คลิกที่นี่เพื่อฟังสรุปข่าวฯ
1.เกิดเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ เจ็บเล็กน้อย 2 ราย ผลตรวจสอบพบคล้าย “ไปป์บอมบ์” หน้ากองสลากเดิม!
เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค. เวลา 20.30 น. ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ ใกล้สนามหลวง แรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย คือ น.ส.จันทร์เพ็ญ วุฒิเอกไพบูลย์ และ น.ส.กัญชนา บุญชีพ โดยบาดเจ็บบริเวณต้นแขนและขา
ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนนำท่อพีวีซีมาให้ผู้สื่อข่าวดม พร้อมยืนยันว่า เบื้องต้นไม่ใช่เป็นการสร้างสถานการณ์ และว่า การระเบิดเกิดจากแรงดันอากาศในท่อพีวีซี ตรวจสอบไม่พบดินปืน หรือวัตถุประกอบระเบิด แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบก่อน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุของการระเบิดอาจเกิดจากลมพัดป้ายโฆษณาแรง ทำให้ป้ายโบกไปมา เสียดสีกับท่อพีวีซีจนเกิดเหตุดังกล่าว
วันต่อมา(16 พ.ค.) มีรายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลักฐานสำคัญคือ ไอซีไทม์เมอร์ หนึ่งในชิ้นส่วนใช้ประกอบระเบิดไปป์บอมบ์ตกบริเวณพื้น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร และว่า ไอซีไทม์เมอร์ดังกล่าวมีลักษณะเดียวกับเหตุที่คนร้ายลอบวางระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(เดิม) ถ.ราชดำเนินกลาง เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการใช้ไอซีไทม์เมอร์เป็นตัวจุดระเบิดโดยการตั้งเวลา รายงานแจ้งด้วยว่า ผู้ก่อเหตุต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้มุ่งประสงค์ต่อชีวิตแต่อย่างใด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ฝากให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง เพราะแม้สถานการณ์จะดูปกติดี แต่อาจมีคนไม่ดีแอบแฝงอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะการสำรวจกล้องซีซีทีวีทุกพื้นที่ เพราะช่วงนี้จะครบ 3 ปี การทำงานของ คสช.และรัฐบาล อาจมีบางพวกที่อยากดิสเครดิตการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ยืนยันจะตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้าเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติว่า จากการตรวจสอบวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ ผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า เป็นวัตถุระเบิดจริง เป็นชนิดโพแทสเซียมคลอเรต มีไอซีไทม์เมอร์จุดระเบิดคล้ายกับที่เคยถูกใช้ก่อเหตุบริเวณถังขยะ หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(เดิม) อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากต้องรอพิสูจน์วิธีการประกอบระเบิดจากรอยบัดกรีเชี่อมกับสายไฟ แต่พบว่ามีส่วนใกล้เคียงกันมาก
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังเชื่อด้วยว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดดังกล่าวต้องการแค่ก่อกวน เพราะชนิดของระเบิดที่ใช้มีอานุภาพน้อยกว่าไปไปป์บอมบ์มาก หรือจากที่เคยพบก่อนหน้านี้ในช่วงการชุมนุมทางการเมือง โดยใช้ดินระเบิดน้อยจนไม่พบกลิ่นและควัน เป็นชนิดที่ใช้ดินระเบิดแรงกว่าประทัดยักษ์เล็กน้อย และว่า ระเบิดที่นำมาก่อเหตุครั้งนี้ มีลักษณะเดียวกับที่เคยพบถูกนำไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดขายแดนภาคใต้ ในช่วงตั้งแต่ปี 2550-2551
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่เคยพูดในช่วงแรกว่าไม่ใช่ระเบิด แค่ท่อพีวีซีแตกว่า เนื่องจากช่วงนั้นเหตุเพิ่งเกิดขึ้น และที่พูดไป เป็นกลยุทธ์ทำให้คนร้ายตายใจ แต่หลังจากสั่งให้เจ้าหน้าที่เดินหาหลักฐาน พบชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิดห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร จึงนำชิ้นส่วนส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลาง “เรื่องที่เกิดขึ้น อย่าไปสนใจให้ราคาคนพวกนี้ เอาบ้านเมืองเป็นหลัก พวกเราควรหาตัวคนร้ายดีกว่า... ทั้งนี้ อีก 10 ชาติก็ต้องจับให้ได้ ถ้ามีชื่อศานิตย์อยู่ จะทำหน้าที่ถึงที่สุด”
2. รัฐบาลถอยแล้ว ยอมบรรจุพยาบาล 8,900 อัตราใน 3 ปี เกลี่ยอัตราว่างปีนี้อีก 2,200 อัตรา ด้านพยาบาลวิชาชีพพอใจ ไม่ลาออกแล้ว!
