สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และ ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ (ทอ.) สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งเที่ยวบินพิเศษของรัฐบาลญี่ปุ่น ถึงประเทศไทย โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาลและภริยา พร้อมด้วย อธิบดีกรมพิธีการทูต นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองราชเลขาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำสมเด็จพระจักรพรรดิ นายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ปฏิบัติหน้าที่ประจำพระองค์ ท่านผู้หญิง ภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปฏิบัติหน้าที่ประจำสมเด็จพระจักรพรรดินี พร้อม พลเรือเอก ปวิตร รุจิเทศ ราชองครักษ์ พลเอก ศิวะ ภระมรทัต ราชองครักษ์ พลอากาศเอก อิทธิศักดิ์ ศรีสังข์ ราชองครักษ์ และพลตำรวจโท อรรถกร ทิพยโสธร นายตำรวจราชสำนักประจำ เฝ้าฯ รับเสด็จฯ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปประทับ ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ต่อมา เวลา 17.47 น. สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง ถึงพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี โดยมี นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการพระราชวัง และ ท่านผู้หญิง บุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการรอรับเสด็จฯ และนำเสด็จฯขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทางบันไดมุกกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา ต่อจากนั้นเลขาธิการพระราชวังและรองเลขาธิการ กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นไประทับพระเก้าอี้ ทรงสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 1 จบ
ต่อจากนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นเสด็จฯออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททางบันไดมุกกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา เลขาธิการพระราชวัง และรองราชเลขาธิการ กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯไปอาคารสำนักราชเลขาธิการ โดยรถยนต์พระที่นั่ง
เมื่อเข้าภายในอาคารสำนักราชเลขาธิการ สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นทรงพระดำเนินไปหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายความเคารพ สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดแสดงความเสียพระราชหฤทัย ก่อนเสด็จฯออกจากอาคารสำนักราชเลขาธิการ ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยมีเลขาธิการพระราชวัง และรองราชเลขาธิการส่งเสด็จ
ทั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ทรงฉลองพระองค์สูทสีดำ ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงฉลองพระองค์กิโมโนสีดำ ประทับรถยนต์ โรลสรอยซ์ สีครีม ป้ายทะเบียน ร.ย.ล.4
กระทั่งเวลา 18.40 น. สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ ถึงพระที่นั่งอัมพรสถาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออกทรงรับสมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายของขวัญแด่สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ก่อนสมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ทูลลาเสด็จฯ กลับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ประทับ โดยรถยนต์พระที่นั่ง และเสวยพระกระยาหารค่ำเป็นการส่วนพระองค์
ส่วนวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) เวลา 11.30 น. สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น จะเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศญี่ปุ่น ที่ท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาลและภริยา พร้อมด้วยอธิบดีกรมพิธีการทูต นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองราชเลขาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำสมเด็จพระจักรพรรดิ นายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ปฏิบัติหน้าที่ประจำพระองค์ ท่านผู้หญิง ภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปฏิบัติหน้าที่ประจำสมเด็จพระจักรพรรดินี เฝ้าฯ ส่งเสด็จฯ
ทั้งนี้ การเสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น นั้น ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงร่วมในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยที่ผ่านมาทั้ง 2 ราชวงศ์มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งการเสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น นั้นนับเป็นครั้งที่ 4 โดยสำนักพระราชวังอิมพีเรียลได้เผยแพร่พระประวัติความสัมพันธ์ระหว่างสองราชวงศ์ ว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น เคยเสด็จฯ เยือนประเทศไทย หลายครั้ง เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2507 เสด็จเยือนไทยครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เจ้าชายอากิฮิโตะ และเจ้าหญิงมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น โดยเป็นการเสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นการตอบแทน เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2506
จากนั้นเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2534 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ เยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะ และเมื่อเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2549 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ เยือนประเทศไทย เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ไม่เพียงแต่สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น จะเสด็จฯ มาเยือนประเทศเท่านั้น หากแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็เคยเสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 2 พระองค์ เคยเสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่นในฐานะพระราชอาคันตุกะ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2506 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2532 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จจักรพรรดิแห่งรัชสมัยโชวะ และในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2533 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