xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ ถนนแห่งชีวิต “สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” แท็กซี่อุ้มบุญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” พี่เดี่ยว คนขับแท็กซี่ผู้ใจบุญ เปิดใจกับหนทางชีวิต ก่อนจะมาทำหน้าที่รับส่งช่วยเหลือคนพิการทุกรูปแบบ รวมถึงพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี บริการฟรี ทั้งในกรุงเทพฯ รอบปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง นานถึง 20 ปี






วันนี้ (17 พ.ค.) นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ หรือ พี่เดี่ยว คนขับแท็กซี่ผู้ใจบุญ ได้มาเปิดใจพูดคุยผ่านรายการ “พระอาทิตย์ LIVE” กับการทำหน้าที่รับส่งช่วยเหลือคนพิการทุกรูปแบบ รวมถึงพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี ฟรี ทั้งในกรุงเทพมหานคร รอบปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง โดยทำมานานถึง 20 ปี และแนวคิดในการทำดีได้ดี ตนเป็นคนนครศรีธรรมราช พ่อเป็นคนปากพนัง แม่เป็นคนช้างกลาง แม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อก่อนใช้ชีวิตลำบากมากเวลกเพื่อกินกลางวันกัน ตนต้องรอให้เพื่อนกินเสร็จ เพื่อล้างจานแลกกับได้กินข้าวฟรี และทางโรงเรียนมีบวชภาคฤดูร้อนที่วัดมะนาวหวาน จึงไปบวชตอนอยู่ ป.3 พอบวชแล้วก็ไม่อยากจะสึก เพราะรู้ว่าสึกมา แม่จะต้องลำบาก

แต่อยากรู้ว่าพ่อเป็นใครก็เลยนั่งรถสองแถวที่หน้าวัดมะนาวหวาน ไปที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช แม่ก็ไม่ยอมบอกว่าพ่ออยู่ไหน เพื่อก็ล้อว่าไม่มีพ่อ ไปเจอลุงท่านหนึ่งถามว่าเณรจะไปไหน ผมเลยตอบไปว่าจะไปหาพ่อ ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าท่านอยู่ที่ไหน ซึ่งคุณลุงแกใจดีมากๆ ตนนั่งรถเขาแล้วเขาไม่เก็บเงินสักบาท แถมยังถวายปัจจัยให้เราด้วยอีก 100 บาท ตอนนั้นผมพูดตามตรงว่ารู้สึกประทับใจและดีใจมากๆ เพราะท่านเป็นพุทธบริษัทที่ดี ให้ความเมตตาต่อสมณะให้เราเดินทางอย่างสะดวกสบาย และตนก็โชคดีได้พักที่วัดเขาแก้ว เจอหลวงพ่อใจดีให้พักอาศัย หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามหาพ่อ จนมาเจอพ่อที่หาดใหญ่ทำงานก่อสร้าง ตอนตนอายุ 14 ปี พอเจอพ่อ ก็เลยตัดสินใจสึกออกมาทำงานก่อสร้างกับพ่อ ทำไปทำมาก็ออกมาทำงานที่โรงงานเจาะยาง ได้ค่าแรงวันละ 70 บาท และยังต้องเพิ่งยาบ้าผสมเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อให้มีแรงทำงานยกของ แต่กลับปัสสวะเป็นเลือด จึงรีบรักษาตัวที่บ้าน

ตอนอายุ 15 ปี ถูกหลอกให้มาออกเรือที่จังหวัดชุมพร ให้เราลงเรือเพื่อที่เขาจะได้ค่าหัวคิวจากไต๋เรือ ขณะนั่งรอไต๋เรือ จังหวะที่นั่งรอโดนเรือเบียดขาจนฉีกเห็นเส้นเอ็น และโดนบังคับให้ออกเรือไปทั้งที่เจ็บขา ซึ่งลูกเรือก็จะฉีดผงขาวเพื่อมีแรงในการทำงาน และเคยถูกทำร้ายจากลูกเรือจะเป็นฤทธิ์จากยาที่ฉีด โชคดี 8 วันที่ออกเรือน้ำแข็งหมด ทำให้ต้องนำเรือเข้าฝั่ง และก็ยังกลับโดนทำร้ายที่ใบหน้าจนเป็นแผล เมื่อถึงฝั่งก็ไปเจอรถสองแถว เราขอเขาขึ้น ซึ่งเขาก็สงสารมาส่งเราที่สถานีรถไฟชุมพร ทั้งๆ ที่รถสองแถวไม่ได้ผ่านตรงนั้นเลย และตนได้เจอคน 6 - 7 คน เหมือนเป็นเทวดาซึ่งมาโปรด ถ้าผมพูดถึงตรงนี้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็จะร้องไห้ทุกครั้ง เพราะผมนอนอยู่ตรงม้าหินอ่อนทั้งวัน รอรถไฟ ไม่มีใครสนใจเราเลย แต่มีคนอีสาน 6 - 7 คน ที่เขามาด้วยกันเป็นกลุ่ม เขาเข้ามาถามเราแล้วเขาก็ซื้อข้าวให้เรากิน ซื้อตั๋วรถไฟมาให้ รวบรวมเงินมาให้เกือบ 300 บาท ตอนนั้นผมซึ้งใจมากๆ กินข้าวไปน้ำตาไหลไป เพราะคนที่เขามาช่วยเหมือนเทวดามาช่วยเหลือเรา มันเป็นการช่วยเหลือโดยคนที่ไม่รู้จัก ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง แต่เป็นมนุษย์ด้วยกันที่เขาเอื้อมมือมาช่วย จึงได้ค่าเดินทางได้ตั๋วรถไฟ 300 นั่งเข้ากรุงเทพมหานคร

