xs
xsm
sm
md
lg

ตีแผ่ “คนไทย” โดดวีซ่าทำงานเกาหลี มีนายหน้า-พ่อเล้าหนุนตั้งแต่ทำเกษตรยันนวดตำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระทู้เว็บดังตีแผ่ขบวนการคนไทยโดดวีซ่า ขายแรงงานที่เกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย ชักชวนผ่านโซเชียลอ้างรายได้ดี เสียเงินหลักหมื่น มีสอนวิธีตบตา ตม. แต่ต้องเจอทำงานทุกวัน หยุดแค่เดือนละ 2 วัน สลดต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เจ็บป่วยก็รักษาแบบอนาถา ตายไปต้องเรี่ยไรขนศพกลับ พบงานนวดแฝงกามสูงถึงเดือนละ 3 แสน

ในเว็บไซต์พันทิป ได้มีผู้ใช้นามว่า “Ethanol” ตั้งกระทู้ในหัวข้อ “”ตีแผ่วงการ “ผีน้อย” ไทย เขาโดดวีซ่าไปทำอะไรกันที่เกาหลีกันนะ?” ซึ่งระบุถึงขบวนการค้ามนุษย์ โดยมีการชักชวนในเฟซบุ๊กและไลน์ให้ไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย ด้วยการเข้าประเทศโดยอาศัยมาตรการฟรีวีซ่า แล้วหลบหนีไปขายแรงงาน หรือขายบริการทางเพศโดยผิดกฎหมาย มีทั้งเพจเอเยนต์จัดหา เพจกลุ่มปิด เพจกลุ่มเปิด บางเพจเหมือนเป็นชุมชนแรงงานไทยผิดกฎหมายอย่างเปิดเผย มีทั้งงานสีเทา สีดำ ซื้อขายทัวร์ราคาถูกเพื่อไปหลบหนี กระทั่งขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ขายยารักษาโรค ขายเบอร์ทอง ขายสินค้ากันในกลุ่ม

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงกันยายน ถือเป็นช่วงที่คึกคักของแรงงานไทยผิดกฎหมาย เนื่องจากพืชผลทางการเกษตรมักจะออกผลผลิตในช่วงฤดูร้อน ตลาดแรงงานเกาหลีจึงมีความต้องการแรงงานราคาถูก สำหรับงานที่ไม่เน้นทักษะเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งพบว่าหากจ้างแรงงานคนไทยจะประหยัดกว่าการจ้างชาวเกาหลีด้วยกันเองถึงครึ่งหนึ่ง หรือถึง 1 ใน 3 ในช่วงฤดูร้อน จึงพบว่า ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีจะเข้มงวดเป็นพิเศษ และคนไทยหลบหนีไปทำงานวันละหลักร้อยคน ส่วนหนึ่งแฝงไปกับกรุ๊ปทัวร์ พอผ่าน ตม. ได้ก็หลบหนีโดยมีคนของเอเย่นต์มารอรับ หรือบางคนอยู่เที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ 2 - 3 วัน ให้บริษัททัวร์มีรายได้จากการชอปปิ้ง แล้วค่อยหายตัวไปในช่วงวันท้ายๆ บางครั้งเหลือลูกทัวร์เพียงแค่ 2 - 3 คนเท่านั้น

ขั้นตอนการไปเกาหลีนั้น ในเฟซบุ๊กจะมีเพจนายหน้าจัดหามากมายประกาศหาคนไปทำงานอย่างต่อเนื่อง นายหน้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยนี่แหละ อาจจะมีการประสานงานระหว่างแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลี กับคนที่คร่ำหวอดในการส่งคนอยู่ที่อยู่ฝั่งไทย โดยสิ่งที่จะได้จากนายหน้า คือ หาตำแหน่งงานและติดต่อนายจ้างให้, ติดต่อที่พัก ติดต่อรถมารอรับที่สนามบิน ส่วนใหญ่จะเข้าทางสนามบินอินชอนในกรุงโซล กับสนามบินกิมแฮ ใกล้กับเมืองปูซาน มีการติววิธีตบตา ตม. แบบตัวต่อตัว เตรียมเอกสาร เช่น หนังสือรับรองการทำงานปลอม บัตรพนักงานปลอม ใบจองโรงแรมปลอม ท่องแผนการท่องเที่ยว สอนการแต่งตัวการจัดกระเป๋าให้ดูเหมือนไปเที่ยว การตอบคำถามจาก ตม. รวมไปถึงการจัดหาตั๋วเครื่องบิน หรือ แพกเกจทัวร์ราคาถูก พอผ่าน ตม. ได้แล้วหลบหนี ซึ่งเป็นสาเหตุที่บางทัวร์พอเห็นลูกทัวร์คนไหนน่าจะมีลักษณะหลบหนีไปทำงาน ก็จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม แล้วค่อยคืนให้ถ้ากลับมาเมืองไทย

