คุณครูหล่อเจอดี ถูกเว็บข่าวปลอมเอารูปไปใช้ บิดเบือนข่าวว่าเป็นครูโรคจิต มีเซ็กซ์กับนักเรียน ม.4 ใต้ถุนอาคารเพื่อแลกเกรด ถ่ายคลิปลงทวิตเตอร์โดยไม่เป็นความจริง เจ้าตัวโวย “เลวมาก ไร้จรรยาบรรณ” ส่วนคนคลิกเสี่ยงเจอไวรัส เจอถูกขโมยข้อมูล
ปัญหาข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย ยังคงเป็นปัญหาไม่หยุด นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของเว็บไซต์ตัวจริงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่เข้าชมผ่านคอมพิวเตอร์และมือถือ ที่อาจจะแฝงไวรัสและดักขโมยรหัสผ่านเพื่อแฮกข้อมูล
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมขโมยภาพผู้อื่นไปใช้ในการบิดเบือนข่าว ทำให้เกิดความเสียหาย โดยเจ้าของเฟซบุ๊ก Krit Punthawich Thanabunsiriwarrachot หรือ “ครูกฤต ปัณฐวัชญ์ ธนาบุญสิริวรโชติ” ครูหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นครูหล่อบนโลกโซเชียล ได้โพสต์ภาพหน้าจอ ที่มีพาดหัวข่าวกล่าวหาว่าเป็นครูโรคจิต มีเซ็กซ์กับนักเรียน ม.4 ใต้ถุนอาคารเพื่อแลกเกรด และถ่ายคลิปลงทวิตเตอร์ ซึ่งไม่เป็นความจริง
เจ้าตัวได้ระบุว่า “เลวมาก จรรยาบรรณอยู่ไหน เขียนข่าวมั่วๆ เอารูปไปใช้แล้วเบลอหน้า คิดว่าจะไม่มีใครจำได้เหรอ อย่างน้อยคนที่รู้จักเขาก็จำได้ เสียหายนะทำแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นใครจะรับผิดชอบ ขอแจ้งให้ทราบไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ ผมไม่ได้ไปทำอะไรแบบในข่าวนี้ และผมไม่ได้สอนมัธยม ที่สำคัญ ผมไม่ได้สอนภาษาไทย ฝากแชร์ให้เห็นความระยำของคนเขียนข่าวด้วยนะครับ”
อนึ่ง สำหรับภาพเว็บข่าวปลอมดังกล่าว มีหน้าตาคล้ายกับเว็บไซต์ข่าวสด ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกปลอมเว็บไซต์และข่าวอยู่บ่อยครั้ง แต่การใช้ภาษา การเขียนข่าวและพาดหัวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รวมทั้งมีการใช้ภาษาไทยอย่างผิดๆ อยู่หลายคำอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ เพจ Drama-addict ก็เคยเตือนว่า การทำเว็บข่าวปลอม ทำไปเพื่อให้คนเข้าไปอ่านเว็บไซต์นั้นให้เยอะที่สุด โดยไม่ต้องมีข้อเท็จจริง ให้ผู้อ่านรู้สึกหวาดกลัว ตื่นตระหนก โกรธแค้น แล้วความรอบคอบในการแชร์ก็จะลดลง กดแชร์กันง่ายขึ้น ซึ่งเว็บดังกล่าวส่วนมากจะฝังมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์เอาไว้ เมื่อคลิกเข้าไปแล้วจะติดไวรัส
มัลแวร์เหล่านี้อาจถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน ที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ หรืออาจถูกขโมยบัญชีสำคัญ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม แล้วเอาไปใช้เป็นเครื่องมือหลอกลวงคนอื่นๆ ต่อไป อีกทั้งเว็บปลอมเหล่านี้พยายามทำให้เนียนมากึ้น เช่น ไปจดโดเมนเนมให้คล้ายเว็บข่าวจริง จนคนที่เห็นหลงเชื่อว่าเป็นข่าวที่สื่อหลักนำเสนอ น่าเชื่อถือ จึงเตือนว่าอย่าแชร์อะไรที่ทำให้เกิดอารมณ์ร่วมแบบนี้ง่ายๆ