ความคืบหน้ากรณีเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการประกาศจะลาออกทั่วประเทศนับหมื่นคนภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ไม่อนุมัติบรรจุอัตรากำลังข้าราชการบรรจุใหม่จำนวน 10,922 ตำแหน่งตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องแนวทางแก้ปัญหาอัตรากำลังข้าราชการในส่วนพยาบาล
นพ.โสภณ เผยหลังประชุมว่า เบื้องต้นหารือกันว่า ปัจจุบันยังขาดพยาบาลทำงานอีก 8,532 ตำแหน่ง จากที่มีอยู่กว่า 100,000 คน เนื่องจากยึดจากภาระงาน ปริมาณงานที่มีว่า พยาบาล 1 คน ควรทำงานเท่าใด โดยจะนำข้อมูลเสนอคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ว่า การใช้ประมาณการขององค์การอนามัยโลกอาจไม่จริง ทั้งนี้ นพ.โสภณ เผยว่า กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันตัวเลขเดิมว่า จำเป็นต้องขออัตราบรรจุข้าราชการพยาบาล 10,922 ตำแหน่งใน 3 ปี
วันเดียวกัน(15 พ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือทางออกเรื่องการบรรจุข้าราชการพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้ข้อยุติที่น่าจะแก้ปัญหาได้โดยไม่ลำบากกับภาระงบประมาณ และไม่เดือดร้อนกับพยาบาล มีหลายทางเลือก แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ด้วยวาจาในวันที่ 16 พ.ค. หาก ครม.มีมติไปในแนวทางใด จะทำเอกสารกลับมาให้ ครม.มีมติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อาจจะใช้เวลาไม่มาก ครม.เห็นทางออกและบอกทางออกให้แล้ว
วันต่อมา(16 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวหลังประชุม ครม.ถึงการบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการว่า ตนรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ไปหาวิธีการเพื่อแก้ปัญหาแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น ตนขอใช้คำว่า จะมีการทยอยบรรจุให้ โดยใช้อัตราภายในไปก่อน นี่คือหลักการที่สามารถปรับได้จำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็จะมีการเพิ่มเติมให้ในห้วงเวลา 3 ปี เบื้องต้นแค่นี้ไปก่อน คิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้
ต่อมา พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุม ครม.ถึงการแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวให้บรรจุเป็นข้าราชการจำนวนประมาณ 11,000 อัตราว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ได้เสนอแนวทางในที่ประชุมว่า อัตราว่างในปีนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถบรรจุได้คือ 2,200 อัตรา ดังนั้นจะเหลือ 8,900 อัตรา และหากดำเนินการบรรจุใน 3 ปีตั้งแต่ปีนี้จะบรรจุได้ปีละ 2,900 อัตรา รวมกับจำนวนพยาบาลที่จะเกษียณอายุราชการ หากดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ก็จะสามารถบรรจุพยาบาลได้ทั้งหมด โดยเป็นเพียงแนวทางแก้ปัญหาที่มีการนำเสนอ ซึ่งที่ประชุมก็พอใจ
นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอตั้งคณะกรรมการเป้าหมายนโยบายบุคลากรสาธารณสุขขึ้น เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรภายในกระทรวงฯ อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แก้ปัญหารายปี โดยคาดว่าคณะกรรมการดังกล่าวจะสามารถนำเสนอ ครม.เพื่อแก้ปัญหาได้ในวันที่ 23 พ.ค. อย่างไรก็ตาม พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพราะแรงกดดันจากพยาบาลที่ขู่จะลาออก รัฐบาลถึงลงมาแก้ปัญหา แต่เพราะรัฐบาลอยากแก้ปัญหาด้วยการฟังเหตุและผล ซึ่งพบว่าเรื่องนี้มีปัญหาจริง
ด้าน น.ส.รุ่งทิวา พนมแก พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รพ.ร้อยเอ็ด ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี ครม.เห็นชอบตามที่มีการเสนอเรื่องขอบรรจุอัตราตำแหน่งข้าราชการของพยาบาลวิชาชีพ 8,900 ตำแหน่งใน 3 ปี และในปีนี้ให้อีก 2,200 อัตรา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ครั้งหน้าว่า จากข่าวรู้สึกพอใจ เพียงแต่อยากได้ความชัดเจนมากกว่านี้ แบบเป็นลายลักษณ์อักษร ออกเป็นมติ ครม.ก่อน จึงจะมั่นใจว่า พยาบาลได้รับความเห็นใจจริงๆ พร้อมเชื่อว่า หากพยาบาลวิชาชีพได้รับการบรรจุ จะไม่มีการลาออก เพราะได้รับแรงจูงใจและมีกำลังใจในการทำงาน เนื่องจากพยาบาลรอการเข้าบรรจุตำแหน่งมานาน ส่วนบางกลุ่มที่อาจลาออก เพราะต้องการไปศึกษาต่อ หรือมีปัญหาเรื่องเงินที่ไม่สอดคล้องกับภาระงานนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่พึงกระทำ แต่กลุ่มนี้เป็นส่วนน้อย น.ส.รุ่งทิวา ยังเชื่อด้วยว่า หากได้รับตำแหน่งตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ จะสามารถบริหารจัดการอัตราตำแหน่งว่างในแต่ละปีอย่างลงตัว ไม่มีตกค้างอีก และที่ต้องออกมาเรียกร้อง เพราะหาก ครม.ไม่อนุมัติ จะทำให้มีตำแหน่งตกค้างอีกมาก และก็จะสะสมไปเรื่อยๆ
3.ดีเอสไอ ออกหมายเรียก “อนันต์ อัศวโภคิน” รับทราบข้อกล่าวหา “สมคบ-ร่วมกันฟอกเงิน” สหกรณ์ฯ คลองจั่น 7 มิ.ย.นี้!
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยความคืบหน้ากรณีที่ดีเอสไอได้สอบสวนดำเนินคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก ร่วมกันนำเงินของสหกรณ์ฯ ที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชนออกจากสหกรณ์ด้วยการสั่งจ่ายเป็นเช็คของสหกรณ์ฯ จำนวนหลายฉบับ โดยมีพยานหลักฐานเพียงพอดำเนินคดีในความผิดฐานสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งได้สั่งฟ้องนายศุภชัยกับพวกต่ออัยการไปแล้วนั้น จากการสอบสวนยังพบว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คหลายฉบับรวมประมาณ 275 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด และเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อทรัพย์สินที่เป็นที่ดินของบริษัทจำนวน 3 แปลง โดยในจำนวนดังกล่าวมีที่ดินเนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณใกล้เคียงวัดพระธรรมกายรวมอยู่ด้วย โดยซื้อในนามสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และนายศุภชัย ได้ส่งคนไปเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว และมีหนังสือกำหนดให้การบริหารจัดการอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหกรณ์ซึ่งนายศุภชัยดูแล
ต่อมา วันที่ 21 ธ.ค.2554 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้นำที่ดินของบริษัทขาย เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยที่ดิน 46 ไร่เศษดังกล่าว ได้มีมติขายให้นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานคณะกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งได้ทำสัญญาซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดิน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2554 ภายหลังจากที่คณะกรรมการฯ มีมติเพียง 2 วัน ในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93,781,000 บาท โดยราคาประเมินที่ดินในขณะนั้นราคาตารางวาละ 15,000 บาท คิดเป็นราคาที่ดินประมาณ 281 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างและต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ต่อมา นายอนันต์ได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวต่อให้บุคคลอื่นในราคา 492 ล้านบาทเศษ โดยนายอนันต์ได้นำเงินที่ได้จากการขายจำนวนประมาณ 303 ล้านบาท บริจาคให้มูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง โดยมีพระธัมมชโยเป็นองค์อุปถัมภ์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ในบริเวณมูลนิธิวัดพระธรรมกาย รวมถึงอาคารบุญรักษาด้วย
นอกจากนั้นคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังพบหลักฐานสำคัญว่า นายศุภชัยได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 ธ.ค.2554 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินฯ แสดงเจตนาถวายที่ดิน 46 ไร่เศษดังกล่าวของบริษัท เอ็มโฮมฯ ให้กับพระธัมมชโย โดยนายศุภชัยจะเป็นผู้จัดซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว และถวายให้พระธัมมชโย โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนามนายอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งพระธัมมชโยมอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสาร แต่นายศุภชัยไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าว โดยเป็นการดำเนินการผ่านการขายให้นายอนันต์แทน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานตามสมควรว่า นายอนันต์อาจมีความผิดฐานสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตามมาตรา 5 และมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จึงแยกการสอบสวนเป็นอีกคดีหนึ่ง และพนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการได้มีมติร่วมกันให้เรียกตัวนายอนันต์ อัศวโภคิน มารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลจากการที่นายอนันต์ ถูกดีเอสไอมีมติดำเนินคดีข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาแจ้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า นายอนันต์ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงประธานกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากหลักเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติของกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงิน กำหนดว่า กรรมการสถาบันการเงินจะขาดคุณสมบัติเมื่อ เป็นผู้ที่ถูกหน่วยงานอื่นของรัฐกล่าวโทษร้องทุกข์หรือกำลังถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงหรือทุจริตทางการเงิน
4.ปลัดมหาดไทยเผยผลสอบ “สืบศักดิ์” ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนไม่ได้ซื้อบริการทางเพศเด็ก เตรียมคืนเก้าอี้ผู้ว่าฯ ให้ ด้าน ตร.รวบสมาชิก อบต.บ้านใหม่ อ้างชื่อผู้ว่าฯ ซื้อบริการ!
