เปิดใจ ผจก. ทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี แจงร่วมทุนกับ “กลุ่มเซ็นทรัล” พัฒนาพื้นที่ เพื่อแข่งขันทางธุรกิจ ระบุอาคาร 22 ชั้นสร้างมาร่วม 50 ปี ระบบวิศวกรรมต่องเปลี่ยน ย้ำเอกลักษณ์คู่สีลมไม่หายไปไหน แย้มรอชมแบบโครงการ พ.ค. นี้ พร้อมดูแลพนักงานดีที่สุด
นางสุกัญญา จันทร์ชู ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการคนเคาะข่าว ทางสถานีโทรทัศน์นิวส์วัน เมื่อคืนวันที่ 23 มี.ค. ถึงการเปลี่ยนแปลงโรงแรมดุสิตธานี ย่านสี่แยกศาลาแดง ที่ก่อสร้างและเปิดให้บริการมากว่า 50 ปี โดยร่วมกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา พัฒนาพื้นที่ ว่า วันที่ประกาศความร่วมมือ โรงแรมยังอยู่ต่อไป และยังให้บริการไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 โดยมีการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 48 ปี ที่เปิดให้บริการ ได้แก่ การลดราคาห้องพัก การให้อภินันทนาการพิเศษ อาหารและเครื่องดื่ม จากร้านอาหาร 7 แห่ง ส่วนโครงการใหม่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
สำหรับทิศทางความร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลนั้น ตนเห็นว่า โรงแรมจะต้องพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มาตรฐานไม่ตกต่ำลง ทุกๆ ปี จะต้องมีการซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมนานาชาติหรือโรงแรมไทย เมื่อครบวาระสัก 10 - 15 ปี ทุกคนก็อยากที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยได้มีการรีโนเวตเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยลงทุนมากกว่า 1 พันล้านบาท เวลาผ่านไปโรงแรมและเศรษฐกิจส่วนอื่นๆ มีความเปลี่ยนแปลงมีเยอะมาก ความท้าทายมีเยอะ
เพราะฉะนั้น ความเปลี่ยนแปลงตรงนี้จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะโรงแรมเราสร้างมากว่า 50 ปี สูง 22 ชั้น ทุกอย่างดีหมด แต่ระบบวิศวกรรมที่ใช้ก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งความร่วมมือนั้นกลุ่มดุสิตธานีถือ 60% กลุ่มเซ็นทรัลถือ 40% ซึ่งพื้นที่โรงแรมมีสัญญาเช่ากับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 19 ไร่ ซึ่งโครงการใหม่จะมีพื้นที่ต่อเนื่องออกไปรวม 24 ไร่ ซึ่งจะเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส คือ โรงแรมดุสิตธานี อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และศูนย์การค้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เชื่อว่า จะยังคงความเป็นเครือดุสิตธานีเอาไว้อยู่
เมื่อถามว่า ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะนำไปสู่การรื้อถอนอาคาร ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กใจกลางกรุงเทพฯ ออกไป นางสุกัญญา กล่าวว่า เราได้พิจารณาไว้แล้วในการรื้อถอนนั้น จะได้เห็นส่วนของโรงแรมดุสิตธานีอยู่ในโครงการใหม่แน่นอน ไม่ได้ทิ้งหายไปไหน สัญลักษณ์ก็ยังอยู่ ซึ่งจะเปิดตัวแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการรื้อถอนนั้น ได้คำนึงให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด ที่ผ่านมาชุมชนมีน้อย เพราะอาคารโดยรอบหมดสัญญาไปนานแล้ว ส่วนตัวคิดว่าโครงการนี้จะทำให้สีลมกลับมาคึกคักได้อีก ส่วนพนักงานที่มีอายุงานนาน จะดูแลถึงที่สุด โดยไม่ได้เลิกจ้าง แต่จะให้ไปร่วมงานกับโครงการอื่น หรือโรงแรมในเครืออีก 29 แห่งได้
“ตัวเองตั้งใจอยากจะให้แบรนด์ของคนไทยเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลกธุรกิจการโรงแรม การเปลี่ยนแปลงตรงนี้มองว่าการทำโครงการนี้เพื่อให้มีโอกาสแข่งขันในเชิงธุรกิจ ส่วนตัวคิดว่า เมื่อเราเป็นบริษัท ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล แล้ว และนี่เป็นประเทศไทย การแข่งขันในเมืองไทยควรที่จะยกระดับขึ้นมา เพราะเราเป็นผู้นำอยู่แล้ว โอกาสการเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นผลดีสำหรับธุรกิจของบริษัท ธุรกิจโรงแรมและสิ่งแวดล้อม” นางสุกัญญา กล่าว