เปิด “สูติบัตร” ลูกสาว “อาร์ท - อิธีวัฒน์” ผู้เข้าแข่งขันรายการชะนีหาผัว Take Me Out Thailand อายุ 11 ปี พร้อมเปิดจดหมายลาหญิงสาว ระบุ ทนไม่ไหวถูกเลี้ยงด้วยลำแข้ง ทั้งซ้อมทั้งตี แถมซุกหญิงชื่อ “เบล” ขอกลับไปใช้ชีวิตสงบสุข
จากกรณีที่ผู้สมัครรายการ Take Me Out Thailand รายหนึ่งนามว่า “อาร์ท - อิธีวัฒน์ วรวัฒน์วิจิตร” ถูกโจมตีอย่างหนัก อ้างตัวเองว่าเป็นดีเจทั้งที่เคยขอเปิดแผ่นในผับครั้งเดียวเท่านั้น รวมทั้งแอบอ้างว่าทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินชื่อดัง โดยเช็กอินสถานที่ค่ายเพลงชื่อดังย่านอโศก แต่แท้ที่จริงแล้วไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง รวมทั้งถูกแฉว่ามีพฤติกรรมข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกายผู้หญิง และหลอกเอาเงินจากหญิงสาว และแท้ที่จริงมีลูกสาววัยเกือบ 10 ขวบ และลูกชายคนเล็กวัยใกล้ 1 ขวบ แต่ปล่อยให้พ่อแม่เลี้ยงโดยส่งเสียเงินให้เดือนละ 2,000 บาท ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกเกาะติดอย่างต่อเนื่อง
อ่านประกอบ : ข่มขืน-ไถเงิน-ใช้กำลัง “Take Me Out” ช่วย “หาคู่” หรือ “หาเหยื่อ”!!?
แฟนเพจสายดาร์กอย่าง “โคตรห้าวv3” ได้เผยแพร่หลักฐานเกี่ยวกับบุคคลอันตรายดังกล่าว โดยได้แสดงหลักฐานเป็นสูติบัตรที่ออกให้โดย เทศบาลเมืองบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อ 11 ปีก่อน เป็นทารกเพศหญิง ระบุชื่อบิดา คือ นายอิธีวัฒน์ วรวัฒน์วิจิตร ขณะนั้นอายุ 19 ปี (ปัจจุบันนายอิธีวัฒน์ อายุ 30 ปี) ส่วนมารดาเป็นหญิงวัย 19 ปี ได้กล่าวกับเพจดังกล่าวว่า ตนเคยรู้จักกับนายอิธีวัฒน์เมื่ออายุ 15 ปี และอยู่กินกันมา ในช่วงที่อยู่ด้วยกันเขาทำร้ายร่างกายตนตลอด เมื่อแม่เข้ามาห้ามก็จะโดนด่า จนชาวบ้านแถวนั้นแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ไม่เคยทำ ที่ผ่านมา ตนถึงขั้นหนีกลับภูมิลำเนา แต่พอเจ้าตัวรู้ก็กลับมาทำร้ายร่างกายแล้วลากให้กลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งเคยถึงขั้นขู่จะใช้มีดคัตเตอร์กรีดใบหน้าเพื่อให้ออกจากบ้านไม่ได้
เมื่อตั้งครรภ์ นายอิธีวัฒน์ ก็เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้สนใจ ตอนนั้นทำงานเป็นดีเจ ส่วนตนทำงานที่คลินิกรักษาสัตว์ นายอิธีวัฒน์ กลับห้องมา บางทีทำอะไรไม่ถูกใจก็โดนทำร้าย ถีบเกือบตกบันไดในช่วงตั้งครรภ์ได้ 4 - 5 เดือน พอแม่รู้ก็บอกให้ย้ายไปอยู่กับแม่ที่บ้านจะได้มีคนดูแล ตนก็ไป ส่วน นายอิธีวัฒน์ไม่ค่อยอยู่กับบ้าน จนตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน ก็กลับบ้านมาดูแล ถึงวันคลอดก็แสดงว่ามาอยู่ด้วย