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการทางเพศเยาวชน ได้ร่วมกันแถลงผลการสอบสวน โดยนายกฤษฎากล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการฯ ใช้เวลา 30 วัน ในการสอบสวนทั้งพยานในพื้นที่ พยานแวดล้อม พยานผู้รู้เห็น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 29 ปาก เบื้องต้นนายสืบศักดิ์ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่านายสืบศักดิ์ได้เดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอน ในวันที่ 22 - 23 ก.ย.59 นั้น นายสืบศักดิ์ได้นำพยานหลักฐานมาแสดงว่า วันเวลาดังกล่าวได้เข้ารับการอบรมอยู่ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้เดินทางในเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ และจากเชียงใหม่ ไปแม่ฮ่องสอน ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ไม่พบรายชื่อของนายสืบศักดิ์แต่อย่างใด
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีการจัดเด็กไปให้บริการในงานเลี้ยงต้อนรับผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในวันที่ 1 ต.ค.59 นั้น คณะกรรมการได้ไปสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนต่างให้การตรงกันว่า การจัดเลี้ยงต้อนรับนั้นจัดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ที่รีสอร์ทแต่อย่างใด ภายในงานเลี้ยงก็มีเพียงการผูกข้อมือตามประเพณีและไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากการสอบปากคำเด็กหญิง 2 รายซึ่งเป็นผู้เสียหาย ปรากฏว่า เด็กหญิงทั้ง 2 คน ยืนยันว่า ไม่ใช่นายสืบศักดิ์ที่ซื้อบริการ และตอนชี้ภาพ ก็ไม่ได้ชี้ภาพนายสืบศักดิ์
นายกฤษฎา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสอบวินัยผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน จึงขอสั่งยุติเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเนื่องจากขณะนี้ได้มอบหมายให้นายสืบศักดิ์มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย ดูแลเรื่องแผนงบประมาณจังหวัดประจำปี 60 และ 61 และงานยังติดพันอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นจะมีคำสั่งให้นายสืบศักดิ์กลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนตามเดิม เพราะตามกฎหมายแล้ว นายสืบศักดิ์ยังคงมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนอยู่
ปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้ขอร้องให้ทุกฝ่ายเห็นใจนายสืบศักดิ์ด้วย เพราะผู้ว่าฯ ต้องทำงานมากมาย ระหว่างที่มีการสอบสวน ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก แต่คนเป็นผู้ว่าฯ ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนและเข้มแข็ง
ด้านนายสืบศักดิ์ ได้แถลงเปิดใจที่กระทรวงมหาดไทย ภายหลังทราบผลการสอบสวนว่าตนเองไม่มีความผิดว่า ขอให้เป็นไปตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยชี้แจงก่อนหน้านี้ ส่วนความรู้สึกนั้น เรื่องมันจบแล้วก็คือจบ แต่จะเดินหน้าต่อเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ใน จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากนี้จะกลับไปดำเนินการให้เข้มงวดขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ทุกส่วนราชการต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหารายได้น้อยของคนในพื้นที่ มีบุคคลไร้สัญชาติกว่า 40,000 คน รวมถึงมีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตป่ากว่า 90% ดังนั้น จึงต้องแก้ไขปัญหาในเรื่องรายได้ ที่อยู่อาศัย และสิทธิมนุษยชน สำหรับกรณีที่มีผู้อ้างชื่อตนนั้น ก็จะไม่ฟ้องร้องใคร เพราะเรื่องจบแล้วก็คือจบ ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร ปัจจุบันการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ คนไทยต้องสามัคคีกัน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสแล้วว่า เราต้องรู้รักสามัคคีกัน จะไปต่อความยาวสาวความยืดทำไม
ทั้งนี้ นายสืบศักดิ์กล่าวด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าสื่อมวลชนเองก็มีส่วนผิดด้วย ตนขอแถลงข่าวเพียงวันนี้เท่านั้น สื่อไม่ต้องโทรหาอีก จะไม่ออกทีวีทุกช่อง เพราะออกมาเยอะแล้ว เรื่องจบแล้วก็คือจบ และจะขออนุญาตผู้บังคับบัญชาลาพักร้อน
ทั้งนี้ นอกจากนายสืบศักดิ์จะพ้นมลทินหลังถูกกล่าวหาว่าซื้อบริการทางเพศเด็กแล้ว ปรากฏว่า ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายชูชาติ หรือช้าง พ่วงจีน อายุ 56 ปี สมาชิก อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา "เพื่อให้มีการค้าประเวณี รับตัวบุคคล ซึ่งตนรู้อยู่ว่ามีผู้จัดหา ชักพาหรือล่อไปหรือสนับสนุนให้มีการค้าประเวณี โดยได้กระทำต่อบุคคลอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" โดยนายชูชาติให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อบริการทางเพศขณะเดินทางไปดูงานกับทาง อบต.บ้านใหม่ ที่ จ.แม่ฮ่องสอนจริง แต่ไม่ได้แอบอ้างชื่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด มีแต่เพียงพูดเล่นๆกันในกลุ่มเพื่อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง นายชูชาติยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชน หลังถูก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถามว่า ซื้อบริการเด็กจริง พร้อมยอมรับว่าอ้างว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเด็กเปิดดูโทรศัพท์แล้วพบภาพตนสวมชุดข้าราชการจึงได้ถามว่าตนทำงานอะไร จึงบอกว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายตามมา ตนจึงขอฝากขอโทษท่านผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยที่ทำให้เสียชื่อเสียง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยจะยึดเอาผลการสอบสวนของตำรวจภาค 5 ส่วนการลงโทษนั้นต้องรอผลสอบสวนเสร็จเรียบร้อยก่อนหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะลงโทษตามบทบัญญัติของกระทรวงมหาดไทย
5.สคบ. มีมติห้ามโฆษณากระทะ “โคเรีย คิง” แล้ว หลังพบปลอมราคาจริง - ไม่ได้เคลือบ 8 ชั้นตามคำโฆษณา รอผลพิสูจน์อีก 2 หน่วยงาน!
