เมื่อสองปีก่อน หลายคนคงเคยได้ชมคลิปสาวน้อยมือบรรเลงพิณที่เปิดหมวกอยู่แถวๆ ท่าน้ำสาทร ซึ่งลวดลายฝีมือดีดพิณนั้นไม่เป็นที่สองรองใครเลย จึงทำให้มีคนถ่ายคลิปของเธอมาลงจนดังมากในสื่อโซเชียล และเหตุนี้เองทำให้เธอได้ออกสื่อจนเป็นที่รู้จักเมย์-ลำเพลิน บรรเลงพิณ
เพราะชื่นชอบในเสียงพิณและอยากช่วยเหลือครอบครัว ทำให้เธอตัดสินใจเปิดหมวก หันเอาดีทางด้านการเล่นพิณหาเงินจุนเจือช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ตั้งแต่มัธยมต้น
ปัจจุบัน“น้องเมย์ ลำเพลิน” หรือ ด.ญ. จุฑารัตน์ ทองบ้านโข้ง ยังคงช่วยหาเงินเลี้ยงครอบครัวอยู่เช่นเดิม เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะเล่นพิณหาเงินช่วยพ่อกับแม่ไปเรื่อยๆ เล่นไปจนถึงที่สิ้นสุดจนกว่าชีวิตจะหาไม่

• หลายคนอาจจะเคยเห็นคลิปของน้องเล่นพิณที่ท่าน้ำแถวสาธรเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดก็ยังมีคนชื่นชมน้องเมย์และถ่ายคลิปมาลงอีกครั้ง คืออยากให้ช่วยอัปเดตหน่อยค่ะว่าตอนนี้น้องเมย์ยังเล่นพิณเปิดหมวกอยู่ที่ไหนบ้างคะ
น้องเมย์ : ตอนนี้เมย์เล่นอยู่ที่สะพานสาทร สีลม และก็จะมีเล่นที่จตุจักรวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ส่วนใหญ่ที่จตุจักรจะเป็นช่วงเวลาว่างมากกว่าค่ะ ถ้าวันไหนมีงานแห่ก็จะไม่ได้ไป (ยิ้ม)
คุณแม่ : เขาจะใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปเล่น แต่ช่วงที่อยู่ ม.1 ม.2 จะไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่เพราะ กว่าจะเลิกเรียนก็ 6 โมงเย็นแล้ว กิจกรรมในโรงเรียนมันเยอะ เล่นได้ประมาณ ชั่วโมงนึงบ้าง บางทีไม่ถึงชั่วโมง สัปดาห์หนึ่งเล่นได้วันนึง ถ้าไปช้าแล้วรถติดก็ไม่ได้ไปแล้ว บางสัปดาห์ก็มีไม่ได้เล่นเลย ช่วงนี้เลยจะไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่ค่ะ
• ถามถึงจุดเริ่มต้นการมาเล่นพิณเปิดหมวกหน่อยค่ะ ว่าเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนอย่างไร
น้องเมย์ : ส่วนตัวเมย์รู้จักพิณมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบได้แล้วค่ะ แต่จริงๆ คือได้ยินเสียงพิณมาตั้งแต่เด็กๆ น่าจะประมาณ 6 ขวบได้ค่ะ
ส่วนเปิดหมวกเมย์เริ่มเล่นพิณเปิดหมวกมาตั้งแต่อายุ 12 ปีแล้วค่ะ ซึ่งแรงบันดาลใจมาจากคุณพ่อด้วยค่ะ เพราะพ่อชอบเสียงพิณ และอีกอย่างคุณพ่อหนูท่านเป็นคนพิการ ขับรถก็โดนตำรวจเรียก หนูเลยรู้สึกว่าเราต้องช่วยท่านบ้างแล้วนะ
• ฝึกฝนยังไงบ้างคะ
น้องเมย์ : แรกๆ หนูไปฝึกและเรียนกับอาจารย์แต๊ก ลำเพลิน ที่สอนหนูมาตลอด ก็เรียนนานอยู่พอสมควรเลยนะคะ ประมาณ 2-3 เดือนได้ที่หนูฝึกมากว่าจะได้เล่นเปิดหมวกค่ะ
ส่วนตอนนี้หนูเพิ่งได้มีโอกาสไปเรียนกับอาจารย์หนุ่ม ภูไทเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วค่ะ เพราะเพิ่งได้ไปเจอที่งานรวมมือพิณ แต่เรียนกับอาจารย์แต๊ก ลำเพลิน มาหลายปีแล้วค่ะ รวมๆ แล้วก็ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ
• ที่ตัดสินใจมาเล่นพิณเปิดหมวกเพราะความชื่นชอบด้วย และอยากแบ่งเบาภาระในครอบครัวด้วย ?
