จากนิติกรเล็กๆ กทม. เข้าสู่เส้นทางอัยการ ก้าวสู่พ่อบ้านกระทรวงยุติธรรม รู้จัก “ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ” ก่อนจะถูกเด้งไปตบยุงสำนักนายกรัฐมนตรี
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (23 พ.ค.) มีมติโยกย้าย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยรับโอน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มาเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม แทน
ว่ากันว่า นายวิศิษฏ์ เป็นคนใกล้ชิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยให้ไปเป็นรองอธิบดีกรมบังคับคดี ในยุคที่ “ชายจืด” เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม
แถมยังเป็นคนยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ร่วมกับ นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำเอาคนทั้งประเทศ ทุกสีเสื้อออกมาคัดค้านกันหัวชนฝา กลายเป็นขับไล่รัฐบาลในที่สุด
เส้นทางชีวิตของอดีตปลัดหนุ่มใหญ่ผู้นี้ เกิดเมื่อ 15 ธันวาคม 2502 ปัจจุบันอายุ 58 ปี อดีตศิษย์เก่าโรงเรียนหอวัง หลังจบ มศ.5 สอบเอนทรานซ์ติดคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กระทั่งจบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) แล้วไปต่อด้วยเนติบัณฑิตไทย
เริ่มต้นชีวิตทำงานจากตำแหน่งนิติกร สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2525 ก่อนจะเปลี่ยนสายงาน เป็นอัยการกองคดีแพ่ง อัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ และ อัยการสถาบันกฎหมายอาญา
ต่อมาได้โอนย้ายจากสำนักงานอัยการสูงสุดมากระทรวงยุติธรรม โดยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และรองปลัดกระทรวงยุติธรรม
ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับภรรยาที่ทำงานนิติกร กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2528 มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน
นายชาญเชาวน์ มีประสบการณ์ในด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมมากมาย อาทิ ผู้จัดทำยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ซึ่งนำไปสู้การปฏิรูปโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมไทย
ทั้งยังเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชน จนกระทั่งมีการพัฒนากฎหมายการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิระบบอนามัยเจริญพันธุ์ และให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิสตรี
อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 ธันวาคม 2558 ก่อนหน้าวันเกิดเพียงไม่กี่วัน มติคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม
แต่เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 83
กรณีร่วมกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งย้าย พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯ ดีเอสไอ ไปอยู่ในระดับต่ำกว่าตำแหน่งเดิมโดยมิชอบ
ความหวังที่จะอยู่เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2563 ก็คงต้องหยุดลงแค่นี้ พร้อมกับการแทนที่ของข้าราชการซี 10 ที่อาวุโสอันดับหนึ่งในกระทรวงยุติธรรม
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่า ต้องการให้ไปช่วยเรื่องการปฏิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรม แต่ใครจะทราบได้ว่า เหตุผลที่แท้จริงในการโยกย้ายคืออะไร
จากเดิมที่เป็น “พ่อบ้าน” อยู่กับเหย้าเฝ้ากระทรวง ต้องมานั่งตบยุงจาก “น้ำเน่า” ในคลองผดุงกรุงเกษม ที่ทำเนียบรัฐบาลแทน
พอๆ กับ วงการตำรวจและกระบวนการยุติธรรมที่อาจเรียกได้ว่า “เน่าเฟะ” พอกัน!