จากกรณีที่สังคมได้เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ตรวจสอบกรณีกระทะโคเรีย คิง โฆษณาว่าตัวกระทะทำจากหินอ่อน เมื่อนำไปปรุงอาหาร ทำให้อาหารไม่ติดกระทะ โดยมีราคาสูงถึงใบละ 15,000 บาท แต่หากซื้อผ่านรายการส่งเสริมการขายจะเหลือเพียง 3,000 บาท และซื้อ 1 ใบ แถมอีก 1 ใบ ว่ามีการตั้งราคาขายและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายวีระพงษ์ บุญโญภาส ประธานคณะกรรมการขายตรงและการตลาดแบบตรง สคบ.ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขายตรงและการตลาดแบบตรง เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนเรื่องกระทะโคเรีย คิง โดยมีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบคุณภาพของกระทะ 3 หน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ 1.ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ(MTEC) 2.กรมวิทยาศาสตร์บริการ และ 3.นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม นอกจากนี้ยังมีตัวแทนของบริษัทผู้นำเข้ากระทะโคเรีย คิง พร้อมทนายความร่วมประชุมด้วย
หลังประชุม นายวีระพงษ์ เผยว่า ผลการประชุมกรณีกระทะโคเรีย คิง ได้ข้อสรุปว่า สินค้าต้องมีราคาอ้างอิงที่ชัดเจน ข้อความต้องเป็นธรรม เพราะมีผลทางจิตวิทยา ขณะนี้พบว่า โฆษณามีลักษณะจูงใจ เช่น ใช้คำว่า กระทะโคเรีย คิง มีความลื่นไหลกว่า 300% หรือ 3 เท่า เคลือบ 8 ชั้น หรือกำหนดเงื่อนไขให้ได้โปรโมชั่น ซึ่งการโฆษณาต้องสามารถพิสูจน์ได้ แต่กรณีนี้ถือว่ายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ส่วนการโฆษณาว่าเคลือบ 8 ชั้นนั้น จากการตรวจสอบ มีการสรุปผลแล้ว 1 แห่ง พบว่า รุ่นโกลด์ซีรีส์ เคลือบ 5 ชั้น ส่วนรุ่นโกลด์ไดม่อน เคลือบ 2 ชั้น ไม่ใช่ 8 ชั้นตามโฆษณา ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ส่งพิสูจน์อีก 2 หน่วยงานก่อน
นายวีระพงษ์ กล่าวอีกว่า “สิ่งสำคัญที่พบคือ ไม่มีการอ้างอิงที่มาของราคาที่จำหน่าย 15,000 และ 18,000 บาท การโฆษณาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นไปตามนั้น ถือเป็นการโฆษณาไม่เป็นธรรม Fake Original Price หรือการปลอมราคาจริง จึงมีมติสั่งห้ามโฆษณา ซึ่งอาจยังต้องรอผลการพิสูจน์คุณสมบัติทั้งหมดอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะได้รับผลพิสูจน์เพียง 1 แห่ง ในการประชุมจึงยังไม่ได้หารือเรื่องของชั้นเคลือบกระทะมากนัก แต่ได้หารือเรื่องคำโฆษณา เช่น เคลือบกี่ชั้น ลื่นไหลกี่เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการระบุว่าได้โปรโมชั่นตามเงื่อนไขเวลา ถือเป็นการตลาดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เนื่องจากไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเป็นเช่นนั้น ส่งผลต่อการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมทางการค้า และเกิดความเสียหายต่อสังคม เพราะการลดราคาจนเกิดแรงจูงใจต่อผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งในต่างประเทศก็ไม่ยอมให้มีแบบนี้ขึ้น”
นายวีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้บริโภคที่คิดว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย ต้องการเงินคืน หากจะร้องต่อ สคบ. ต้องบอกว่า สคบ.ไม่ใช่ศาล อาจต้องเรียกร้องต่อศาลโดยตรง และพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่ได้รับเป็นจริง
เป็นที่น่าสังเกตว่า สคบ.ได้สั่งห้ามโฆษณากระทะโคเรีย คิง จนกว่าจะมีการปรับแก้ถ้อยคำในโฆษณา อย่างไรก็ตาม สคบ.ไม่ได้ห้ามการจำหน่ายสินค้าแต่อย่างใด และยังไม่ได้พิจารณาเรื่องบทลงโทษ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. บริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคเรีย คิง ในประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยในความไม่สบายใจจากการโฆษณา และน้อมรับคำสั่งของ สคบ. โดยทางบริษัทฯ ได้สั่งระงับการออกอากาศโฆษณาสินค้าทุกรุ่นเรียบร้อยแล้วในทุกช่อง และได้เร่งดำเนินการแก้ไขโฆษณาให้เหมาะสมต่อไป บริษัทดังกล่าวยังยืนยันด้วยว่า เป็นผู้นำเข้าสินค้าโคเรีย คิง จากประเทศเกาหลีใต้ และได้ผลิตโฆษณาบอกคุณสมบัติและคุณภาพตามมาตรฐานการรับรองจากประเทศเกาหลีใต้ ส่วนเรื่องคุณภาพสินค้า บริษัทมั่นใจในกระบวนการผลิต และมาตรฐานการผลิตจากประเทศเกาหลี และได้ส่งเอกสารใบรับรองเกี่ยวกับคุณภาพ มาตรฐานการผลิตที่ได้จากโคเรีย คิง ตามที่ สคบ.ร้องขอมาทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ทางโคเรีย คิง ยังชี้แจงด้วยว่า นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าโคเรีย คิง ในประเทศไทยเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงขออภัยที่ทำให้วู้ดดี้ได้รับผลกระทบจากกระแสสังคมไปด้วย
1.เกิดเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ เจ็บเล็กน้อย 2 ราย ผลตรวจสอบพบคล้าย “ไปป์บอมบ์” หน้ากองสลากเดิม!
เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค. เวลา 20.30 น. ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ ใกล้สนามหลวง แรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย คือ น.ส.จันทร์เพ็ญ วุฒิเอกไพบูลย์ และ น.ส.กัญชนา บุญชีพ โดยบาดเจ็บบริเวณต้นแขนและขา
ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนนำท่อพีวีซีมาให้ผู้สื่อข่าวดม พร้อมยืนยันว่า เบื้องต้นไม่ใช่เป็นการสร้างสถานการณ์ และว่า การระเบิดเกิดจากแรงดันอากาศในท่อพีวีซี ตรวจสอบไม่พบดินปืน หรือวัตถุประกอบระเบิด แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบก่อน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุของการระเบิดอาจเกิดจากลมพัดป้ายโฆษณาแรง ทำให้ป้ายโบกไปมา เสียดสีกับท่อพีวีซีจนเกิดเหตุดังกล่าว
วันต่อมา(16 พ.ค.) มีรายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลักฐานสำคัญคือ ไอซีไทม์เมอร์ หนึ่งในชิ้นส่วนใช้ประกอบระเบิดไปป์บอมบ์ตกบริเวณพื้น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร และว่า ไอซีไทม์เมอร์ดังกล่าวมีลักษณะเดียวกับเหตุที่คนร้ายลอบวางระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(เดิม) ถ.ราชดำเนินกลาง เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการใช้ไอซีไทม์เมอร์เป็นตัวจุดระเบิดโดยการตั้งเวลา รายงานแจ้งด้วยว่า ผู้ก่อเหตุต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้มุ่งประสงค์ต่อชีวิตแต่อย่างใด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ฝากให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง เพราะแม้สถานการณ์จะดูปกติดี แต่อาจมีคนไม่ดีแอบแฝงอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะการสำรวจกล้องซีซีทีวีทุกพื้นที่ เพราะช่วงนี้จะครบ 3 ปี การทำงานของ คสช.และรัฐบาล อาจมีบางพวกที่อยากดิสเครดิตการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ยืนยันจะตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้าเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติว่า จากการตรวจสอบวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ ผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า เป็นวัตถุระเบิดจริง เป็นชนิดโพแทสเซียมคลอเรต มีไอซีไทม์เมอร์จุดระเบิดคล้ายกับที่เคยถูกใช้ก่อเหตุบริเวณถังขยะ หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล(เดิม) อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากต้องรอพิสูจน์วิธีการประกอบระเบิดจากรอยบัดกรีเชี่อมกับสายไฟ แต่พบว่ามีส่วนใกล้เคียงกันมาก
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังเชื่อด้วยว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดดังกล่าวต้องการแค่ก่อกวน เพราะชนิดของระเบิดที่ใช้มีอานุภาพน้อยกว่าไปไปป์บอมบ์มาก หรือจากที่เคยพบก่อนหน้านี้ในช่วงการชุมนุมทางการเมือง โดยใช้ดินระเบิดน้อยจนไม่พบกลิ่นและควัน เป็นชนิดที่ใช้ดินระเบิดแรงกว่าประทัดยักษ์เล็กน้อย และว่า ระเบิดที่นำมาก่อเหตุครั้งนี้ มีลักษณะเดียวกับที่เคยพบถูกนำไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดขายแดนภาคใต้ ในช่วงตั้งแต่ปี 2550-2551
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่เคยพูดในช่วงแรกว่าไม่ใช่ระเบิด แค่ท่อพีวีซีแตกว่า เนื่องจากช่วงนั้นเหตุเพิ่งเกิดขึ้น และที่พูดไป เป็นกลยุทธ์ทำให้คนร้ายตายใจ แต่หลังจากสั่งให้เจ้าหน้าที่เดินหาหลักฐาน พบชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิดห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร จึงนำชิ้นส่วนส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลาง “เรื่องที่เกิดขึ้น อย่าไปสนใจให้ราคาคนพวกนี้ เอาบ้านเมืองเป็นหลัก พวกเราควรหาตัวคนร้ายดีกว่า... ทั้งนี้ อีก 10 ชาติก็ต้องจับให้ได้ ถ้ามีชื่อศานิตย์อยู่ จะทำหน้าที่ถึงที่สุด”
2. รัฐบาลถอยแล้ว ยอมบรรจุพยาบาล 8,900 อัตราใน 3 ปี เกลี่ยอัตราว่างปีนี้อีก 2,200 อัตรา ด้านพยาบาลวิชาชีพพอใจ ไม่ลาออกแล้ว!