น้องเมย์ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นอยู่ป.6 เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่พอดีค่ะ หนูก็จะใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปเล่น ไปประมาณ 4 โมงครึ่ง 6 โมงก็กลับ
ตอนนั้นเมย์ก็เลยฝึกเพลงโปงลาง เพราะเห็นว่ายากดี ฝึกไปฝึกมามันก็ชิน แต่ก็ยังเล่นได้ไม่กี่เพลง ที่หนูทำเพราะหนูเห็นพ่อลำบาก หนูก็เลยอยากช่วยพ่อหารายได้พอเราทำได้เราก็อยากทำเต็มให้ที่ เพื่อจะได้ช่วยเหลือครอบครัวค่ะ
หนูจะใช้เวลาเล่นอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้ เล่นเหนื่อยก็พัก พักแล้วก็ไปเล่นต่อ รายได้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาทค่ะ ซึ่งรายได้บางส่วนก็จะเก็บเป็นค่าเช่าบ้าน แล้วเอาไปโรงเรียน นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
คุณพ่อ : เขาช่วยพ่อแม่ได้เยอะ ก็ดีกว่าแต่ก่อน ดีกว่าแต่ก่อนเยอะมากครับ

• แล้วทำไมคุณพ่อ คุณแม่ถึงตัดสินใจว่าควรซื้อพิณให้น้องเมย์เล่นคะ
คุณพ่อ : จริงๆ เมย์เขาชอบมาตั้งแต่เล็กๆ ได้ยินเสียงพิณเขาก็จูงให้พาไปดู พอพาไปดูเขาก็เลยชอบ พอเขาโตมีงานไปแห่ ได้ยินเสียงพิณเราจะต้องพาไปดู ไม่งั้นเขาร้องไห้ต้องจอดรถแล้วพาไปดู มาเล่นพิณ ไปวันเดียว เขาเดินลายได้เลย เขาเรียกเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย อะไรของเขาไม่ก็รู้ (หัวเราะ)
ตอนที่เขาจะเล่นพิณ ตอนแรกเขาก็เดินมาขอเลยว่าเขาอยากเล่นพิณ เราก็อยากให้ลูกเล่น ก็ต้องซื้อให้ ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่มีเล่น ก็ต้องไปซื้อให้เขา เพราะผมก็อยากให้เขาเล่น อยากให้สืบสานวัฒนธรรม ไม่อยากให้ทิ้งไป เขาเล่นได้ เราก็อยากให้เขาเล่นต่อ ซึ่งเราก็ดีใจที่เขาเล่นนะ เพราะทีแรกเราก็นึกว่าเขาเล่นไม่ได้ เขาไปฝึกมาอยู่ 2 วัน เขาเล่นได้ เขาก็เล่นมาเรื่อยๆ
ตอนนั้นก็เลยไปกู้เขาคนอื่นซื้อพิณด้วยนะ เพราะช่วงนั้นไม่มีเงิน ก็เลยต้องไปกู้เขามาซื้อพิณให้เมย์เล่น ตอนนั้นพิณตัวหนึ่งก็อยู่ที่ราคาประมาณ 1,800 บาท ที่ตอนนี้พิณราคา 1,800 บาท ที่ซื้อมาก็จะเก็บไว้ที่บ้าน แขวนไว้ เป็นพ่อแก่ เป็นเครื่องเรียกเงิน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ พอเขาเล่นได้แล้ว ก็มีไปซื้อลำโพง เอฟเฟ็กซ์มา
เราก็สนับสนุนเขาเต็มที่เพราะเราดนตรีชอบมากอยู่แล้ว น้องก็ชอบ พ่อแม่ก็ชอบ แล้วอีกอย่างสืบสานวัฒนธรรมไทยของเราอีกด้วย ไปด้วยกัน คู่กันไป ก็ตั้งแต่ตอนนั้นมา จนตอนนี้ก็สองปีได้แล้วครับ
• ตอนนี้เล่นมาได้ประมาณ 2 ปี มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้างไหมคะ
น้องเมย์ : ก็มีบ้างนะคะ เวลาที่หนูเล่นก็มีเข้ามาพูดคุยบ้างว่า เก่งจังเลย เรียนมาจากไหน อยู่โรงเรียนอะไร คนที่ขอเพลงก็มีค่ะแต่ถ้ายังเล่นไม่ได้ หนูก็จะบอกไปว่ายังเล่นไม่ได้ ถามว่าพัฒนาเยอะขึ้นไหมก็มีพัฒนามากขึ้นนะคะ จะมีเพลงเยอะ มีลายพิณเยอะขึ้นค่ะ