นายหน้าเหล่านี้จะมีรอบเดินทางประกาศเป็นรอบ ซึ่งเชื่อว่าจะมีตั๋วกรุ๊ปอยู่ในมือแบบบริษัททัวร์ โดยไม่รู้ว่าบริษัททัวร์บางแห่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับเหล่านายหน้าจัดหาแรงงานคนไทยมากกว่าที่คิด เพราะบางอย่างต้องเป็นบริษัททัวร์ถึงจะเข้าถึงได้ บางเจ้าโฆษณาว่ามีคนคอยประกบอำนวยความสะดวกนั่งเครื่องไปด้วยไปจนถึงเกาหลี ซึ่งคนที่ไปก็คงจะใช้ตั๋วหัวหน้าทัวร์ และคนคอยประกบถือโอกาสรับหิ้วสินค้าเกาหลีกลับมายังประเทศไทยไปด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หากเป็นงานทั่วไป ต้องจ่ายให้นายหน้าก่อนเดินทาง 25,000 - 35,000 บาท และหักเงินเดือนเดือนแรก 15,000 ถึง 20,000 บาท แต่ถ้าติด ตม. แล้วถูกส่งกลับ จะจ่ายคืน 10,000 บาท แต่ถ้าเป็นงานนวดและงานพิเศษ (ขายบริการทางเพศ) จ่ายก่อนไปประมาณ 5,000 บาท แล้วนายทุน หรือพ่อเล้าจะจ่ายค่าตั๋วเดินทางไปเกาหลีให้ก่อน แล้วหักค่าบริการจัดหางานและค่าตั๋วจากเงินเดือนเดือนแรกที่หลัง

ในการเข้าประเทศ นายหน้าส่วนใหญ่จะติวเข้มตัวต่อตัวการตบตา แหกตา ตม. เกาหลี หรือแม้กระทั่งทัวร์ไทยที่เนียนมาด้วยให้ไว้อย่างดี รวมถึงเตรียมเอกสารต่างๆ ทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวจะมีมาให้เรียบร้อย แถมบางทีมีคนของนายหน้าประกบมาด้วย แล้วแต่ว่าคนที่จะไปจะออกพิรุธให้ ตม. ซักถามหรือไม่ คนที่ผ่าน ตม. บางครั้งมีการรายงานไปที่กรุ๊บไลน์หรือเพจนายหน้าด้วย ซึ่งคนที่ผ่านก็มักจะได้รับการแสดงความยินดีเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เพจให้คนไทยที่อยากไปทำงานที่เกาหลีได้มีแรงบันดาลใจ และเป็นพอร์ทโฟลิโอ้ของเอเย่นต์ไปด้วยในตัว และพบว่ามีการพัฒนาการแต่งตัวให้แนบเนียนยิ่งขึ้น แต่ก็มีบางคนทำแสบ เมื่อแฝงตัวมากับกรุ๊ปทัวร์แล้วไม่ผ่าน ตม. ไกด์เซ็นชื่อการันตีให้เพื่อเข้ามาเที่ยว แต่กลับวิ่งหนีข้ามถนนออกไปต่อหน้าต่อตาไกด์ก่อนขึ้นรถบัส จนต้องประกาศผ่านเฟซบุ๊กขอให้กลับมาตามกำหนด เพราะไกด์จะเดือดร้อน ทำงานที่เกาหลีไม่ได้อีกต่อไป

