xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรอาลัยหลั่งไหลกราบพระบรมศพในหลวง ร.๙ 159 วัน ยอด 6 ล้านคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชาชนทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 23,330 คน รวม 159 วัน มี 6,021,792 คน

วันนี้ (11 เม.ย.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 160 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

ด้าน นางมณี เลี่ยงภัย อายุ 60 ปี ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางจากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พร้อมน้องสาว ลูกชายและเพื่อน นางสาวสิรี เลี่ยงภัย นายนันทวัฒน์ อจลานนท์ และนางสาวลินดา จรรยาประเสริฐ กล่าวว่า มีโอกาสมาเข้ากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แต่คนอื่นมาเป็นครั้งแรก แต่ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็รู้สึกซาบซึ้งและปลื้มใจ เพราะเรารักพระองค์ท่านมาก พระองค์ทรงงานให้แก่ประชาชนคนไทยมานานนับ 70 ปี และรู้สึกเป็นบุญมากๆ ที่เคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จฯท่านหลายครั้งทั้งที่ได้เห็นพระองค์อย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่มองเห็นระยะไกล แต่ทุกครั้งก็จะจดจำนำความปลาบปลื้มมาเล่าต่อให้ลูกหลานฟัง นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นข้าในพระองค์ ตัวเองได้ปฏิญาณตนในการทำงานเพื่อประเทศชาติเป็นที่หนึ่ง ไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน พร้อมให้บริการประชาชนด้วยความจริงใจ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่คดโกง โดยได้ยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างมาตลอด

ด้านลูกชาย นายนันทวัฒน์ อจลานนท์ วิศวกรโยธา เผยถึงความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งถวายงานรับใช้ในโครงการพระราชดำริ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการในพระราชดำริเขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก และโครงการพระราชดำริสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม หรือ สะพานภูมิพล ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าโครงการในพระราชดำริของพระองค์ทรงสร้างประโยชน์และช่วยให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้นมาก

ก่อนหน้าที่จะได้มาทำงานถวายพระองค์ ก็เป็นช่างทำงานทั่วไป แต่วันหนึ่งนั่งเรือข้ามฟากผ่านโครงการที่กำลังก่อสร้างสะพานภูมิพล ในใจก็คิดอยากจะมีโอกาสได้ทำงานถวายพระองค์ท่าน และในที่สุดก็มีโอกาสนั้นจริงๆ นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต นอกจากนี้ งานที่ทำต้องอยู่กลางแดด อากาศร้อน และมีฝุ่นเยอะ แต่ทุกครั้งเมื่อได้มองพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีหยดเหงื่อตรงปลายจมูกพระองค์ท่านก็กลับทำให้มีกำลังใจ พร้อมอดทนและสู้งานต่อไป เพราะพระองค์ทรงเหนื่อยกว่าพวกเราหลายเท่า ขณะเดียวกัน ตัวเองเป็นมุสลิม รู้สึกปลื้มใจที่พระองค์พระราชทานให้แปลคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย ทำให้เห็นว่าทรงไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นศาสนา ทรงห่วงใยทุกคนด้วยความเท่าเทียมกัน และเชื่อว่า ชาวมุสลิมก็รักและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพวกเรา

ขณะที่ 5 สาวอักษรศาสตร์จุฬาฯ รุ่นที่ 43 ที่ทำงานต่างวิชาชีพ แต่ก็พร้อมใจนัดกันมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กันเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยทั้ง 5 คน กล่าวร่วมกันว่า ทุกครั้งที่มาสักการะพระบรมศพ ก็รู้สึกตื้นตันน้ำตาไหลทุกครั้ง ด้วยเพราะซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาก เพราะทุกหนแห่งในประเทศไทยล้วนเต็มไปด้วยโครงการในพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายทรงงานเพื่อประชาชนของพระองค์ และพวกตนยังได้น้อมนำหลักคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความพอเพียงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทไม่กักตุนสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ ต้องมีความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของตัวเองทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมรักและรู้จักการแบ่งปัน พร้อมช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอและด้อยโอกาสในสังคมเสมอ และสิ่งสุดท้ายคือต้องมีความพยายามสร้างความดีในทุกรูปแบบ ดังพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่เคยรับสั่งไว้ว่า ความดีมันอาจทำอยากกว่าความชั่ว แต่พวเราทุกคนก็ต้องหมั่นและพยายามทำความดี และตั้งตนตั่งมั่นอยู่ในความดีตลอดไป

ด้าน นางสุชีรา จตุวงศ์ เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ รวม 5 คน ประกอบด้วย นางวรุณรัตน์ นายวินิท นายเพชร วุฒิมานพ และ นางสาวปทุม แก้วดี จากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ เผยว่า ตัวเองมาเป็นครั้งแรก แต่ญาติๆ มากันเป็นครั้งที่ 2 บ้าง ครั้งที่ 3 บ้าง

“ดีใจที่ได้มากราบพระบรมศพพระองค์ท่าน และหากมีโอกาสก็ตั้งใจจะมาอีก ที่ผ่านมารักและประทับใจพระองค์ท่านที่ทรงรักประชาชนและทรงงานทุกอย่างเพื่อประชาชนโดยไม่นึกถึงตัวเอง ตอนพระองค์ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่เคยมีโอกาสรับเสด็จพระองค์ท่านที่โรงพยาบาลศิริราช ตอนนั้นคุณพ่อเข้าไปรักษาที่นั่นพอดีพระองค์ท่านยังได้พระราชทานพวงมาลัยมาให้คนป่วยทุกคนด้วย คุณพ่อก็นำมาแบ่งให้กับลูกกลานได้เก็บไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเก็บไว้อย่างดีบนหิ้ง” นางสุชีรา กล่าว

ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.08 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 23,330 คน รวม 159 วัน มี 6,021,792 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,713,282.25 บาท รวม 159 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 492,351,892.26 บาท



































กำลังโหลดความคิดเห็น