พอได้เข้ามากรุงเทพมหานคร ก็ได้ทำอาชีพโรงงานกระดาษ แถวเยาวราช ใส่เสื้อตัวละ 10 ได้ค่าแรงวันละ 70 บาท ต่อมาเปลี่ยนงานมาเป็นยามได้วันละ 250 แต่ทำถึง 5 เดือน กลับไม่ได้เงินเดือนสักเดือน แจ้งฝ่ายบุคคลของทางโรงแรมก็ไม่ได้คำตอบ จึงนั่งสามล้อไปบ้านคนจ้าง เพื่อทวงเงิน แต่กลับโดนล็อกข้อมือ โดนต่อยท้อง หาว่าเป็นขโมย พยายามอธิบาย จนเขาจึงยอมถอดกุญแจมือปล่อย จึงเปลี่ยนงานมาทำอ็อกเชื่อมโครงสร้างเหล็ก จนถึงอายุ 18 ปี ถึงมาขับแท็กซี่ และต้องกราบขอบพระคุณเจ้าของอู่ที่เขาเมตตาให้เราขับรถแท็กซี่ ซึ่งเจ้าของอู่ยอมรับในตัวของเรา ถึงตนจะทำรถเสียหายหลายรอบ แต่เจ้าของอู่ก็ไม่ถือโทษโกธรเคือง โดยตนหัดขับรถจนเชี่ยวชาญ และมีอยู่วันหนึ่งทำให้ชีวิตได้เปลี่ยนใจช่วยเหลือผู้พิการ เพราะไปพบเจอกับลุงท่านหนึ่งเป็นคนพิการนั่งรถเข็น เล่าว่าเรียกรถแท็กซี่หลายคน แต่ไม่มีใครรับสักคน แกก็พูดขึ้นมาว่า “คนเดี๋ยวนี้มันใจดำมาก อยากฆ่าตัวตาย” ทำให้ตนคิดค่าผู้โดยสารฟรีสำหรับผู้พิการจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งเมื่อก่อนอุ้มคนป่วยยังไม่มีเสื้อป้องกันน้ำเหลือง จากแผลติดเชื้อ ทำให้ตัวมีกลิ่นเหม็น ต้องคอยบอกผู้โดยสารว่า ตนช่วยเหลือผู้ที่เป็นแผลติดเชื้อ ทำให้มีกลิ่นน้ำเหลืองบนร่างกาย โดยปัจจุบันตนมีเสื้อที่ใช้ป้องกันเวลาที่ต้องอุ้มผู้พิการแล้ว สายด่วน 1255 ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเส้นทางให้ประชาชนโทรแจ้งเมื่อประสบเหตุ หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ เมื่อตนได้รับข่าวจากแม่ข่าย ก็จะรีบขับรถแท็กซี่ไปที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และอีกหนึ่งช่องทางคือ FM.99.5

และไม่นานมานี้ ตนได้รับรถคันใหม่ป้ายแดงจาก ต๊อด นายปิติ ภิรมย์ภักดี ส่วนรถคันเก่าที่มีแต่รูปในหลวง รัชกาลที่ ๙ ก็จะนำมาติดที่รถคันใหม่ เพื่อเป็นจิตสำนึกในการทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ตนจึงเอาท่านเป็นแบบอย่างในชีวิตมาโดยตลอด และที่เขาให้รถเพราะความไว้วางใจในตัวเราที่กระทำความดี

ส่วนคู่ชีวิตได้พบรักกับคุณหมอ ซึ่งครบกันมาได้ 1 ปี กว่าแล้ว โดยคุณหมอมีอายุมากกว่าตน 8 ปี แต่นึกไม่ถึงว่าอาชีพเป็นหมอ ถึงมาตกลงปลงใจกับคนขับแท็กซี่ได้ เพราะความดีของตนจึงทำให้ได้หัวใจของคุณหมอมาครอง โดยตอนที่พบกับคุณหมอ เกิดจากการที่คุณหมอคอยโอนเงินช่วยเหลือผู้พิการ และได้พูดคุยรู้จักกันมากขึ้น ทำให้ตกลงจดทะเบียนสมรสใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบัน

โดย พี่เดี่ยว จะยึดเหนี่ยวทำด้วยศรัทธา มุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำ สววรค์อยู่กับเราทุกวัน อย่าให้นรกมาข่มขู่ ทำชีวิตเราให้มีคุณค่า ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และการให้คือสิ่งที่เราต้องมี

ซึ่งทาง นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ หรือ พี่เดี่ยว จะคอยบอกเล่าเรื่องราวของเขาผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า สุวรรณฉัตร พรหมชาติ พร้อมเบอร์โทร.ติดต่อคือ 087 331 5421 และข้อความที่จะโพสต์อยู่เสมอว่า “ทำความดีตามรอยพ่อ คนพิการอัมพฤกษ์ อัมพาต นอนติดเตียง นั่งรถเข็นพิการตลอดชีวิต ในกรุงเทพมหานคร รอบปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง ให้บริการฟรีทั้งไปและกลับครับ คนจนขาดเงินขาดรถขาดคนอุ้ม คนรวยมีรถขาดคนขับขาดคนอุ้มลูกหลานไม่ว่าง ลางานบ่อยก็จะตกงาน ในบ้านมีแต่ผู้สูงวัยมีแต่ผู้หญิงอุ้มไม่ไหว ยินดีช่วยเหลือให้บริการฟรีทั้งไปและกลับครับ อย่าได้เกรงใจครับท่านโทรมาผมได้บุญ ทุกๆ บุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำก็ขอให้ผู้ที่ร่วมอนุโมทนาสาธุทุกๆ ท่านสุขภาพแข็งแรงชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น