ความคืบหน้ากรณีเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการประกาศจะลาออกทั่วประเทศนับหมื่นคนภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ไม่อนุมัติบรรจุอัตรากำลังข้าราชการบรรจุใหม่จำนวน 10,922 ตำแหน่งตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องแนวทางแก้ปัญหาอัตรากำลังข้าราชการในส่วนพยาบาล
นพ.โสภณ เผยหลังประชุมว่า เบื้องต้นหารือกันว่า ปัจจุบันยังขาดพยาบาลทำงานอีก 8,532 ตำแหน่ง จากที่มีอยู่กว่า 100,000 คน เนื่องจากยึดจากภาระงาน ปริมาณงานที่มีว่า พยาบาล 1 คน ควรทำงานเท่าใด โดยจะนำข้อมูลเสนอคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ว่า การใช้ประมาณการขององค์การอนามัยโลกอาจไม่จริง ทั้งนี้ นพ.โสภณ เผยว่า กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันตัวเลขเดิมว่า จำเป็นต้องขออัตราบรรจุข้าราชการพยาบาล 10,922 ตำแหน่งใน 3 ปี
วันเดียวกัน(15 พ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือทางออกเรื่องการบรรจุข้าราชการพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้ข้อยุติที่น่าจะแก้ปัญหาได้โดยไม่ลำบากกับภาระงบประมาณ และไม่เดือดร้อนกับพยาบาล มีหลายทางเลือก แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ด้วยวาจาในวันที่ 16 พ.ค. หาก ครม.มีมติไปในแนวทางใด จะทำเอกสารกลับมาให้ ครม.มีมติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อาจจะใช้เวลาไม่มาก ครม.เห็นทางออกและบอกทางออกให้แล้ว
วันต่อมา(16 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวหลังประชุม ครม.ถึงการบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการว่า ตนรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ไปหาวิธีการเพื่อแก้ปัญหาแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น ตนขอใช้คำว่า จะมีการทยอยบรรจุให้ โดยใช้อัตราภายในไปก่อน นี่คือหลักการที่สามารถปรับได้จำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็จะมีการเพิ่มเติมให้ในห้วงเวลา 3 ปี เบื้องต้นแค่นี้ไปก่อน คิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้
ต่อมา พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุม ครม.ถึงการแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวให้บรรจุเป็นข้าราชการจำนวนประมาณ 11,000 อัตราว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ได้เสนอแนวทางในที่ประชุมว่า อัตราว่างในปีนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถบรรจุได้คือ 2,200 อัตรา ดังนั้นจะเหลือ 8,900 อัตรา และหากดำเนินการบรรจุใน 3 ปีตั้งแต่ปีนี้จะบรรจุได้ปีละ 2,900 อัตรา รวมกับจำนวนพยาบาลที่จะเกษียณอายุราชการ หากดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ก็จะสามารถบรรจุพยาบาลได้ทั้งหมด โดยเป็นเพียงแนวทางแก้ปัญหาที่มีการนำเสนอ ซึ่งที่ประชุมก็พอใจ
นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอตั้งคณะกรรมการเป้าหมายนโยบายบุคลากรสาธารณสุขขึ้น เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรภายในกระทรวงฯ อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แก้ปัญหารายปี โดยคาดว่าคณะกรรมการดังกล่าวจะสามารถนำเสนอ ครม.เพื่อแก้ปัญหาได้ในวันที่ 23 พ.ค. อย่างไรก็ตาม พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพราะแรงกดดันจากพยาบาลที่ขู่จะลาออก รัฐบาลถึงลงมาแก้ปัญหา แต่เพราะรัฐบาลอยากแก้ปัญหาด้วยการฟังเหตุและผล ซึ่งพบว่าเรื่องนี้มีปัญหาจริง
ด้าน น.ส.รุ่งทิวา พนมแก พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รพ.ร้อยเอ็ด ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี ครม.เห็นชอบตามที่มีการเสนอเรื่องขอบรรจุอัตราตำแหน่งข้าราชการของพยาบาลวิชาชีพ 8,900 ตำแหน่งใน 3 ปี และในปีนี้ให้อีก 2,200 อัตรา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ครั้งหน้าว่า จากข่าวรู้สึกพอใจ เพียงแต่อยากได้ความชัดเจนมากกว่านี้ แบบเป็นลายลักษณ์อักษร ออกเป็นมติ ครม.ก่อน จึงจะมั่นใจว่า พยาบาลได้รับความเห็นใจจริงๆ พร้อมเชื่อว่า หากพยาบาลวิชาชีพได้รับการบรรจุ จะไม่มีการลาออก เพราะได้รับแรงจูงใจและมีกำลังใจในการทำงาน เนื่องจากพยาบาลรอการเข้าบรรจุตำแหน่งมานาน ส่วนบางกลุ่มที่อาจลาออก เพราะต้องการไปศึกษาต่อ หรือมีปัญหาเรื่องเงินที่ไม่สอดคล้องกับภาระงานนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่พึงกระทำ แต่กลุ่มนี้เป็นส่วนน้อย น.ส.รุ่งทิวา ยังเชื่อด้วยว่า หากได้รับตำแหน่งตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ จะสามารถบริหารจัดการอัตราตำแหน่งว่างในแต่ละปีอย่างลงตัว ไม่มีตกค้างอีก และที่ต้องออกมาเรียกร้อง เพราะหาก ครม.ไม่อนุมัติ จะทำให้มีตำแหน่งตกค้างอีกมาก และก็จะสะสมไปเรื่อยๆ
3.ดีเอสไอ ออกหมายเรียก “อนันต์ อัศวโภคิน” รับทราบข้อกล่าวหา “สมคบ-ร่วมกันฟอกเงิน” สหกรณ์ฯ คลองจั่น 7 มิ.ย.นี้!
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยความคืบหน้ากรณีที่ดีเอสไอได้สอบสวนดำเนินคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก ร่วมกันนำเงินของสหกรณ์ฯ ที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชนออกจากสหกรณ์ด้วยการสั่งจ่ายเป็นเช็คของสหกรณ์ฯ จำนวนหลายฉบับ โดยมีพยานหลักฐานเพียงพอดำเนินคดีในความผิดฐานสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งได้สั่งฟ้องนายศุภชัยกับพวกต่ออัยการไปแล้วนั้น จากการสอบสวนยังพบว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คหลายฉบับรวมประมาณ 275 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด และเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อทรัพย์สินที่เป็นที่ดินของบริษัทจำนวน 3 แปลง โดยในจำนวนดังกล่าวมีที่ดินเนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณใกล้เคียงวัดพระธรรมกายรวมอยู่ด้วย โดยซื้อในนามสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และนายศุภชัย ได้ส่งคนไปเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว และมีหนังสือกำหนดให้การบริหารจัดการอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหกรณ์ซึ่งนายศุภชัยดูแล
ต่อมา วันที่ 21 ธ.ค.2554 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้นำที่ดินของบริษัทขาย เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยที่ดิน 46 ไร่เศษดังกล่าว ได้มีมติขายให้นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานคณะกรรมการบริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งได้ทำสัญญาซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดิน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2554 ภายหลังจากที่คณะกรรมการฯ มีมติเพียง 2 วัน ในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93,781,000 บาท โดยราคาประเมินที่ดินในขณะนั้นราคาตารางวาละ 15,000 บาท คิดเป็นราคาที่ดินประมาณ 281 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างและต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ต่อมา นายอนันต์ได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวต่อให้บุคคลอื่นในราคา 492 ล้านบาทเศษ โดยนายอนันต์ได้นำเงินที่ได้จากการขายจำนวนประมาณ 303 ล้านบาท บริจาคให้มูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง โดยมีพระธัมมชโยเป็นองค์อุปถัมภ์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ในบริเวณมูลนิธิวัดพระธรรมกาย รวมถึงอาคารบุญรักษาด้วย
นอกจากนั้นคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังพบหลักฐานสำคัญว่า นายศุภชัยได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 ธ.ค.2554 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินฯ แสดงเจตนาถวายที่ดิน 46 ไร่เศษดังกล่าวของบริษัท เอ็มโฮมฯ ให้กับพระธัมมชโย โดยนายศุภชัยจะเป็นผู้จัดซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว และถวายให้พระธัมมชโย โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนามนายอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งพระธัมมชโยมอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสาร แต่นายศุภชัยไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าว โดยเป็นการดำเนินการผ่านการขายให้นายอนันต์แทน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานตามสมควรว่า นายอนันต์อาจมีความผิดฐานสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ตามมาตรา 5 และมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จึงแยกการสอบสวนเป็นอีกคดีหนึ่ง และพนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการได้มีมติร่วมกันให้เรียกตัวนายอนันต์ อัศวโภคิน มารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลจากการที่นายอนันต์ ถูกดีเอสไอมีมติดำเนินคดีข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาแจ้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า นายอนันต์ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงประธานกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากหลักเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติของกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงิน กำหนดว่า กรรมการสถาบันการเงินจะขาดคุณสมบัติเมื่อ เป็นผู้ที่ถูกหน่วยงานอื่นของรัฐกล่าวโทษร้องทุกข์หรือกำลังถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงหรือทุจริตทางการเงิน
4.ปลัดมหาดไทยเผยผลสอบ “สืบศักดิ์” ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนไม่ได้ซื้อบริการทางเพศเด็ก เตรียมคืนเก้าอี้ผู้ว่าฯ ให้ ด้าน ตร.รวบสมาชิก อบต.บ้านใหม่ อ้างชื่อผู้ว่าฯ ซื้อบริการ!
