xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ อย่างไม่ขาดสาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชาชนทั้งในกรุงเทพมหานคร และจากต่างจังหวัด เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างไม่ขาดสาย ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

วันนี้ (22 มี.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 140 ตลอดทั้งวัน ยังมี พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ อย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

นางกาญจนา ทองสง อายุ 55 ปี อาชีพทำสวนยาง ชาวบ้านนาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง เดินทางมากับพี่สาวและพี่เขย เล่าว่า ลูกชายรับปริญญาที่กรุงเทพฯ จึงเดินทางจากบ้านเกิดมาร่วมยินดี และถือโอกาสชักชวนกันมากราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนั้นรอคิวนาน 5 ชั่วโมง แต่วันนี้มาถึงสนามหลวงตอน 07.00 น. และได้เข้ากราบเวลา 09.00 น. ถือว่าเร็วมาก ทุกครั้งรู้สึกปลาบปลื้มใจเราเป็นคนไทยรักในหลวงมาก ตอนท่านเสด็จสวรรคตดูข่าวโทรทัศน์เห็นจอเป็นสีขาวดำก็ตกใจเรียกคนทั้งบ้านมาดูในหลวงเป็นอะไรหรือเปล่า พอรู้ว่าท่านสิ้นดูข่าวทีไรร้องให้ตามตลอดจนหลานเข้ามาถามทำไมย่าน้ำตาไหล ก็บอกหลานว่าในหลวงจากไปแล้ว

“เคยไปรอรับเสด็จฯพระองค์ท่านตอนอายุ 10 กว่าปี ท่านมาที่สนามกีฬาตรังเพื่อเยี่ยมทุกข์สุขประชาชน ก็รู้ว่าเป็นในหลวงนะ ได้อยู่ระยะไม่ไกลมาก ดีใจมากๆ ยกมือท่วมหัวเลยตอนนั้น เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจริงๆ หลังจากนั้น ก็เห็นท่านตามข่าว คงไม่มีใครประเสริฐกว่าท่านอีกแล้ว ชีวิตนี้โชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินของท่าน ตั้งใจว่าจะทำความดีถวาย บอกลูกหลานด้วย อะไรดีๆ ก็ทำไปใครไม่รู้อย่างน้อยตัวเราเองรู้ นอกจากนี้ จะปลูกฝังลูกหลานให้รู้จักพึ่งพาตัวเองให้ได้ ใช้จ่ายอย่างประหยัด อดออมให้เป็น เดินตามคำสอนของท่าน เชื่อว่า จะเป็นสิริมงคลกับชีวิตและสามารถอยู่ได้ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง” นางกาญจนา กล่าว

นางนทีภรณ์ ศิขิวัตร อายุ 57 ปี ข้าราชการในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางมาพร้อมคณะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่า วันนี้ตนและคณะได้เดินทางมาถึงท้องสนามหลวงแต่เช้าตรู่ อากาศเย็นเหมือนเป็นใจสำหรับการเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรกในชีวิต ความรู้สึกในวันนี้มันเป็นความรู้สึกค่อนข้างเศร้าใจภายหลังได้เหลือบมองพระบรมโกศขณะพนมไหว้ ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้เข้าใกล้พระองค์ด้วย

“รู้สึกค่อนข้างใจหายเลยทีเดียว เพราะเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก ยังจำได้ในวันที่พระองค์เสด็จสวรรคต ในวันนั้นทุกอย่างเงียบสงบไปหมด แต่มาตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพอีกแล้ว ตนไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย ในส่วนของเรื่องคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ส่วนใหญ่ได้ยึดพระบรมราโชวาทของท่านมาใช้ในชีวิตประจำวันคือ การเป็นคนดี การเสียสละและอุทิศเวลาต่อส่วนร่วม ซึ่งยังนำมาใช้ในฐานะการทำงานเป็นข้าราชการเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนด้วย” นางนทีภรณ์กล่าว

ด้าน นางดรุณี สิงหศักดิ์ อายุ 55 ปี คุณครูโรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ใช้ช่วงเวลาปิดภาคเรียนมาพร้อมกับเพื่อนครูจำนวน 9 คน มากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก เผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มเหมือนเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ใกล้ชิดพระองค์มากที่สุด แต่ก็เสียใจในเวลาเดียวกันเพราะเราไม่มีพระองค์ท่านอยู่กับพวกเราแล้ว ตอนที่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็พยายามมองดูรายละเอียดบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทต่างๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะที่ผ่านมาเคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จฯเมื่อครั้งที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ ยังภาคเหนือ ซึ่งทุกครั้งก็จะเห็นเพียงรถยนต์พระที่นั่งวิ่งผ่าน ไม่ได้เห็นพระองค์ท่านชัดๆ แต่ก็ถือเป็นบุญของตัวเอง

ทั้งนี้ เพราะด้วยเรารักท่านมาก เห็นได้จากที่ท่านเสด็จฯ ไปช่วยเหลือชาวบ้านยังถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะทางภาคเหนือที่ทรงสร้างโครงการในพระราชดำริต่างๆ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อ.ม่อนแจ่ม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยฮ่องไคร้ สร้างฝายกักเก็บน้ำ ทรงปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกจากเมื่อก่อนชาวเขาปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย แต่ตอนนี้หันมาปลูกพืชผักเมืองหนาว มีอาชีพและรายได้ เหมือนท่านทรงปูพื้นฐานชีวิตและอนาคตของลูกหลานคนไทย ซึ่งโดยส่วนตัวยึดหลักคำสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และนำมาสอนลูกศิษย์ด้วย พยายามอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจ เพราะบางคนเคยได้ยินแต่ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยนำตัวอย่างจากโครงการในพระราชดำริต่างๆ ที่อยู่รอบตัวมาประกอบให้เด็กเห็นเป็นรูปธรรม อีกทั้งตัวเองยังยึดพระองค์เป็นแบบอย่าง และทำตามคำสอนที่ทรงบอกแก่ครูทั่วประเทศว่าให้รู้จักหน้าที่ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และตั้งใจมอบความรู้ให้เด็กๆ อย่างเต็มที่














กำลังโหลดความคิดเห็น