สำหรับงานที่เกาหลีทั่วไปก็เป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะมาก และไม่ต้องใช้แรงงานหนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นงานเก็บเกี่ยวพืชผลเกษตรกรรม ซึ่งมีให้ทำบางฤดูเท่านั้น กับงานโรงงานขนาดเล็ก โรงงานที่บริหารแบบเถ้าแก่ ไม่ใช่โรงงานเต็มรูปแบบ อาทิ โรงงานปั้มอะไหล่รถ ผลิตชิ้นงานที่ไปรับช่วงต่อจากโรงงานใหญ่มาอีกที แต่แต่สิ่งที่ดึงดูดใจให้คนไทยไปค้าแรงงาน คือค่าแรงที่สูงกว่า 4 - 5 เท่า ทำงานวันละ 10 - 12 ชั่วโมง ถ้าเกินก็ได้เป็นโอที พักเดือนละ 2 วัน ตกวันละ 1,200 - 1,500 บาท แม้จะมีที่พักแต่ก็อยู่กันแออัด ในโรงงานอยู่กัน 1 - 2 คน นอกโรงงานอยู่ 3 - 4 คน ส่วนใหญ่งานไม่ค่อยอาศัยทักษะจะมีรายได้ 40,000 - 50,000 บาทต่อเดือน ถ้าอยู่นาน เป็นงาน ทำเร็ว เถ้าแก่ก็เพิ่มให้อีก แต่ก็ต้องแลกกับการทำงานทุกวัน วันละ 10 - 12 ชั่วโมง มีวันหยุดเดือนละ 2 วัน ถ้างานเยอะก็ไม่ได้หยุด บางงานจ้างแบบสามีภรรยาเพราะอัตราการหนีงานต่ำ ซึ่งจะสูงเกือบ 1 แสนบาท

หากเป็นงานพิเศษ เช่น งานนวด ที่แฝงบริการทางเพศ เรียกว่า “นวดตำ” “นวดแถมตำ” “นวดตำแตง” จะมีรายได้มากกว่าทำงานเกษตร 3 - 6 เท่า บางคนหักนายหน้าได้เฉลี่ยเดือนละ 300,000 บาท มีทั้งบริการทางเพศที่ร้าน ไปอยู่ประจำคอนโดห้องใครห้องมัน แล้วหาแขกไปส่งให้ 4 - 9 คนต่อวัน เรียกว่า "งานคอนโด" หรือไปส่งตามโรงแรมแล้วแต่แขกจะเรียก เรียกว่า “งานโรงแรม” ซึ่งทุนค่าจัดหางานและค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเรียกว่า “แทค” จะติดสัญญา 85 วัน แต่ก็มีเรื่องน่าสลดเมื่อหญิงวัย 30 ปี พร้อมพ่อเลี้ยง พาลูกสาววัย 17 ปีไปขายบริการทางเพศทั้งบ้าน โดยใช้บริการพ่อเล้าเจ้าหนึ่ง แต่พอไปถึงเกาหลีแล้วแม่กลับพาลูกสาวหนีสัญญาไปอยู่กับพ่อเล้าคนอื่น ตัวเอเย่นต์จึงออกตามล่าในเฟซบุ๊ก มีการบุกไปถึงบ้านยายที่ต่างจังหวัด เพราะติดต่อไม่ได้ก็มี

ด้านชีวิตความเป็นอยู่นั้น เมื่อต้องไปอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ส่วนใหญ่ที่นายจ้างภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเบาไร้ทักษะจะจัดให้ก็มีห้องนอน อยู่ห้องละ 2 - 4 คน แยกเพศ หรือถ้าคู่สามีภรรยาก็อยู่ห้องเล็กด้วยกัน ซึ่งก็คงเป็นห้องในบ้านนายจ้าง ข้าวสาร ไข่ไก่จำนวนจำกัด ค่าอาหาร สัปดาห์ละ 600 - 900 บาท ไว-ไฟในบ้าน เครื่องฮีทเทอร์ ถ้าไม่มีห้องพักในโรงงานให้ บางโรงงานเช่าห้องข้างนอกให้โดยหักเงินเดือน 100,000 - 150,000 วอนต่อเดือน แต่สวัสดิการรักษาพยาบาลไม่มี ค่ารักษาพยาบาลที่เกาหลีแพงมาก ใครเจ็บป่วยก็จะฝืนทน ไม่บอกนายจ้าง เพราะถ้าหยุดก็ขาดรายได้ หรือไม่ก็รักษากันตามมีตามเกิด ยาที่เกาหลีหาซื้อยาก จึงมีคนไทยบางคนหิ้วยาไทยไปขายให้แรงงานเกาหลีทางไปรษณีย์ แต่หากถึงขั้นต้องไปพบแพทย์ ก็จะไปพึ่งโรงพยาบาลคริสต์เอกชนที่รับรักษาฟรีแล้วให้บริจาคตามจิตศรัทธา แต่ก็จะไม่รับเคสหนักๆ บางคนคลอดก่อนกำหนด มีปัญหาปอดไม่สมบูรณ์ ต้องเลี้ยงในตู้อบเนิสเซอรี่ในโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายสูงถึง 20 ล้านวอน เงินเก็บที่หามาได้ก็หมดไป และเป็นหนี้อยู่ 9 ล้านวอน ซึ่งได้มีการระดมทุนช่วยกันในหมู่แรงงานไทยผิดกฎหมายคนละ 10,000 - 20,000 วอน หรือบางรายเสียชีวิตโรคถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน มีการระดมเงินบริจาคเพื่อส่งศพกลับไปยังประเทศไทยอีกด้วย