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการทางเพศเยาวชน ได้ร่วมกันแถลงผลการสอบสวน โดยนายกฤษฎากล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการฯ ใช้เวลา 30 วัน ในการสอบสวนทั้งพยานในพื้นที่ พยานแวดล้อม พยานผู้รู้เห็น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 29 ปาก เบื้องต้นนายสืบศักดิ์ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่านายสืบศักดิ์ได้เดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอน ในวันที่ 22 - 23 ก.ย.59 นั้น นายสืบศักดิ์ได้นำพยานหลักฐานมาแสดงว่า วันเวลาดังกล่าวได้เข้ารับการอบรมอยู่ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้เดินทางในเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ และจากเชียงใหม่ ไปแม่ฮ่องสอน ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ไม่พบรายชื่อของนายสืบศักดิ์แต่อย่างใด
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีการจัดเด็กไปให้บริการในงานเลี้ยงต้อนรับผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในวันที่ 1 ต.ค.59 นั้น คณะกรรมการได้ไปสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนต่างให้การตรงกันว่า การจัดเลี้ยงต้อนรับนั้นจัดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ที่รีสอร์ทแต่อย่างใด ภายในงานเลี้ยงก็มีเพียงการผูกข้อมือตามประเพณีและไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากการสอบปากคำเด็กหญิง 2 รายซึ่งเป็นผู้เสียหาย ปรากฏว่า เด็กหญิงทั้ง 2 คน ยืนยันว่า ไม่ใช่นายสืบศักดิ์ที่ซื้อบริการ และตอนชี้ภาพ ก็ไม่ได้ชี้ภาพนายสืบศักดิ์
นายกฤษฎา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสอบวินัยผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน จึงขอสั่งยุติเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเนื่องจากขณะนี้ได้มอบหมายให้นายสืบศักดิ์มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย ดูแลเรื่องแผนงบประมาณจังหวัดประจำปี 60 และ 61 และงานยังติดพันอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นจะมีคำสั่งให้นายสืบศักดิ์กลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนตามเดิม เพราะตามกฎหมายแล้ว นายสืบศักดิ์ยังคงมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนอยู่
ปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้ขอร้องให้ทุกฝ่ายเห็นใจนายสืบศักดิ์ด้วย เพราะผู้ว่าฯ ต้องทำงานมากมาย ระหว่างที่มีการสอบสวน ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก แต่คนเป็นผู้ว่าฯ ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนและเข้มแข็ง
ด้านนายสืบศักดิ์ ได้แถลงเปิดใจที่กระทรวงมหาดไทย ภายหลังทราบผลการสอบสวนว่าตนเองไม่มีความผิดว่า ขอให้เป็นไปตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยชี้แจงก่อนหน้านี้ ส่วนความรู้สึกนั้น เรื่องมันจบแล้วก็คือจบ แต่จะเดินหน้าต่อเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ใน จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากนี้จะกลับไปดำเนินการให้เข้มงวดขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ทุกส่วนราชการต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหารายได้น้อยของคนในพื้นที่ มีบุคคลไร้สัญชาติกว่า 40,000 คน รวมถึงมีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตป่ากว่า 90% ดังนั้น จึงต้องแก้ไขปัญหาในเรื่องรายได้ ที่อยู่อาศัย และสิทธิมนุษยชน สำหรับกรณีที่มีผู้อ้างชื่อตนนั้น ก็จะไม่ฟ้องร้องใคร เพราะเรื่องจบแล้วก็คือจบ ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร ปัจจุบันการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ คนไทยต้องสามัคคีกัน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสแล้วว่า เราต้องรู้รักสามัคคีกัน จะไปต่อความยาวสาวความยืดทำไม
ทั้งนี้ นายสืบศักดิ์กล่าวด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าสื่อมวลชนเองก็มีส่วนผิดด้วย ตนขอแถลงข่าวเพียงวันนี้เท่านั้น สื่อไม่ต้องโทรหาอีก จะไม่ออกทีวีทุกช่อง เพราะออกมาเยอะแล้ว เรื่องจบแล้วก็คือจบ และจะขออนุญาตผู้บังคับบัญชาลาพักร้อน
ทั้งนี้ นอกจากนายสืบศักดิ์จะพ้นมลทินหลังถูกกล่าวหาว่าซื้อบริการทางเพศเด็กแล้ว ปรากฏว่า ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายชูชาติ หรือช้าง พ่วงจีน อายุ 56 ปี สมาชิก อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา "เพื่อให้มีการค้าประเวณี รับตัวบุคคล ซึ่งตนรู้อยู่ว่ามีผู้จัดหา ชักพาหรือล่อไปหรือสนับสนุนให้มีการค้าประเวณี โดยได้กระทำต่อบุคคลอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" โดยนายชูชาติให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อบริการทางเพศขณะเดินทางไปดูงานกับทาง อบต.บ้านใหม่ ที่ จ.แม่ฮ่องสอนจริง แต่ไม่ได้แอบอ้างชื่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด มีแต่เพียงพูดเล่นๆกันในกลุ่มเพื่อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง นายชูชาติยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชน หลังถูก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถามว่า ซื้อบริการเด็กจริง พร้อมยอมรับว่าอ้างว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเด็กเปิดดูโทรศัพท์แล้วพบภาพตนสวมชุดข้าราชการจึงได้ถามว่าตนทำงานอะไร จึงบอกว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายตามมา ตนจึงขอฝากขอโทษท่านผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยที่ทำให้เสียชื่อเสียง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยจะยึดเอาผลการสอบสวนของตำรวจภาค 5 ส่วนการลงโทษนั้นต้องรอผลสอบสวนเสร็จเรียบร้อยก่อนหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะลงโทษตามบทบัญญัติของกระทรวงมหาดไทย
5.สคบ. มีมติห้ามโฆษณากระทะ “โคเรีย คิง” แล้ว หลังพบปลอมราคาจริง - ไม่ได้เคลือบ 8 ชั้นตามคำโฆษณา รอผลพิสูจน์อีก 2 หน่วยงาน!
