xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรทั่วประเทศ เดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพ รัชกาลที่ ๙ อย่างต่อเนื่องวันที่ 154

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชาวกะเหรี่ยงจากจังหวัดลำพูน กว่า 10 คน เช่ารถตู้มาคนละ 2 พันบาท เพื่อเดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ และประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่อง ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

วันนี้ (5 เม.ย.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 154 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายไม่ร้อนมาก

ด้าน นางดารารัตน์ ภู่พร้อมพันธุ์ อายุ 58 ปี พักอยู่บ้านพักย่านเขตลาดกระบัง จังหวัดกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังที่สักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า วันนี้ตนและเพื่อนบ้านรวม 8 คน ได้เดินทางออกบ้านพักย่านลาดกระบังตอน 08.00 น. โดยได้หารเงินเช่ารถตู้กันมา และมาถึงท้องสนามหลวงตอน 09.00 น. แล้วได้ขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ เมื่อเวลา 10.30 น. ซึ่งเป็นการมาสักการะพระบรมศพครั้งแรกในชีวิต รู้สึกตื้นตันใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้ว เนื่องจากสุขภาพไม่ค่อยดี ป่วยกระเซาะกระแซะอยู่ตลอดเวลา วันนี้ตั้งแต่เช้าก็มีอาการปวดเข่ามากคิดว่าจะมาไม่ได้แล้ว แต่นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย จึงทำให้มีแรงฮึดสู้เดินทางมาสักการะพระบรมศพให้จนได้ ถึงแม้ว่ามาถึงสนามหลวงแล้วจะต้องเดินเท้าอีกระยะหนึ่งกว่าจะถึงจุดหมายก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง รัชกาลที่ ๙

“ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยเป็นอย่างพระองค์ได้พระราชทานความช่วยเหลือประชาชนมากล้น ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องข้าว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เคยตามสามีซึ่งเป็นอดีตข้าราชการชำนาญการเกษตร ไปประจำอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ได้เห็นสามีนำความรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ วิธีการปลูกข้าว การทำสวนปลูกผัก ไปถ่ายทอดและสอนเกษตรกรอยู่เป็นประจำ ทุกวันนี้แม้สามีจะเสียชีวิตไปแล้วถึง 3 ปี แต่ภาพที่ได้ศึกษาจากการสอนของสามี ก็ทำให้ทุกวันนี้เราสามารถปลูกผัก ขุดสระเลี้ยงปลา ไว้กินเองได้ โดยยึดถือว่าพึ่งพาตัวเองให้มากที่ นอกจากนี้เรายังนำความรู้เหล่านี้ไปถ่ายทอดให้เพื่อนบ้านเพื่อให้เขาปลูกผัก เลี้ยงปลาไว้กินเองอีกด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนที่ยั่งยืน และกำไรที่ได้รับกลับมาคือความสุขที่ยั่งยืนนั่นเอง”

ด้าน นางสาวสิรินาถ ธงศิลา อายุ 32 ปี ชาวชัยภูมิ รับราชการครูแนะแนวที่โรงเรียนพรตพิทยพยัต ย่านลาดกระบัง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาสักการะพระบรมศพกับเพื่อนๆ ร่วมกัน 4 คน กล่าวว่า ออกมาจากแถวโรงเรียนตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้า โดยมากราบสักการะเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม แม้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาให้ครบกี่ครั้งแต่หากว่างเมื่อไหร่ก็อยากจะมาเรื่อยๆ ประทับใจที่พระองค์ทรงปกครองประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม ด้วยความอดทนนับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ เป็นต้นแบบของการปกครองแบบพ่อปกครองลูกด้วยหลักคุณธรรม มุ่งมั่นเพื่อลูกๆ ทุกคน การปกครองประเทศด้วยความใกล้ชิดกับประชาชน ใช้ความเมตตากรุณา และใช้ถ้อยคำที่ดีๆ แก่คนทำงานด้วยกันทุกคนนั้น ทำให้เราสามารถนำมายึดใช้ได้ในการทำงาน พูดจาดีๆกับเด็กนักเรียน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนเป็นแม่กับลูก อย่างเด็กรุ่นใหม่อาจไม่ทราบว่าถึงพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มากนัก ก็จะคอยพยายามสอนเด็กๆ เช่น เราเป็นครูแนะแนว เมื่อพูดเรื่องการเรียน การทำงาน ความรัก ทุกอย่างที่สอนเขาก็สามารถยึดในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นแบบอย่างได้ทั้งหมด เช่น ศึกษาให้ดี เลือกที่เหมาะกับตน เพื่อไปพัฒนาประเทศชาติเหมือนกับพระองค์

ด้าน นางจุฑาทิพย์ คุ้มประดิษฐ์ อายุ 50 ปี ครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลบางกระดี่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เดินทางจากย่านปทุมธานีมาถึงท้องสนามหลวง เวลา 10.00 น. เผยว่า ตนเองใช้โอกาสช่วงปิดเทอมเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งแรกพร้อมเพื่อนครูอีก 2 คน รู้สึกดีใจที่สุดในชีวิต เพราะไม่เคยมีโอกาสได้เฝ้าฯ รับเสด็จฯมาก่อน ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆ เรื่อง ฐานะที่เป็นครูพระองค์ทรงสอนไว้ว่าการเป็นครูก็ต้องมีจิตใจที่ดี มีนักเรียนซึ่งตัวเองถือว่าเป็นลูกๆ เป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด นอกเหนือเวลางานตัวเองยังทำสวนเศรษฐกิจพอเพียงปลูกพืชผักสวนครัวและผลไม้ไว้กินเองที่บ้าน อาทิ มะนาว กล้วย ชมพู่ และยังน้อมนำคำสอนอีกมากมายมาใช้เช่น ขยัน อดทน การรู้จักทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด รวมถึงรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจให้แก่กันและกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนในสังคมอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

ด้าน นางสายทอง เงินเลิศสกุล อายุ 41 ปี ชนเผ่ากะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) อาชีพเกษตรกร และค้าขายเครื่องหัตถกรรมชนเผ่า ชุมชนบ้านพระบาทห้วยตุ้ม ตำบลท่าทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตนพร้อมกับชนเผ่ากะเหรี่ยงในชุมชน กว่า 10 คนได้เช่ารถตู้มาคนละ 2 พันบาท เพื่อเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะพระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชนเผ่าอย่างมาก ซึ่งพระองค์เคยเสด็จฯ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังชุมชนบ้านพระบาทห้วยตุ้ม 3 ครั้ง ระหว่างปี 2521 - 2523 เพื่อเยี่ยมราษฎร์และพระราชทานที่ดินให้ปลูกบ้านพักอาศัย และที่ดินทำกินแก่ครอบครัวชนเผ่า และทรงให้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยตุ้ม รวมถึงสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ลอง และอ่างเก็บน้ำแม่ปูน้อย อยู่ใกล้กับชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้มีงานทำ และมีน้ำทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์














กำลังโหลดความคิดเห็น