ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 190 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (11 พ.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 190 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
น.ส.ปณินันท์ ทองพันธ์ พนักงานธนาคารวัย 44 ปี ชาวหาดใหญ่ สงขลา พร้อมด้วยสามี นายยศเกศ หริพ่าย อายุ 44 ปี และหลานสาว น.ส.ระพีพร ทองพันธ์ อายุ 19 ปี ออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากบ้านเกิดมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วานนี้และตื่นแต่เช้าเพื่อมาเข้าแถวรอที่ท้องสนามหลวง และได้เข้ากราบพระบรมศพเมื่อเวลา 08.30 น. เป็นครั้งแรกที่ได้มารู้สึกตื้นตันใจ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องกราบพระบรมศพให้ได้ ภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ ตั้งแต่เกิดไม่เคยรับเสด็จฯ แต่รับรู้ว่าพระองค์ทรงคิดค้นสิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรตลอดพระชนม์ชีพ อย่างที่อำเภอระโนด จ.สงขลา มีโครงการพระราชดำริประตูระบายน้ำ เพื่อกันน้ำเค็มหนุนเข้ามาทำลายพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้ หรืออย่างตัวเมืองหาดใหญ่ที่เป็นแอ่งกระทะพอถึงฤดูน้ำหลากก็เกิดน้ำท่วมประจำ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เมื่อปี 2541 ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่และพระราชทานแนวพระราชดำริให้ขุดบึงสำหรับเก็บน้ำในลักษณะแก้มลิงให้น้ำระบายมาที่นี่ นับแต่นั้นมาน้ำก็ไม่ท่วมตัวเมืองหรือถ้าท่วมก็ขังไม่นานเพราะน้ำระบายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนตัวทำงานธนาคารเกี่ยวกับเงินทองยังได้น้อมนำคำสอนเรื่องความซื่อสัตย์ในอาชีพมาเป็นแนวทางการทำงาน ซึ่งสำคัญมากเพราะคนเราอยู่กับเงินถ้าไม่มีวินัยและความซื่อสัตย์ก็อาจทำเรื่องไม่ดีได้
ส่วนนางหนึ่งฤทัย เขตสินบุญ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สถาบันจิตเวชศาสตร์ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. กล่าวว่า วันนี้พาน้องๆ หลานๆ ที่นั่งรถทัวร์หลายชั่วโมงเดินทางมาจาก ต.บ้านใหม่ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ตั้งใจอยากมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9
"ทุกคนรักพระองค์จึงอยากมากราบสักครั้งหนึ่งในชีวิต ช่วงแรกๆ ที่ทราบข่าวว่าท่านเสด็จสวรรคตทุกคนเสียใจมาก ทุกวันนี้ก็ยังเสียใจอยู่ น้องๆ หลานๆ เพิ่งมีโอกาสเดินทางมากราบพระองค์ท่านเป็นครั้งแรก แต่พี่อยู่กรุงเทพฯและเพิ่งเกษียณจึงมีโอกาสมากราบได้ประมาณ 20 ครั้งแล้ว ช่วงที่ทำงานก็ได้นำคำสอนของพระองค์เรื่องความพอเพียง ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความขยันอดทน ซื่อสัตย์สุจริตต่อการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่แบ่งชนชั้น ดูแลผู้ป่วยจิตเวชทุกคนให้เหมือนกับญาติของเรา"