คุณพ่อ : ตอนนี้เขายังเด็กอยู่ ขอนแก่นก็โทรมา อยากให้ไป ผมบอกว่าจะไปยังไง มันไกล วงใหญเขาชวนไปอยู่วงลำซิ่ง
น้องเมย์ : หนูก็อยากไปนะคะ อยากไปอยู่วงดนตรี แต่ก็ยังไปไม่ได้ เพราะยังติดเรียนอยู่ ตอนนี้ก็จะมีรับแห่งานบุญ งานบวช พ่อกับแม่ก็จะเป็นคนรับงานให้ค่ะ (ยิ้ม)

• อย่างเวลาไปเล่นเปิดหมวกส่วนใหญ่จะเล่นเพลงอะไรบ้างคะ
น้องเมย์ : เป็นลำเพลินของพิณ เพลงสมัยใหม่ก็จะมีบ้างค่ะ อย่างเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร หนูจะชอบจังหวะเร็วๆ แล้วมีดนตรีประกอบด้วย ตอนนี้ก็จะมีตุ๊กตาเต้นอยู่ข้างหน้า ซึ่งพ่อเป็นคนคิดประดิษฐ์ขึ้นมาให้เพื่อให้คนสนใจ เป็นจุดเด่นด้วยค่ะ
• แล้วเราเริ่มเป็นสาวแล้ว มีรู้สึกอายบ้างไหม เวลาไปแสดงออกต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้
น้องเมย์ : ก็รู้สึกอายนิดนึง เจ็บๆ มือนิดนึง ไปวันแรกก็มีคนดูเยอะอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็มีบ้างเป็นบางเวลานะคะ แล้วแต่สภาพอากาศด้วย (หัวเราะ) อย่างแดดร้อนหนูก็จะดูเครียดๆ หน่อย แต่เวลาฝนตกนี่เย็นสบายเลยค่ะ อารมณ์การแสดงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเลยค่ะ

• ชอบเสียงพิณแบบนี้แสดงว่าเป็นคนอีสานใช่ไหมคะ
น้องเมย์ : ไม่ใช่ค่ะ หนูเป็นคนกาญจนบุรีค่ะ แต่ว่าปู่จะมาจากอีสานค่ะ ปู่จะเล่นดนตรีเก่ง ส่วนคุณย่าเป็นคนเมืองกาญจน์ค่ะ
ที่หนูชอบเสียงพิณ เพราะพิณมีเสน่ห์ตรงเสียงค่ะ คือพิณกับกีตาร์ จุดเด่นคือเสียงของพิณส่วนตัวหนูว่าจะดีกว่ากีตาร์ โน๊ตมันน้อย จับง่าย
หนูว่าพิณมีความไพเราะตรงเสียงมากๆ มันไพเราะ รื่นรมย์ ร่มเย็น สามารถกล่อมให้คนนอนได้ กล่อมให้นางรำเต้นได้ ค่ะ
• มันเป็นเรื่องอัศจรรย์พอสมควรนะ สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ชื่นชอบอะไรบางอย่างและสามารถทำมันออกมาได้ดีเลย
คุณพ่อ : ก็มีหลายคนเหมือนกันที่มาเล่น แต่ก็ไม่ได้สักคน มีได้จริงๆ คนนึง น้องหญิง เล่นคู่กับเขาอยู่ ได้กันอยู่สองคน คนอื่นไม่ได้เลย มาจากชลบุรี มาจากทั่วสารทิศเลย มาเยอะ พอเจ็บมือก็ทิ้งกันหมด มาไม่ใช่น้อยๆ นะ ช่วงใหม่ๆ ที่เล่น คนนู้นก็อยากเล่น คนนี้ก็อยากเล่น ที่น้องไปออกสื่อ ใครๆ ก็อยากให้ลูกเรียน พอมาเจอเจ็บมือ ทิ้งไปเลย แต่เมย์เขาไม่เคยบ่นนะ
น้องเมย์ : เล่นพิณเจ็บมือจริงๆ นะคะ แต่ตอนนี้หนูไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะผ่านตรงนั้น

• หาเงินช่วยคุณพ่อ คุณแม่มาตั้งแต่เด็ก แล้วชีวิตวัยรุ่นเราเป็นยังไงบ้างคะ
น้องเมย์ : หนูก็มีไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง เป็นบางเวลาค่ะ รู้ว่าอันไหนที่ควรจะไป อันไหนที่ไม่ควรจะไป ก็มีไปเล่นหน้าบ้านบ้างค่ะ
