปิดประตูแง้มไว้ แล้วพูดก่อนปิดประตูไปว่า “เมื่อกี้พี่ทำอะไรคะ” คนขับอ้ำอึ้งพร้อมตอบกลับว่า “อะไรๆ” ก่อนจะรีบถอยรถออกไปโดยไม่รับค่าโดยสาร ตนอาศัยจังหวะควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป จากนั้นได้รับไปหาที่มีคนเยอะๆ หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ขอความช่วยเหลือจากแผงขายลอตเตอรี่ ระบุว่า ถูกแท็กซี่คันดังกล่าวมอมยา รู้สึกวูบๆ เบลอๆ ร้องไห้ มึนและชาไปหมด โชคดีที่มีพลเมืองดีพยุงและโทรศัพท์หาตำรวจให้ ก่อนแจ้งความที่ สภ.นิคมพัฒนา
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (27 พ.ค.) สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง ได้เรียก นายณัฐวัฒน์ พันธุเดช อายุ 43 ปี เจ้าของรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทข 13 ระยอง มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้การว่า เป็นผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวในวันนั้นจริง แต่ข้อกล่าวหาที่ว่าใช้ยาสลบมอมผู้โดยสารนั้น ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ ตนเป็นคนชอบดมยาเหลือง เพื่อแก้อาการวิงเวียน วันเวลาเกิดเหตุ ก็ได้เปิดขวดใช้ยาเหลืองดม จึงอาจทำให้ผู้โดยสาร เข้าใจผิด เมื่อผู้ตรวจการสำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง ได้ทดลองดมยาเหลืองขวดดังกล่าวแล้ว เชื่อว่า เป็นยาดมแก้วิงเวียน ที่ใช้กันทั่วไป ประกอบกับเมื่อตรวจสอบประวัติพนักงานขับรถดังกล่าวแล้ว พบว่า ไม่เคยมีปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการ
สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อร้องเรียนกรณีมอมยาสลบผู้โดยสาร ไม่มีมูลเพียงพอ แต่น่าเชื่อว่า พนักงานขับรถใช้ยาเหลือง ซึ่งบางคนอาจแพ้กลิ่นยาเหลือง จึงเป็นการรบกวนผู้โดยสาร ซึ่งจะได้พิจารณาลงโทษตามความผิดต่อไป นอกจากนี้ เพื่อความรอบคอบ โปร่งใส สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง ได้ส่งตัวพนักงานขับรถแท็กซี่ดังกล่าว ไปรายงานตัวที่ สภ.พัฒนานิคม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกชั้นหนึ่ง ส่วนกรณีที่รถแท็กซี่มิเตอร์ มิได้เปิดใช้มิเตอร์นั้น กรณีเป็นช่วงที่กลุ่มรถแท็กซี่ระยองทั้งหมด นำมิเตอร์ไปปรับระบบ เพื่อใช้อัตราค่าแท็กซี่ที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยในระหว่างที่รอการปรับมิเตอร์นั้น ได้ใช้อัตราค่าโดยสารตามระยะทางมีการคำนวณไว้ตามอัตราค่าแท็กซี่ใหม่ ไปพลางก่อน ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง จะได้เร่งรัดการปรับและติดตั้งมิเตอร์แท็กซี่ โดยเร็วต่อไป
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก “ชมรมเพื่อนเตือนภัยจังหวัดระยอง”
