xs
xsm
sm
md
lg

กระจ่างสักที! ที่มาของคำฮิตติดหู “ชิตังเม” ของพระธัมมชโย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พบ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” เผยความเป็นมาวลีฮิตชาวธรรมกายพูดกัน “ชิตังเม” ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎกในสมัยพุทธกาล มีความหมายบ่งบอกถึงชัยชนะ



เฟซบุ๊กของ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ได้โพสต์ประวัติความเป็นมาของคำว่า ชิ ตัง เม ความว่า “จริงจริงแล้ว คำว่า ชิตัง เม เป็นคำที่มีใช้จริงนะ คือ ใช้กันดาษดื่นในสมัยพุทธกาล ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎกด้วย อย่างเรื่องกุททาลชาดก ก็เป็นเครื่องสาธกในข้อนี้ได้ดี ความย่อมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์เสวยชาติ เป็นกุททาลบัณฑิต มีอาชีพทำไร่ทำสวนปลูกผักผลไม้ แกมีจอบบิ่นบิ่นอยู่ด้ามหนึ่ง เป็นสมบัติมีค่าของตระกูล วันหนึ่งนึกอยากสละเรือนออกบวชเป็นฤษี ก็เลยเอาจอบไปซ่อนแล้วออกบวช แต่พอเมื่อบวชบวชไปสักพักหนึ่งก็กระสัน นึกถึงเครื่องมือทำมาหากินของตัวเอง ก็เลยสึก พอสึกไปก็เบื่อหน่ายอีก จึงกลับมาบวชแกบวชบวชสึกสึก อย่างนี้อยู่ถึง 6 ครั้ง จนครั้งที่ 7 เกิดความสลดสังเวชใจ อนาถใจในตัวเองว่า อาศัยสมบัติคือจอบบิ่นบิ่นด้ามเดียว ก็ตัดขาดจากความอยากครองเรือนไม่ได้ ก็เลยคิดหาอุบายจะทำลายจอบซึ่งเป็นต้นตอแห่งตัณหานี้ทิ้ง ในครั้งสุดท้าย จึงไม่เอาจอบไปซ่อนเหมือนครั้งก่อนก่อน แต่ตัดสินใจไปที่แม่น้ำใหญ่ หันหลังแล้วเหวี่ยงจอบลงแม่น้ำอย่างสุดแรง เพื่อไม่ให้หามันเจออีก เมื่อหันหน้ากลับมามองหาจอบที่เหวี่ยงทิ้งแล้ว ไม่เห็นร่องรอย แกก็เกิดปีติปราโมทย์ ที่สามารถเอาชนะกิเลสของตัวเอง จึงตะโกนเสียงอย่างดังว่า ชิตัง เม ชิตัง เม (กูชนะแล้วโว๊ยย กูชนะแล้วโว๊ยย) นี่เองที่เป็นที่มาของคำว่า ชิตัง เม

ที่เอาเรื่องนี้มาเขียน ก็เพื่อให้เข้าใจว่า ถ้าพูดถึงคำนี้ในทางพุทธศาสนา ท่านหมายถึง การเอาชนะกิเลสในใจของตัวเอง ชิตัง เม คือ ชนะกิเลส อย่างพราหมณ์จูเฬกสาฎกที่พยายามสู้กับความตระหนี่ของตัวเองจนถึงสว่าง เพื่อจะถวายผ้าห่มที่มีแค่ผืนเดียวให้กับพระพุทธเจ้า จนสุดท้ายแกก็สามารถเอาชนะความตระหนี่ของตัวเองได้จริงจริง ก็เลยตะโกนคำว่า ชิตัง เม (กูชนะแล้ว) เหมือนกัน

แต่จะว่าไป พราหมณ์จูเฬกสาก พอพูดคำว่า ชิตัง เม หลังการถวายผ้าห่มให้พระพุทธเจ้า แกก็รวยจริงนะ เพราะพระราชาดันมาได้ยินเข้าแล้วเลื่อมใส ก็เลยสั่งให้พระราชทานทั้งผ้าทั้งข้าวของตั้งหลายอย่างเชียวแหล่ะให้กับแก วัดธรรมกายเขาก็คงอ้างจากเรื่องนี้เหมือนกัน จะไปว่าเขาก็นะ

แหม่ ก็นั่นแหละเนาะ ถ้าวัดพระธรรมกาย จะเอาแค่ ชิตัง เม อย่างเดียว ไม่มีแถมคำว่า โป้ง รวย มาด้วย คนก็คงไม่ด่าไม่ล้อหนักขนาดนี้”



พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ
กำลังโหลดความคิดเห็น