คุณพ่อ : แต่ก็ไปไม่ได้ไง คนแถวนั้นเยอะ พลุกพล่าน อยู่ตรงชุมชนสวนละไม ตรงนั้นเป็นชุมชนแออัด แต่เราก็ไม่เคยได้บังคับเขานะ
คุณแม่ : เราก็จะสอนบ้างเขาบ้างบางที อย่างเวลาที่ไปเจอเพื่อนก็มีขัดเขาบ้างเหมือนกัน อันนี้ไม่ดีนะ อันนั้นเป็นยังไง ก็จะสั่งสอนเขา ไม่ดีก็ต้องตีกันบ้าง จะปล่อยตามใจเลยมันก็ไม่ใช่
• ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่อยากฝากให้คนรุ่นเดียวกันหันมาอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอย่างไรบ้างคะ
น้องเมย์ : คือหนูจะบอกว่า วัยรุ่นทุกคนไม่จำเป็นต้องมาเล่นพิณเหมือนกับเมย์ก็ได้ค่ะ แต่อยากให้อนุรักษ์ อย่างเพื่อนๆ กลุ่มหนูเขาก็ไม่ได้เล่นพิณแต่เขาจะชอบเปิด อีสาน แต่ละเพลงจะเป็นเพลงอีสานล้วนๆ เลยค่ะ อยากบางทีเลิกเรียน เพื่อนๆ หนูก็มาเต้น มาเป็นแดนซ์เซอร์ให้ด้วย
ส่วนตัวหนูชอบเพลงอีสานหลายเพลงเลยค่ะ จะบอกว่าชอบทุกเพลงเลยก็ได้นะคะ ที่ชอบมากๆ ก็จะเป็นเพลงของข้าวทิพย์ ธิดาดิน หนูจะชอบแกะเพลงนี่มาเล่นค่ะ วันนี้ก็จะกลับบ้านไปแกะเพลง ไม่กล้าบอกครูค่ะ ตอนนี้เล่นภูไท ลำเพลิน สามช่า รำวง แล้วก็เพลงแขกได้ค่ะ (ยิ้ม)

• แล้วอยากฝากอะไรถึงคนที่ลำบาก หรือสู้ชีวิตแบบเราบ้างไหมคะ
น้องเมย์ : อยากให้สู้ต่อไปนะคะ มีความสามารถอะไรก็มาโชว์ ไม่ต้องเก็บเอาไว้ค่ะ แล้วคนรุ่นหลังเมย์อยากให้มาสืบสานวัฒนธรรมไปเรื่อยๆ
อย่างเมื่อก่อนตอนเด็กๆ เมย์ก็เคยผ่านความลำบากมาเหมือนกันเพราะพ่อต้องเอาไปเลี้ยงบนรถเมล์ แล้วพอพ่อเลิกงานก็มาส่งให้แม่ตอนเย็น ที่ตอนเย็นแม่ก็ขายไส้กรอกอีสานค่ะ หนูก็จะอยู่แบบนี้มาตลอด
ส่วนตอนนี้หนูก็อยากเล่นพิณแบ่งเบาภาระพ่อแม่ไปเรื่อยๆ เล่นไปจนถึงที่สิ้นสุดเลยค่ะ
• ในอนาคตเราจะมุ่งมาทางด้านดนตรีไหม หรืออยากคิดฝันว่าอยากเป็นอะไร
น้องเมย์ : เอาจริงๆ หนูยังไม่รู้เลยนะคะ แต่หนูก็มีใฝ่ฝันไว้บ้างว่าอยากจะเป็นพยาบาลทหารเรือค่ะ เพราะหนูอยากให้พ่อกับแม่สบาย มีเงินเดือน จะได้ไม่ให้เขาเหนื่อย ไม่ให้เขาทำมาก ให้นอนอยู่บ้านตามสบายค่ะ
ส่วนเรื่องดนตรีตอนนี้หนูก็มีวงที่บ้านนอกค่ะ แล้วกรุงเทพฯเขาก็จะมาจ้างให้ไปเดินคู่กับวง ค่าจ้างก็ได้ประมาณ 500 บาท อย่างงานแห่พวกบวชนาคแล้วก็งานแต่งอะไรประมาณนี้ค่ะ
คุณพ่อ : อนาคตเขาก็อยากให้เขาเรียน เรียนไปด้วย เล่นคู่กันไปด้วย อาชีพนี้ไม่อยากให้เขาหยุด ไม่ว่าเขาจะไปเรียนแบบไหน อาชีพนี้พ่อก็อยากจะให้ติดตัวเขาไป เพราะว่าเขายังจะต้องเล่นอยู่ เวลาที่พูดถึงอนาคต มีหลายคนถามว่าจะเล่นไปจนถึงเมื่อไหร่ เราก็อยากจะให้เล่นไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เล่นไปเหอะ

เรื่อง : ทีมข่าวสัมภาษณ์
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ
ติดต่องานจ้าง FB : น้องเมย์ ลำเพลิน