สิ่งที่คึกคักเมื่อคนไทยหลบหนีไปทำงานที่เกาหลีโดยผิดกฎหมาย ก็คือ มีการเกาะกลุ่มช่วยเหลือกันหรือกระจายสินค้าระหว่างกัน แม้เอเย่นต์จะบอกเสมอว่า ถ้าขยันทำงานเก็บเงิน ไม่จับกลุ่มกินเหล้า เล่นการพนันแบบตอนอยู่บ้านล่ะก็ กว่าจะต้องกลับหรือโดนส่งกลับก็รวยแน่นอน กลับบ้านไปเคลียร์หนี้สินหรือปลูกบ้านได้ แต่ก็มีคนไทยเสี่ยงโชคกับการพนันเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งในเฟซบุ๊กชุมชนคนไทยในเกาหลีมีทั้งการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ขายเบอร์สร้อย ส่วนสินค้าอย่างอื่นก็มีซื้อขายปลาร้า ไส้อั่ว ไส้กรอกอีสาน มีบริการแท็กซี่ ขนของ ย้ายบ้าน ไปรับตอนหนีทัวร์ที่สนามบิน และย้ายร้าน หนีเถ้าแก่ หรือหนีพ่อเล้าด้วย

หลังจากหมดฤดูพืชผลแล้ว แรงงานไทยผิดกฎหมายบางส่วนก็จะกลับประเทศไทย โดยต้องจ้างเอเยนต์ดำเนินการอีกที ทั้งจองตั๋ว รายงาน ตม. (กรณีอยู่เกิน 90 วัน) ซึ่งถ้าอยู่ไม่ถึง ก็สามารถออกไปได้สบายๆ เหมือนนักท่องเที่ยวปกติ ปีหน้าก็สามารถมาลุ้นได้ใหม่ถ้าต้องการ ยิ่งงานขายบริการทางเพศทำนานไม่ได้ ส่วนใหญ่จะติดสัญญา 80 - 85 วัน พอหมดแล้วก็กลับหรือย้ายร้าน ย้ายพ่อเล้าได้ แต่ถ้าอยู่เกิน 90 วันก็จะต้องรายงานตัวกับ ตม. และถูกห้ามเข้าประเทศ ส่วนมากจึงอยู่แล้วอยู่เลยไม่กลับจนกว่าจะรวย หมดงานที่นึงก็เปลี่ยนงานที่นึงไปเรื่อย ในเว็บเพจก็จะมีประกาศงานอยู่ตลอด ทั้งงานโรงงาน งานนวด และขายบริการทางเพศ โดยบอกว่าขอรับย้ายคนอยู่เกาหลีแล้วเท่านั้น ซึ่งก็ยังจะมีค่างาน ประมาณ 100,000 - 200,000 วอน (3 - 6 พันบาท)

อย่างไรก็ตาม การจ้างคนไทยไปทำงานที่เกาหลีแบบถูกกฎหมาย สามารถทำได้ หากมีนายจ้างที่รับรองการจ้างงานได้ก็สามารถผ่านขั้นตอนต่างๆ เพื่อขอวีซ่าไปทำงานถูกกฎหมายได้ จะได้ความคุ้มครองและสวัสดิการตามกฎหมายเกาหลีกำหนด หรือกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ก็มีโควตางานเกาหลีถูกกฎหมายมาอยู่เป็นประจำ แต่ปัญหาคือ ไปแบบถูกกฎหมายจะใช้เวลามาก ต้องเรียน ต้องสอบภาษาเกาหลีให้ได้ถึงระดับก่อน จึงมีแต่กลุ่มแรงงานมีฝีมือ มีทักษะพิเศษที่จะเลือกไปทางนี้ ซึ่งก็มีเอเยนต์ที่รับเคลียร์เส้นทางแบบถูกกฎหมายอยู่









กำลังโหลดความคิดเห็น