สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร โดยทาง กทม. คาดหวังว่า การจัดสร้างหอสมุดขึ้น เพื่อให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ ที่จะช่วยส่งเสริมการเป็นมหานครแห่งการอ่านอย่างยั่งยืนในอนาคต
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คณะผู้บริหารกทม.และสมาชิกสภา กทม. เฝ้าฯ รับเสด็จฯ
ในการนี้ พล.ต.อัศวิน ได้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายบัตรสมาชิกหอสมุดเมืองกรุงเทพฯ จากนั้นทรงประทับบัตรสมาชิกที่เครื่องอ่านอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเสด็จฯ ผ่านประตูป้องกันทรัพยากรสูญหาย และทรงทดลองใช้เครื่องยืม - คืนหนังสืออัตโนมัติ จากนั้นเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรหอสมุดเมืองกรุงเทพฯ ตามชั้นต่างๆ ซึ่งมีการออกแบบภายในอาคารให้มีความโอ่โถง โปร่งสบาย ตามแนวคิด “แสงแห่งปัญญา (Wisdom of Light)”
ต่อจากนั้น ทรงฉายพระรูปกับคณะบุคคล ได้แก่ คณะกรรมการบริหารหอสมุดเมืองกรุงเทพฯ ภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน และคณะผู้บริหาร กทม. และเสด็จพระราชดำเนินกลับ
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร (Bangkok City Library) นี้ ตั้งอยู่กลางใจเมือง บริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน เปลี่ยนโฉมจากอาคารเก่าของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่บริเวณสี่แยกคอกวัว ความสูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 4,880.38 ตารางเมตร ออกแบบปรับปรุงภายใต้แนวคิดอนุรักษ์และเคารพในคุณค่าของสถาปัตยกรรมเดิม คงกลิ่นอายอารยธรรมตะวันตกผสมผสานการตกแต่งแบบศิลปะไทย เพื่อคงรูปแบบเดิมไว้ให้มากที่สุด ลักษณะอาคารออกแบบให้โอ่โถง โปร่งสบาย เน้นการออกแบบในส่วนพื้นที่ให้บริการการอ่านและการทำงาน ซึ่งจะคุมแสงให้อยู่ในระดับสบายตาในโทนสีที่ร่วมสมัย มีการตกแต่งใช้ลวดลาย สี และวัสดุที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกันกับศิลปะสไตล์อาร์ตเดคอร์ และ นีโอ-คลาสสิก (สถาปัตยกรรมเดิม) ให้กลายเป็นแหล่งความรู้แห่งใหม่ของคนเมือง เป็นหอสมุดที่คบวงจรมีบริการอย่างครบครัน
ภายในอาคารได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอย 4 ชั้น รวมชั้นลอย โดยชั้นที่ 1 ตามรอยทางพระราชา ตามรอยแสงแห่งปัญญา อัญเชิญพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสที่เกี่ยวข้องกับการอ่านและการเรียนรู้ กระตุ้นคนไทยรู้จักการเรียนรู้อย่างชาญฉลาดผ่านกระบวนการต่างๆ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ มีนิทรรศการหมุนเวียน ห้องนิตยสาร - หนังสือพิมพ์ บริการข้อมูลห้องสมุด - นักท่องเที่ยว ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องสมุดผู้พิการ และ Book Cafe’ โปร่งโล่งสบายตา มีเก้าอี้ให้เรานั่งอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นแบบโซฟา เป็นโต๊ะเก้าอี้ พร้อมปลั๊กไฟ หรือจะเป็นโต๊ะยาวติดริมหน้าต่างที่เห็นวิวถนนราชดำเนินกลาง
ชั้น M เมื่อเด็กน้อยจะขอตามรอยแสงแห่งปัญญา รวบรวมหนังสือวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน กิจกรรมเรียนรู้สำหรับครอบครัว
ชั้นที่ 2 โลกแซ่ซ้องพระบารมี เจริญไมตรีแห่งมหานคร หนังสือเมืองหลวงนานาประเทศ หนังสือจากสถานทูตในไทย หนังสือจากประเทศบ้านพี่เมืองน้อง กทม. ข้อมูลอาเซียน วรรณกรรมที่ได้รับรางวัลทั้งในและต่างประเทศ
ชั้นที่ 3 แหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ให้ประชาชนเรียนรู้แนวพระราชดำริ โครงการพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับกทม.ในด้านต่างๆ ข้อมูล 50 เขต โครงการต่างๆ และหนังสือที่ กทม. ผลิตขึ้น
ค่าสมัครสมาชิกนั้นก็ไม่แพงอย่างที่คิด โดยมีค่าสมัครแบบนี้ อายุไม่เกิน 15 ปี คนละ 5 บาท/ปี และ อายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 10 บาท/ปี รวมทั้งยังมีค่าประกันหนังสืออายุไม่เกิน 15 ปี คนละ 20 บาท และอายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 40 บาท
ถ้าสมาชิกส่งหนังสือคืนเกินกำหนด ต้องชำระค่าปรับวันละ 1 บาท/เล่ม และกรณีทำหนังสือหายหรือชำรุด ต้องชดใช้ตามราคาในท้องตลาด หรือหาหนังสือใหม่มาใช้คืน (ในส่วนของชาวต่างชาติสามารถเข้าใช้บริการได้ด้วยการแสดง Passport)
ถือว่าเป็นหอสมุดแห่งใหม่ที่น่าใช้อย่างครบครัน ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย เหมาะสมที่จะเป็นหอสมุดประจำเมืองของกรุงเทพมหานคร ที่มีทุกคนเป็นเจ้าของ การอ่านหนังสือก็จะไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเปิดให้บริการในวันอังคาร - เสาร์ เวลา 08.00 - 21.00 น. และในวันอาทิตย์ เวลา 09.00 - 20.00 น. (ปิดทำการในวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)