หรือโทร. 085 225 8163 และ 082 181 0723
เพราะชื่นชอบในเสียงพิณและอยากช่วยเหลือครอบครัว ทำให้เธอตัดสินใจเปิดหมวก หันเอาดีทางด้านการเล่นพิณหาเงินจุนเจือช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ตั้งแต่มัธยมต้น
ปัจจุบัน“น้องเมย์ ลำเพลิน” หรือ ด.ญ. จุฑารัตน์ ทองบ้านโข้ง ยังคงช่วยหาเงินเลี้ยงครอบครัวอยู่เช่นเดิม เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะเล่นพิณหาเงินช่วยพ่อกับแม่ไปเรื่อยๆ เล่นไปจนถึงที่สิ้นสุดจนกว่าชีวิตจะหาไม่
• หลายคนอาจจะเคยเห็นคลิปของน้องเล่นพิณที่ท่าน้ำแถวสาธรเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดก็ยังมีคนชื่นชมน้องเมย์และถ่ายคลิปมาลงอีกครั้ง คืออยากให้ช่วยอัปเดตหน่อยค่ะว่าตอนนี้น้องเมย์ยังเล่นพิณเปิดหมวกอยู่ที่ไหนบ้างคะ
น้องเมย์ : ตอนนี้เมย์เล่นอยู่ที่สะพานสาทร สีลม และก็จะมีเล่นที่จตุจักรวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ส่วนใหญ่ที่จตุจักรจะเป็นช่วงเวลาว่างมากกว่าค่ะ ถ้าวันไหนมีงานแห่ก็จะไม่ได้ไป (ยิ้ม)
คุณแม่ : เขาจะใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปเล่น แต่ช่วงที่อยู่ ม.1 ม.2 จะไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่เพราะ กว่าจะเลิกเรียนก็ 6 โมงเย็นแล้ว กิจกรรมในโรงเรียนมันเยอะ เล่นได้ประมาณ ชั่วโมงนึงบ้าง บางทีไม่ถึงชั่วโมง สัปดาห์หนึ่งเล่นได้วันนึง ถ้าไปช้าแล้วรถติดก็ไม่ได้ไปแล้ว บางสัปดาห์ก็มีไม่ได้เล่นเลย ช่วงนี้เลยจะไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่ค่ะ
• ถามถึงจุดเริ่มต้นการมาเล่นพิณเปิดหมวกหน่อยค่ะ ว่าเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนอย่างไร
น้องเมย์ : ส่วนตัวเมย์รู้จักพิณมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบได้แล้วค่ะ แต่จริงๆ คือได้ยินเสียงพิณมาตั้งแต่เด็กๆ น่าจะประมาณ 6 ขวบได้ค่ะ
ส่วนเปิดหมวกเมย์เริ่มเล่นพิณเปิดหมวกมาตั้งแต่อายุ 12 ปีแล้วค่ะ ซึ่งแรงบันดาลใจมาจากคุณพ่อด้วยค่ะ เพราะพ่อชอบเสียงพิณ และอีกอย่างคุณพ่อหนูท่านเป็นคนพิการ ขับรถก็โดนตำรวจเรียก หนูเลยรู้สึกว่าเราต้องช่วยท่านบ้างแล้วนะ
• ฝึกฝนยังไงบ้างคะ
น้องเมย์ : แรกๆ หนูไปฝึกและเรียนกับอาจารย์แต๊ก ลำเพลิน ที่สอนหนูมาตลอด ก็เรียนนานอยู่พอสมควรเลยนะคะ ประมาณ 2-3 เดือนได้ที่หนูฝึกมากว่าจะได้เล่นเปิดหมวกค่ะ
ส่วนตอนนี้หนูเพิ่งได้มีโอกาสไปเรียนกับอาจารย์หนุ่ม ภูไทเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วค่ะ เพราะเพิ่งได้ไปเจอที่งานรวมมือพิณ แต่เรียนกับอาจารย์แต๊ก ลำเพลิน มาหลายปีแล้วค่ะ รวมๆ แล้วก็ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ
• ที่ตัดสินใจมาเล่นพิณเปิดหมวกเพราะความชื่นชอบด้วย และอยากแบ่งเบาภาระในครอบครัวด้วย ?
น้องเมย์ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นอยู่ป.6 เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่พอดีค่ะ หนูก็จะใช้เวลาหลังเลิกเรียนไปเล่น ไปประมาณ 4 โมงครึ่ง 6 โมงก็กลับ
ตอนนั้นเมย์ก็เลยฝึกเพลงโปงลาง เพราะเห็นว่ายากดี ฝึกไปฝึกมามันก็ชิน แต่ก็ยังเล่นได้ไม่กี่เพลง ที่หนูทำเพราะหนูเห็นพ่อลำบาก หนูก็เลยอยากช่วยพ่อหารายได้พอเราทำได้เราก็อยากทำเต็มให้ที่ เพื่อจะได้ช่วยเหลือครอบครัวค่ะ
หนูจะใช้เวลาเล่นอยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้ เล่นเหนื่อยก็พัก พักแล้วก็ไปเล่นต่อ รายได้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาทค่ะ ซึ่งรายได้บางส่วนก็จะเก็บเป็นค่าเช่าบ้าน แล้วเอาไปโรงเรียน นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ
คุณพ่อ : เขาช่วยพ่อแม่ได้เยอะ ก็ดีกว่าแต่ก่อน ดีกว่าแต่ก่อนเยอะมากครับ
• แล้วทำไมคุณพ่อ คุณแม่ถึงตัดสินใจว่าควรซื้อพิณให้น้องเมย์เล่นคะ
คุณพ่อ : จริงๆ เมย์เขาชอบมาตั้งแต่เล็กๆ ได้ยินเสียงพิณเขาก็จูงให้พาไปดู พอพาไปดูเขาก็เลยชอบ พอเขาโตมีงานไปแห่ ได้ยินเสียงพิณเราจะต้องพาไปดู ไม่งั้นเขาร้องไห้ต้องจอดรถแล้วพาไปดู มาเล่นพิณ ไปวันเดียว เขาเดินลายได้เลย เขาเรียกเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย อะไรของเขาไม่ก็รู้ (หัวเราะ)
ตอนที่เขาจะเล่นพิณ ตอนแรกเขาก็เดินมาขอเลยว่าเขาอยากเล่นพิณ เราก็อยากให้ลูกเล่น ก็ต้องซื้อให้ ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่มีเล่น ก็ต้องไปซื้อให้เขา เพราะผมก็อยากให้เขาเล่น อยากให้สืบสานวัฒนธรรม ไม่อยากให้ทิ้งไป เขาเล่นได้ เราก็อยากให้เขาเล่นต่อ ซึ่งเราก็ดีใจที่เขาเล่นนะ เพราะทีแรกเราก็นึกว่าเขาเล่นไม่ได้ เขาไปฝึกมาอยู่ 2 วัน เขาเล่นได้ เขาก็เล่นมาเรื่อยๆ
ตอนนั้นก็เลยไปกู้เขาคนอื่นซื้อพิณด้วยนะ เพราะช่วงนั้นไม่มีเงิน ก็เลยต้องไปกู้เขามาซื้อพิณให้เมย์เล่น ตอนนั้นพิณตัวหนึ่งก็อยู่ที่ราคาประมาณ 1,800 บาท ที่ตอนนี้พิณราคา 1,800 บาท ที่ซื้อมาก็จะเก็บไว้ที่บ้าน แขวนไว้ เป็นพ่อแก่ เป็นเครื่องเรียกเงิน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ พอเขาเล่นได้แล้ว ก็มีไปซื้อลำโพง เอฟเฟ็กซ์มา
เราก็สนับสนุนเขาเต็มที่เพราะเราดนตรีชอบมากอยู่แล้ว น้องก็ชอบ พ่อแม่ก็ชอบ แล้วอีกอย่างสืบสานวัฒนธรรมไทยของเราอีกด้วย ไปด้วยกัน คู่กันไป ก็ตั้งแต่ตอนนั้นมา จนตอนนี้ก็สองปีได้แล้วครับ
• ตอนนี้เล่นมาได้ประมาณ 2 ปี มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้างไหมคะ
น้องเมย์ : ก็มีบ้างนะคะ เวลาที่หนูเล่นก็มีเข้ามาพูดคุยบ้างว่า เก่งจังเลย เรียนมาจากไหน อยู่โรงเรียนอะไร คนที่ขอเพลงก็มีค่ะแต่ถ้ายังเล่นไม่ได้ หนูก็จะบอกไปว่ายังเล่นไม่ได้ ถามว่าพัฒนาเยอะขึ้นไหมก็มีพัฒนามากขึ้นนะคะ จะมีเพลงเยอะ มีลายพิณเยอะขึ้นค่ะ
คุณพ่อ : ตอนนี้เขายังเด็กอยู่ ขอนแก่นก็โทรมา อยากให้ไป ผมบอกว่าจะไปยังไง มันไกล วงใหญเขาชวนไปอยู่วงลำซิ่ง
น้องเมย์ : หนูก็อยากไปนะคะ อยากไปอยู่วงดนตรี แต่ก็ยังไปไม่ได้ เพราะยังติดเรียนอยู่ ตอนนี้ก็จะมีรับแห่งานบุญ งานบวช พ่อกับแม่ก็จะเป็นคนรับงานให้ค่ะ (ยิ้ม)
• อย่างเวลาไปเล่นเปิดหมวกส่วนใหญ่จะเล่นเพลงอะไรบ้างคะ
น้องเมย์ : เป็นลำเพลินของพิณ เพลงสมัยใหม่ก็จะมีบ้างค่ะ อย่างเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร หนูจะชอบจังหวะเร็วๆ แล้วมีดนตรีประกอบด้วย ตอนนี้ก็จะมีตุ๊กตาเต้นอยู่ข้างหน้า ซึ่งพ่อเป็นคนคิดประดิษฐ์ขึ้นมาให้เพื่อให้คนสนใจ เป็นจุดเด่นด้วยค่ะ
• แล้วเราเริ่มเป็นสาวแล้ว มีรู้สึกอายบ้างไหม เวลาไปแสดงออกต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้
น้องเมย์ : ก็รู้สึกอายนิดนึง เจ็บๆ มือนิดนึง ไปวันแรกก็มีคนดูเยอะอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็มีบ้างเป็นบางเวลานะคะ แล้วแต่สภาพอากาศด้วย (หัวเราะ) อย่างแดดร้อนหนูก็จะดูเครียดๆ หน่อย แต่เวลาฝนตกนี่เย็นสบายเลยค่ะ อารมณ์การแสดงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเลยค่ะ
• ชอบเสียงพิณแบบนี้แสดงว่าเป็นคนอีสานใช่ไหมคะ
น้องเมย์ : ไม่ใช่ค่ะ หนูเป็นคนกาญจนบุรีค่ะ แต่ว่าปู่จะมาจากอีสานค่ะ ปู่จะเล่นดนตรีเก่ง ส่วนคุณย่าเป็นคนเมืองกาญจน์ค่ะ
ที่หนูชอบเสียงพิณ เพราะพิณมีเสน่ห์ตรงเสียงค่ะ คือพิณกับกีตาร์ จุดเด่นคือเสียงของพิณส่วนตัวหนูว่าจะดีกว่ากีตาร์ โน๊ตมันน้อย จับง่าย
หนูว่าพิณมีความไพเราะตรงเสียงมากๆ มันไพเราะ รื่นรมย์ ร่มเย็น สามารถกล่อมให้คนนอนได้ กล่อมให้นางรำเต้นได้ ค่ะ
• มันเป็นเรื่องอัศจรรย์พอสมควรนะ สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ชื่นชอบอะไรบางอย่างและสามารถทำมันออกมาได้ดีเลย
คุณพ่อ : ก็มีหลายคนเหมือนกันที่มาเล่น แต่ก็ไม่ได้สักคน มีได้จริงๆ คนนึง น้องหญิง เล่นคู่กับเขาอยู่ ได้กันอยู่สองคน คนอื่นไม่ได้เลย มาจากชลบุรี มาจากทั่วสารทิศเลย มาเยอะ พอเจ็บมือก็ทิ้งกันหมด มาไม่ใช่น้อยๆ นะ ช่วงใหม่ๆ ที่เล่น คนนู้นก็อยากเล่น คนนี้ก็อยากเล่น ที่น้องไปออกสื่อ ใครๆ ก็อยากให้ลูกเรียน พอมาเจอเจ็บมือ ทิ้งไปเลย แต่เมย์เขาไม่เคยบ่นนะ
น้องเมย์ : เล่นพิณเจ็บมือจริงๆ นะคะ แต่ตอนนี้หนูไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะผ่านตรงนั้น
• หาเงินช่วยคุณพ่อ คุณแม่มาตั้งแต่เด็ก แล้วชีวิตวัยรุ่นเราเป็นยังไงบ้างคะ
น้องเมย์ : หนูก็มีไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง เป็นบางเวลาค่ะ รู้ว่าอันไหนที่ควรจะไป อันไหนที่ไม่ควรจะไป ก็มีไปเล่นหน้าบ้านบ้างค่ะ