ก็ไม่มาอีกเลย จนแพทย์ให้กลับบ้าน นายอิธีวัฒน์ ไม่มาช่วยดูลูก แต่กลับพบว่าโทรศัพท์คุยกับผู้หญิงอีกคน เมื่อลูกอายุได้ 1 เดือน จึงเก็บของกลับบ้านมาอยู่กับแม่ แม่ของนายอิธีวัฒน์ก็บอกให้กลับไปอยู่กันเป็นครอบครัว โดยที่ฝ่ายชายทำเป็นร้องไห้ แต่เมื่อไม่ไปเกิดความโมโห ก็พูดกับแม่ว่า เดี๋ยวจะหาแม่ให้ใหม่ จบคำนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยจดหมายของแฟนเก่าที่ชื่อว่า “น้ำ” เขียนถึงนายอิธีวัฒน์ ขอเดินจากไปเพราะทนไม่ไหวที่ถูกทำร้ายร่างกายตลอดเวลา และยังกล่าวหาว่าเป็นตัวถ่วงชีวิต ทั้งที่นายอิธีวัฒน์มีผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อ “เบล” ตลอดเวลา จึงขอกลับไปใช้ชีวิตสงบสุข โดยลาออกจากงานและดูแลลูก พร้อมอวยพรขอให้พบกับผู้หญิงที่ดี และขอร้องว่าไม่ต้องโทรศัพท์มาหา เรื่องลูกจะรับผิดชอบเอง
ส่วนคนที่ออกมาแฉพฤติกรรมอย่างเฟซบุ๊ก Rungroj Rjay Prampipat ระบุว่า ตนเคยตามไปพูดคุยที่ผับย่านทาวน์อินทาวน์ และเคยเจอโดยบังเอิญที่หน้าสนามฟุตซอลอารีนาเท็น ขับรถที่ซื้อด้วยเงินน้องของตนมาจอดอยู่ด้านหน้าผับ รับปากว่าจะคุยกับน้องเพื่อเคลียร์หนี้ และสะสางปัญหาด้วยตัวเอง ไม่อยากคุยกับตน แต่มาถึงวันนี้ก็ไม่เคยได้ติดต่ออีกเลย อ้างกับคนอื่นว่า จะคืนเงินเลยก็ได้ แต่ติดต่อน้องไม่ได้ ทั้งที่ไลน์หาไม่เคยเปิดอ่าน คอมเมนต์ในอินสตาแกรมก็ลบทิ้ง และบล็อก
“จริงๆ ต้องขอบคุณรายการ Take me out นะ ที่ทำให้ได้กระชากหน้ากากมันหลุดออกมาเต็มๆ วันนี้ เพื่อไม่ให้มันไปทำกับใครอีก และเป็นบรรทัดฐานในการคัดกรองคนที่จะมาออกรายการอีกต่อไป ส่วนน้องผู้หญิง ที่ออกรายการร่วมกับไออาร์ท ผมขอร้องว่าอย่าไปส่งข่าว หรืออะไรไปให้เกี่ยวข้องกับน้องเค้าเลยครับ วันนี้ผมได้พูดคุยกับน้องเค้าบ้างแล้ว บางทีก็รู้สึกว่าหลายคนจะเข้าไปส่งข่าวมากมาย ซึ่งจริงๆ น้องเค้ารับรู้เรื่องราวแล้ว และไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องราวเลวร้ายเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ หากไออาร์ทมีความผิดจริง ทางรายการก็คงต้องหามาตรการดูแล และปกป้องน้องเค้าแน่นอนครับ”
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า สูติบัตรที่ออกมาล่าสุด คนละคนกับลูกสาวคนโตวัยเกือบ 10 ขวบอยู่ 1 คน และลูกชายคนเล็กวัยใกล้ 1 ขวบอีกคน ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ แต่เป็นลูกสาวอีกคน อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 แม่เอาลูกไปเลี้ยงดูเองคนเดียวมา โดยที่นายอิธีวัฒน์ไม่เคยส่งเสียมา 11 ปีแล้ว โดยสรุป ณ ขณะนี้มีลูก 3 คนเข้าไปแล้ว โดยไม่รู้ว่าจะมีใครมาเพิ่มอีกหรือไม่