“ชูวิทย์” ชำแหละกลยุทธ์ “บอส” ทายาทกระทิงแดงยื้อคดีได้นานถึง 5 ปี “ร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้าไว้ - ร้องให้สอบผู้เชี่ยวชาญ - ไปต่างประเทศอ้างติดภารกิจ” เชื่อแม้โดนหมายจับแล้วก็เอาตัวมาไม่ได้ ชี้อยู่ประเทศไทยต้องทำใจ หากเป็นตาสีตาสีแค่ 5 วันก็เรียบร้อยแล้ว ลั่นไม่รู้ว่ากฎหมายจะเอายังไงกับกูกันแน่ ?
วานนี้ (29 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ I'm Back” ถึงกรณีออกหมายจับ นายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ว่า ในที่สุด ศาลก็อนุมัติออกหมายจับ นายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง หลังยื้อไม่มารายงานตัวได้นานถึง 5 ปี
ชาวบ้านบอก คนรวยมันน่ารัก ทำอะไรก็ไม่ผิด ผมรวยเหมือนกัน แม้จะไม่รวยเท่า แต่ก็ไปติดคุก ยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองก่อ จึงมีสิทธิ์ทวงถามอย่างหน้าชื่นอกตรมว่า ในเมื่อคนอย่างผม ยอมติดคุก ไม่หลบเลี่ยงหลีกหนี และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แล้วคนอื่นที่ใช้กฎหมายฉบับเดียวกันกับผม จะหลบเลี่ยงกระบวนการยุติธรรมไปได้อย่างไร?
แต่กลยุทธ์การยื้อคดีของนายบอส กลับได้ผล และสรุปให้สังคมได้เห็นเป็นบรรทัดฐานว่า
1. ควรใช้กระบวนการร้องเรียนขอความเป็นธรรมไว้ก่อน เพื่อชะลอการออกหมายจับ อย่างน้อยได้ตั้ง 5 ปี จะร้องที่อัยการ หรือที่สภา ก็แล้วแต่สะดวก
2. ร้องให้สอบผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ หรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้านก็ว่ากันไป นี่ก็ชะลอได้อีก
3. หลบเลี่ยงไปต่างประเทศ อ้างว่าติดภารกิจ ไม่สามารถมารายงานตัวได้ นี่ก็เลื่อนการเข้าพบอัยการได้ตั้ง 7 - 8 ครั้ง
หาก นายบอส ทำได้ นายเบี้ยว นายเบิร์ด นายบ่าว ก็ต้องทำได้ มันเป็นมาตรฐาน เพราะมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักเท่ากันทุกคน
วันนี้ถึงนายบอสจะมีหมายจับ ก็อย่าฝันว่าจะเอาตัวกลับมาได้ เพราะขนาดขั้นตอนขอหมายยังใช้เวลาตั้ง 5 ปี
หากเป็นตาสีตาสา แค่ 5 วัน ก็เรียบร้อยโรงเรียนกระทิงแดง
อยู่ประเทศไทยต้องทำใจ บางเรื่องควรจัดการรวดเร็วกลับช้า บางเรื่องควรค่อยๆพิจารณา ก็เสือกดำเนินการรวดเร็วเสียจริงๆ
นึกแล้วมันน่าน้อยใจ ไม่ได้เกิดเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโต เอาใจไม่ถูก ทำตัวไม่เป็น
ไม่รู้ว่า กฎหมายจะเอายังไงกับกูกันแน่ (วะ)!?