xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ร.๙ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 141

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 141 ทุกคนต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ น้อมนำหลักคำสอนมาปรับใช้ในชีวิต

วันนี้ (23 มี.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 141 ตลอดทั้งวัน ยังมี พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ อย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

น.ส.บุญเรือน ทองธนารักษ์ อายุ 65 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ชาวบ้านท่าแดง ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง เดินทางมาพร้อมญาติและเพื่อนๆ รวม 6 คน เล่าหลังจากเข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า เดินทางโดยเครื่องบินมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ แล้วพักที่บ้านเพื่อนก่อนจะตื่นแต่เช้ามืดแล้วมาถึงท้องสนามหลวงเพื่อเข้าแถวในเวลา 06.00 น. และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเวลา 08.00 น. รู้สึกดีใจและประทับใจกับการมาครั้งแรก รอไม่นานและได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่อย่างดี ตอนขึ้นกราบพระบรมศพอธิษฐานว่ารักพระองค์มาก หากชาติหน้ามีจริงจะขอให้ได้พบเจอท่านทุกชาติ ขอให้พระองค์พักผ่อนให้สบาย ลูกๆ จะรักสามัคคีกันเพื่อพระองค์

"เรารักท่านเหมือนเป็นพ่อคนหนึ่ง ยังไงต้องมาให้ได้ พอได้มามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ตอนเด็กๆ จำได้ว่ามีโอกาสได้รับเสด็จตอนท่านเสด็จฯไปเป็นประธานยกช่อฟ้าวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง แล้วเยี่ยมราษฎร ได้นั่งรับเสด็จฯใกล้ๆ เลย ทรงพระราชดำเนินผ่านข้างหน้าแล้วโบกพระหัตถ์ อีกครั้งที่ประทับใจไม่ลืมคือตอนไปเรียนที่วิทยาลัยครูยะลา ท่านเสด็จฯโดยรถไฟ เราก็พากันไปยืนรอรับริมทางรถไฟ รู้สึกจิตใจเบิกบาน เป็นบุญของเรามาก พระองค์ท่านทรงเป็นทุกอย่างของคนไทย เป็นแบบอย่างในทุกเรื่องโดยไม่ต้องบอกว่าให้รักให้ศรัทธา แต่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เราอยากเดินตามท่านทุกเรื่อง อย่างข้าราชการครูก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี เพราะเด็กๆ จะได้มีต้นแบบให้เขาเห็น นอกจากนี้ยังต้องซื่อสัตย์ สุจริต และอดทนด้วย” ครูบำนาญ กล่าว

นางปนัดดา บุญเชิญ อายุ 39 ปี และนางภัทรานี ศรีภาค์ อายุ 48 ปี สองข้าราชการองค์การบริการส่วนตำบลโพนค้อ อำเภอเมือง จ.ศรีสะเกษ ที่ได้เดินทางโดยรถบัส 1 คัน และรถตู้อีก1 คัน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ อบต.โพนค้อ จำนวน 70 คน ซึ่งได้ออกเดินทางจากบ้านเกิด จังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่เย็นวานนี้และมาถึงท้องสนามหลวงตอน 05.00 น. และได้ขึ้นสักการะพระบรมศพเมื่อเวลา 09.30 น. โดยนางปนัดดา กล่าวความรู้สึกภายหลังสักการะพระบรมศพ ว่า เป็นการเดินทางมาสักการะพระบรมศพครั้งแรก รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก พูดถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙ ขึ้นมาทีไรน้ำตาก็ไหลออกมาทุกที ไม่เคยคิดว่าท่านจะเสด็จสวรรคตเร็วขนาดนี้ คิดเสมอว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ หากแต่พระองค์ท่านก็สถิตอยู่ในใจพวกเราชาวไทยเสมอมา ด้วยพระราชกรณียกิจ น้อยใหญ่นานัปการ อีกทั้งโครงการในพระราชดำริอีกกว่า 2,000 โครงการพระองค์ล้วนทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องการเกษตร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องดินเป็นดานไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้เดือดร้อนกันทุกถิ่นที่ ครั้นความเดือดร้อนแสนสาหัสนี้ รู้ถึงพระเนตรพระกรรณพระองค์ท่านจึงได้พระราชทานความช่วยเหลือด้วยการจัดตั้งโครงการศูนย์พัฒนาเกษตร ภูสิงห์ ขึ้นมาเพื่อให้นักวิจัยเข้ามาศึกษาแก้ปัญหาเรื่องดินดาน และเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอย่างเต็มตัว จนทำให้ทุกวันนี้ชาวนาจังหวัดศรีสะเกษสามารถปลูกข้าวสร้างรายได้ปีละหลายแสน ทำให้ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข และเป็นแบบอย่างให้ อบต.โพนค้อ ยึดเป็นต้นแบบสานต่องานของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ต่อไป

“จากศูนย์พัฒนาโครงการเกษตร ภูสิงห์ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเรื่องของการนำแนวทางการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้และสอนทุกคนในจังหวัดดังนั้นทุกวันนี้ที่ อบต. เองก็ได้แบ่งพื้นที่ 1 ไร่สำหรับเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร เราจะส่งเสริมให้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันปลูกผัก เลี้ยงปลา โดยผลผลิตทั้งหมดที่ออกดอกออกผล ทุกคนสามารถมาเก็บไปกินในครัวเรือนได้ และส่วนตัวในฐานะที่เป็นข้าราชการ นอกจากจะทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่คอรัปชั่นแล้ว ก็ยังจะน้อมนำคำสอนเรื่องความพอเพียงไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอีกด้วย ใช้จ่ายเท่าที่มี ประหยัดอดออมตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท” นางปนัดดา กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น