ฟังเพลงที่ “แอ๊ด คาราบาว” แต่งให้กับขาใหญ่อีสานใต้ “เนวิน ชิดชอบ” ทั้งใช้หาเสียงพรรคภูมิใจไทย และเพลงเชียร์ฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลังคดี “โซโล” และพวกพรากผู้เยาว์ถูกสั่งไม่ฟ้อง
กลายเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล หลังโผล่ขึ้นปกนิตยสารฟอร์บส์ภาคภาษาไทย ประจำเดือนเมษายน 2560 กับคำโปรยสุดเท่ “The Richest Musician ยืนยง โอภากุล คนจนผู้ยิ่งใหญ่ สู่อาณาจักรคาราบาวแดงหมื่นล้าน”
ถัดมาอีกวันเจอนักขุดโซเชียล เฟซบุ๊กเพจ CSI LA แฉถึงกรณีที่ “โซโล” วรมัน โอภากุล ลูกชายแอ๊ดบาว ได้ติดยศ “ร้อยตำรวจโท” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก่อวีรกรรมเป็นผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ - ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ มาก่อน แถมยังเหน็บว่า “ประวัติแบบนี้ มีอาชีพให้เลือกเพียบ ดันเลือกเป็นตำรวจ ตลกสิ้นดี”
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 โซโลถูกดำเนินคดีร่วมกับพวกอีก 2 คน ในข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จากโรงเรียนดังย่านสุขุมวิทเพื่อกระทำชำเรา แถมยังมีการถ่ายภาพไว้เพื่อข่มขู่แบลกเมล์ ทำให้พ่อของผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ
แต่คดีก็อืดแสนอืด กระทั่งปลายปี 2553 ที่อัยการยื่นฟ้องแค่ผู้ต้องหา 2 ราย ไม่สั่งฟ้อง “หนุ่มโซโล”
มีกระแสข่าวว่าก่อนหน้านั้น อัยการได้มีคำสั่งฟ้อง “หนุ่มโซโล” เช่นเดียวกับเพื่อนแล้วแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ติดตามตัวเพื่อยื่นฟ้องต่อศาล แต่ขอเลื่อนนัดตลอด จน “พ่อแอ๊ด” ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” อัยการสูงสุดในเวลานั้น ไม่นานอัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้องออกมา
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “แอ๊ดบาว” มีขาใหญ่อีสานใต้ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ตอนนั้นใหญ่คับ “รัฐบาลประชาธิปัตย์” เป็นตัวช่วยพิเศษ หลังจากนั้น ก็ใช้หนี้บุญคุณกันมาเรื่อย ผ่านการแต่งเพลงประจำพรรคบ้าง ประจำทีมฟุตบอลบ้าง หรือมาออกอีเว้นต์ ให้ “ขาใหญ่” คนนั้นมาตลอด
มาฟังเพลงที่ “แอ๊ด คาราบาว” แต่งให้กับขาใหญ่อีสานใต้ ไม่ว่าจะเป็น “เพลงภูมิใจไทย” ใช้หาเสียงปี 2554 ที่มี เสี่ยหนู - อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ที่มีสายสัมพันธ์กับเนวินโดยตรง และเพลง “ธันเดอร์คาสเซิล ทีม” ที่แต่งให้กับสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งมี “เนวิน” เป็นประธานสโมสร
นอกจากนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2553 มีข่าวว่า นายเนวิน ได้เข้าซื้อกิจการและกิจกรรมทั้งหมดของ “คาราบาว” วงดนตรีเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจด้านบันเทิง และใช้สำหรับรณรงค์กิจกรรมทางการเมืองในปี 2554
ฟังดูแล้วแม้จะออกเป็นการเป็นงาน แต่ก็น่าคิดว่า นี่อาจเป็นการ “ต่างตอบแทน” หรือไม่?