คุณพ่อ : แต่ก็ไปไม่ได้ไง คนแถวนั้นเยอะ พลุกพล่าน อยู่ตรงชุมชนสวนละไม ตรงนั้นเป็นชุมชนแออัด แต่เราก็ไม่เคยได้บังคับเขานะ
คุณแม่ : เราก็จะสอนบ้างเขาบ้างบางที อย่างเวลาที่ไปเจอเพื่อนก็มีขัดเขาบ้างเหมือนกัน อันนี้ไม่ดีนะ อันนั้นเป็นยังไง ก็จะสั่งสอนเขา ไม่ดีก็ต้องตีกันบ้าง จะปล่อยตามใจเลยมันก็ไม่ใช่
• ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่อยากฝากให้คนรุ่นเดียวกันหันมาอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอย่างไรบ้างคะ
น้องเมย์ : คือหนูจะบอกว่า วัยรุ่นทุกคนไม่จำเป็นต้องมาเล่นพิณเหมือนกับเมย์ก็ได้ค่ะ แต่อยากให้อนุรักษ์ อย่างเพื่อนๆ กลุ่มหนูเขาก็ไม่ได้เล่นพิณแต่เขาจะชอบเปิด อีสาน แต่ละเพลงจะเป็นเพลงอีสานล้วนๆ เลยค่ะ อยากบางทีเลิกเรียน เพื่อนๆ หนูก็มาเต้น มาเป็นแดนซ์เซอร์ให้ด้วย
ส่วนตัวหนูชอบเพลงอีสานหลายเพลงเลยค่ะ จะบอกว่าชอบทุกเพลงเลยก็ได้นะคะ ที่ชอบมากๆ ก็จะเป็นเพลงของข้าวทิพย์ ธิดาดิน หนูจะชอบแกะเพลงนี่มาเล่นค่ะ วันนี้ก็จะกลับบ้านไปแกะเพลง ไม่กล้าบอกครูค่ะ ตอนนี้เล่นภูไท ลำเพลิน สามช่า รำวง แล้วก็เพลงแขกได้ค่ะ (ยิ้ม)
• แล้วอยากฝากอะไรถึงคนที่ลำบาก หรือสู้ชีวิตแบบเราบ้างไหมคะ
น้องเมย์ : อยากให้สู้ต่อไปนะคะ มีความสามารถอะไรก็มาโชว์ ไม่ต้องเก็บเอาไว้ค่ะ แล้วคนรุ่นหลังเมย์อยากให้มาสืบสานวัฒนธรรมไปเรื่อยๆ
อย่างเมื่อก่อนตอนเด็กๆ เมย์ก็เคยผ่านความลำบากมาเหมือนกันเพราะพ่อต้องเอาไปเลี้ยงบนรถเมล์ แล้วพอพ่อเลิกงานก็มาส่งให้แม่ตอนเย็น ที่ตอนเย็นแม่ก็ขายไส้กรอกอีสานค่ะ หนูก็จะอยู่แบบนี้มาตลอด
ส่วนตอนนี้หนูก็อยากเล่นพิณแบ่งเบาภาระพ่อแม่ไปเรื่อยๆ เล่นไปจนถึงที่สิ้นสุดเลยค่ะ
• ในอนาคตเราจะมุ่งมาทางด้านดนตรีไหม หรืออยากคิดฝันว่าอยากเป็นอะไร
น้องเมย์ : เอาจริงๆ หนูยังไม่รู้เลยนะคะ แต่หนูก็มีใฝ่ฝันไว้บ้างว่าอยากจะเป็นพยาบาลทหารเรือค่ะ เพราะหนูอยากให้พ่อกับแม่สบาย มีเงินเดือน จะได้ไม่ให้เขาเหนื่อย ไม่ให้เขาทำมาก ให้นอนอยู่บ้านตามสบายค่ะ
ส่วนเรื่องดนตรีตอนนี้หนูก็มีวงที่บ้านนอกค่ะ แล้วกรุงเทพฯเขาก็จะมาจ้างให้ไปเดินคู่กับวง ค่าจ้างก็ได้ประมาณ 500 บาท อย่างงานแห่พวกบวชนาคแล้วก็งานแต่งอะไรประมาณนี้ค่ะ
คุณพ่อ : อนาคตเขาก็อยากให้เขาเรียน เรียนไปด้วย เล่นคู่กันไปด้วย อาชีพนี้ไม่อยากให้เขาหยุด ไม่ว่าเขาจะไปเรียนแบบไหน อาชีพนี้พ่อก็อยากจะให้ติดตัวเขาไป เพราะว่าเขายังจะต้องเล่นอยู่ เวลาที่พูดถึงอนาคต มีหลายคนถามว่าจะเล่นไปจนถึงเมื่อไหร่ เราก็อยากจะให้เล่นไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เล่นไปเหอะ
เรื่อง : ทีมข่าวสัมภาษณ์
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ
ติดต่องานจ้าง FB : น้องเมย์ ลำเพลิน
หรือโทร. 085 225 8163 และ 082 181 0723