จากกรณีที่สังคมได้เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ตรวจสอบกรณีกระทะโคเรีย คิง โฆษณาว่าตัวกระทะทำจากหินอ่อน เมื่อนำไปปรุงอาหาร ทำให้อาหารไม่ติดกระทะ โดยมีราคาสูงถึงใบละ 15,000 บาท แต่หากซื้อผ่านรายการส่งเสริมการขายจะเหลือเพียง 3,000 บาท และซื้อ 1 ใบ แถมอีก 1 ใบ ว่ามีการตั้งราคาขายและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายวีระพงษ์ บุญโญภาส ประธานคณะกรรมการขายตรงและการตลาดแบบตรง สคบ.ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขายตรงและการตลาดแบบตรง เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนเรื่องกระทะโคเรีย คิง โดยมีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบคุณภาพของกระทะ 3 หน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ 1.ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ(MTEC) 2.กรมวิทยาศาสตร์บริการ และ 3.นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม นอกจากนี้ยังมีตัวแทนของบริษัทผู้นำเข้ากระทะโคเรีย คิง พร้อมทนายความร่วมประชุมด้วย
หลังประชุม นายวีระพงษ์ เผยว่า ผลการประชุมกรณีกระทะโคเรีย คิง ได้ข้อสรุปว่า สินค้าต้องมีราคาอ้างอิงที่ชัดเจน ข้อความต้องเป็นธรรม เพราะมีผลทางจิตวิทยา ขณะนี้พบว่า โฆษณามีลักษณะจูงใจ เช่น ใช้คำว่า กระทะโคเรีย คิง มีความลื่นไหลกว่า 300% หรือ 3 เท่า เคลือบ 8 ชั้น หรือกำหนดเงื่อนไขให้ได้โปรโมชั่น ซึ่งการโฆษณาต้องสามารถพิสูจน์ได้ แต่กรณีนี้ถือว่ายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ส่วนการโฆษณาว่าเคลือบ 8 ชั้นนั้น จากการตรวจสอบ มีการสรุปผลแล้ว 1 แห่ง พบว่า รุ่นโกลด์ซีรีส์ เคลือบ 5 ชั้น ส่วนรุ่นโกลด์ไดม่อน เคลือบ 2 ชั้น ไม่ใช่ 8 ชั้นตามโฆษณา ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ส่งพิสูจน์อีก 2 หน่วยงานก่อน
นายวีระพงษ์ กล่าวอีกว่า “สิ่งสำคัญที่พบคือ ไม่มีการอ้างอิงที่มาของราคาที่จำหน่าย 15,000 และ 18,000 บาท การโฆษณาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นไปตามนั้น ถือเป็นการโฆษณาไม่เป็นธรรม Fake Original Price หรือการปลอมราคาจริง จึงมีมติสั่งห้ามโฆษณา ซึ่งอาจยังต้องรอผลการพิสูจน์คุณสมบัติทั้งหมดอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะได้รับผลพิสูจน์เพียง 1 แห่ง ในการประชุมจึงยังไม่ได้หารือเรื่องของชั้นเคลือบกระทะมากนัก แต่ได้หารือเรื่องคำโฆษณา เช่น เคลือบกี่ชั้น ลื่นไหลกี่เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการระบุว่าได้โปรโมชั่นตามเงื่อนไขเวลา ถือเป็นการตลาดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เนื่องจากไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเป็นเช่นนั้น ส่งผลต่อการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมทางการค้า และเกิดความเสียหายต่อสังคม เพราะการลดราคาจนเกิดแรงจูงใจต่อผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งในต่างประเทศก็ไม่ยอมให้มีแบบนี้ขึ้น”
นายวีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้บริโภคที่คิดว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย ต้องการเงินคืน หากจะร้องต่อ สคบ. ต้องบอกว่า สคบ.ไม่ใช่ศาล อาจต้องเรียกร้องต่อศาลโดยตรง และพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่ได้รับเป็นจริง
เป็นที่น่าสังเกตว่า สคบ.ได้สั่งห้ามโฆษณากระทะโคเรีย คิง จนกว่าจะมีการปรับแก้ถ้อยคำในโฆษณา อย่างไรก็ตาม สคบ.ไม่ได้ห้ามการจำหน่ายสินค้าแต่อย่างใด และยังไม่ได้พิจารณาเรื่องบทลงโทษ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. บริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคเรีย คิง ในประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยในความไม่สบายใจจากการโฆษณา และน้อมรับคำสั่งของ สคบ. โดยทางบริษัทฯ ได้สั่งระงับการออกอากาศโฆษณาสินค้าทุกรุ่นเรียบร้อยแล้วในทุกช่อง และได้เร่งดำเนินการแก้ไขโฆษณาให้เหมาะสมต่อไป บริษัทดังกล่าวยังยืนยันด้วยว่า เป็นผู้นำเข้าสินค้าโคเรีย คิง จากประเทศเกาหลีใต้ และได้ผลิตโฆษณาบอกคุณสมบัติและคุณภาพตามมาตรฐานการรับรองจากประเทศเกาหลีใต้ ส่วนเรื่องคุณภาพสินค้า บริษัทมั่นใจในกระบวนการผลิต และมาตรฐานการผลิตจากประเทศเกาหลี และได้ส่งเอกสารใบรับรองเกี่ยวกับคุณภาพ มาตรฐานการผลิตที่ได้จากโคเรีย คิง ตามที่ สคบ.ร้องขอมาทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ทางโคเรีย คิง ยังชี้แจงด้วยว่า นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าโคเรีย คิง ในประเทศไทยเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงขออภัยที่ทำให้วู้ดดี้ได้รับผลกระทบจากกระแสสังคมไปด้วย