อธิบดีกรมศิลปากร สั่งลบโลโก้ “เฟซบุ๊ก - กูเกิล - แอปเปิล” ออกจากครุฑยืนแล้ว เพราะไม่ครอบคลุมและไม่สอดคล้องกับคติความเชื่อในการจัดสร้างพระเมรุมาศ สำหรับถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้านผู้ออกแบบ ระบุว่า เพียงเพื่อบ่งบอกกาลเวลา ไม่มีเจตนาอื่นใด
หลังจากที่เฟซบุ๊กเพจ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เผยแพร่ภาพครุฑยืน ประดับพระเมรุมาศสำหรับถวายพระเพลิงพระบรมศพ ความสูง 2 เมตร ที่กำลังจัดสร้างที่สำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม โดยพบว่ามีเครื่องหมายการค้า 3 ชิ้น ประดับที่ตัวครุฑ ได้แก่ เฟซบุ๊ก กูเกิล และ แอปเปิล ทำให้เป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม
ล่าสุด นายก่อเกียรติ ทองผุด ผู้ออกแบบพระเมรุมาศ กรมศิลปากร บอกว่า ขณะนี้ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้หารือด่วนและสั่งการให้ปรับแก้ไขออกไปหมดแล้ว เพราะไม่ครอบคลุมและไม่สอดคล้องกับคติความเชื่อ ในการจัดสร้างพระเมรุมาศ อีกทั้งยังเป็นภาพลบเรื่องการโฆษณาไม่ถูกต้องที่จะนำมาใช้ก่อนหน้านี้ได้ มีการท้วงติงกันและภาพที่ออกมาในโซเชียลมีเดีย ยังทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จึงสั่งให้ประติมากรแก้ไขอย่างเร่งด่วน ให้เป็นงานประติมากรรมครุฑประกอบพระเมรุมาศ ตามแบบโบราณราชประเพณี ถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้าน นายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ประติมากรชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Pitak Chalemlao” ระบุว่า การออกแบบตัวครุฑดังกล่าว ที่ใส่ตราสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าดังกล่าว เพราะเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงห้วงเวลาหนึ่ง ว่า ช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต บนโลกใบนี้มีอะไรที่มีอิทธิพลต่อทุกคน ซึ่งไม่มีส่วนสำคัญใดๆ เวลาผ่านไปสักสิบปีหรืออีกร้อยปีเป็นแค่ห้วงเวลาไม่ได้มีความสำคัญใด ตนแค่อยากจะสะท้อนพระองค์ คือ กระจกฝั่งตะวันออกที่สะท้อนไปยังฝั่งตะวันตก ว่า สิ่งที่พระองค์มีมากมายมหาศาลที่ฝั่งตะวันตกจะได้เอาวิธีคิดพระองค์ไปใช้ได้กับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้
“พระองค์คือนักคิดที่เอาเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ ทุกๆ อย่างมาเป็นแนวคิดขบวนการคิดเพื่อโครงการต่างๆ ให้มวลมนุษยชาติเรา บุคคลเหล่านี้เป็นนักคิด เอาแค่เรื่องอากาศมาใช้ ก็ประสบผลสำเร็จแต่พระองค์ท่านเป็นนักคิดระดับโลก มีความวิริยะ เอาเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ มาคิดซึ่งนำมาปฏิบัติใช้ได้จริง ผมอยากให้ทุกคนในโลกใบนี้ได้เอาสิ่งที่พระองค์ท่านคิดมาใช้ในชีวิตได้จริง ผมอยากให้ทุกคนแค่สนใจสิ่งที่ตัวเองได้ทำและใช้ความรู้จากความเป็นไทยเรา ที่สื่อสารไปยังโลกว่าคนไทยมีดี และมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเปี่ยมล้น เป็นโมเดลแก่พวกเราทุกคน ผมก็คงรับผิดชอบในสิ่งที่ผมคิด ไม่เห็นด้วยผมก็รับฟัง แต่เจตนาผมไม่มีอื่นใด” นายพิทักษ์ กล่าว
