ศ.ดร.สุนทร บุญญาธิการ ประธานมูลนิธิลดโลกร้อน กล่าวว่า สหกรณ์ภาคการเกษตรจับฉลากแล้วถึงจะหาผู้สนับสนุนนั้น เป็นที่เคลือบแคลงได้ว่ามีการเตรียมผู้สนับสนุนจัดตั้งไว้ก่อนหรือไม่ เท่ากับเป็นการซ่อนรูปให้กลุ่มทุนสามานย์เข้าร่วมโครงการ เดิมทีกลุ่มทุนเหล่านี้ก็วางแผนเข้าโครงการอย่างไม่โปร่งใสอยู่แล้ว จากการเสนอให้มีการประมูล แต่พอสรุปว่าให้จับฉลากก็ยังพยายามวางกับดักโดยให้สหกรณ์จับฉลากได้โครงการก่อนแล้วค่อยเข้าแทรกภายหลัง
โครงการนี้ระยะที่1ผู้สนับสนุนได้ให้ทุนสหกรณ์ดำเนินการมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุม จัดหาที่ดินการประสานงาน การเตรียมเอกสาร ซึ่งต้องใช้บุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ใช้เวลาและเงินทุน ดังนั้นความพร้อมที่จะยื่นเรื่องเข้าโครงการจะสมบูรณ์ลงตัวนั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายระดับหนึ่ง เมื่อผู้สนับสนุนโครงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดภาระการลงทุนจึงไม่ได้ตกมาที่สหกรณ์ สิ่งนี้เป็นผลดีต่อสหกรณ์ ดังนั้นหลักการที่ว่าให้สหกรณ์จับฉลากให้ได้ก่อนแล้วค่อยหาผู้สนับสนุนนั้นเป็นหลักการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จะเกิดการสับสนวุ่นวาย ฟ้องร้องกันไปใหญ่
นายปฏิพล เกตุรัตนัง ประธานสหกรณ์การเกษตรนาบอน จำกัด จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนมาทวงสิทธิ์โควต้าที่เป็นธรรมโควต้าราชการที่เข้าร่วมโครงการไม่ได้ ควรโอนให้สหกรณ์ฯ ทวงสิทธิ์ความโปร่งใสและเสมอภาค ราคาต้อง5.66บาท/หน่วยเหมือนระยะที่1 ขายพวกเรา 4.26 บาทหน่วยแต่จะมากดราคาโซล่าฟาร์มเหลือ 4.12บาท/หน่วย วิธีการคัดเลือกต้องเหมือนระยะที่ 1 ไม่ใช่พยายามแฝงรูปจับฉลากเปิดทางนายทุนสามานย์จ้องเสียบ
ขอยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1.หากราชการเข้าร่วมไม่ได้ด้วยเหตุผลปัจจัยอื่นใดควรโอนโควต้านั้นมาให้เกษตรกร ไม่ใช่เอาไปให้ใครอื่น อีกอย่างการแบ่งโควต้าก็ไม่เป็นธรรม เกษตรกรมีมากกว่า 30 ล้าน กลุ่มราชการมีแค่ 2-3 ล้านคน แบ่งโควต้าได้ไงครับ 400 เมกกะวัตต์เท่ากัน ทำไมกระทรวงพลังงานไม่ทำตามเจตนารมย์ของท่านนายกฯ แต่ยายามเปลี่ยนแปลงทั้งราคา วิธีการ และวิธีการคัดเลือก ทำเพื่ออะไรหรือผลประโยชน์ของใคร 2.ระยะที่ 1 รับซื้อ 5.66 บาท/หน่วยใช้วิธีจับฉลาก พอระยะที่2 จะลดราคาลงเหลือ 4.12 บาท/หน่วย กดราคาจนไม่เหลือเป็นสวัสดิการของเกษตรกร ตามประกาศราชกิจจาฯ 13 มีนาคม 2558 ระยะที่1 ก็รับซื้อ 5.66 บาท/หน่วย ระยะที่2 เป็นโครงการเดียวกันต่อเนื่อง ไม่ใช่โครงการใหม่ ราคา 5.66 บาท/หน่วยเป็นธรรม ถูกต้องแล้ว 3.วิธีการคัดเลือกระยะที่1 โปร่งใสเป็นธรรม ดีอยู่แล้ว กระทรวงพลังงานควรเห็นใจเกษตรกร ไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มทุน การให้สหกรณ์คัดเลือกผู้สนับสนุนก่อนจับฉลากดีอยู่แล้ว เพราะพวกเราสหกรณ์ฯไม่มีความรู้ความสามารถเตรียมเอกสาร ดังนั้นพวกเราต้องคัดเลือกผู้สนับสนุนเพื่อสนับสนุนตั้งแต่แรกเข้าโครงการก่อนจับฉลากซึ่งไม่วุ่นวาย
ด้านนายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานเครือข่ายปราบโกงแห่งชาติ พร้อมภาคีเครือข่าย สหกรณ์ภาคการเกษตร กล่าวว่า อาจต้องเกณฑ์พวกเราชาวเกษตรกร จากทั่วประเทศอย่างน้อย 20,000 คนมาที่กระทรวงพลังงานเพื่อร้องขอความเป็นธรรมและให้ผู้บริหารสนพ. และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพลังงาน พิจารณาตนเองและคงต้องร่วมกันเดินทางไปร้องเรียน ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ด้วยเพื่อให้พิจารณา ใช้ ม.44 ฯลฯ จัดการข้าราชการที่ มีพฤติกรรมไม่โปร่งใสที่พยายามบิดเบือนข้อมูลฯแก้ไขระเบียบฯการคัดเลือก, จ้องกดราคา เพื่อรังแกเกษตรกรไม่ให้สามารถเข้ามาในโครงการได้ และฮุบโค้วต้าไปให้กลุ่มทุนทั้งๆที่โครงการนี้ประกาศเป็นกฎหมาย ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว