รายงานพิเศษ ช่องนิวทีวี เผยกบฏผีบุญธรรมกาย นับเป็นครั้งที่ 3 ทั้งใหญ่ที่สุดและร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ หากไม่รีบปราบอาจจะยึดบ้านเมือง
รายการ “new)หมายข่าว” ของช่อง นิวทีวี ที่ออกอากาศช่วงค่ำของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กล่าวถึงบทความของนักเขียนนามปากกา “สิริอัญญา” ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ว่า เขียนถึง “กบฏผีบุญ” โดยระบุเอาไว้ว่า นับตั้งแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์มีกบฏผีบุญ 3 ครั้ง
กบฏผีบุญครั้งแรกมาจากสมัยปลายกรุงธนบุรี ยังอยู่ในขั้นก่อตัว และบิดเบือนพระธรรมวินัย แต่ยังไม่ซ่องสุมกำลัง ภายหลังเมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงปราบดาภิเษก และโปรดให้ชำระสะสางกิจการพระพุทธศาสนา โดยถอดถอนพระสังฆราชที่ไม่ปฏิบัติตรงต่อพระธรรมวินัย จากนั้นได้สถาปนา “พระสี” เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สถิตที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
กบฏผีบุญครั้งที่สอง รุนแรงกว่าครั้งแรกไปถึงขั้นจะยึดบ้านเมือง แต่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ปราบปรามอย่างเด็ดขาด และจับผู้นำกบฏผีบุญประหาร
กบฏผีบุญครั้งที่สาม ถูกนับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุด หากยังไม่ถูกปราบปราม อาจจะได้ยืดบ้านเมือง และล้มล้างสถาบันต่างๆ ได้ โดยกบฏผีบุญครั้งนี้ มีหลายเรื่องที่ทำผิดต่อพระธรรมวินัย โดยอย่างแรกคือ แอบอ้างพระมหาเถระ และบิดเบือนคำสอน จากที่สอนให้ละกิเลสเพื่อนิพพาน กลายเป็นซื้อบุญ ทำมากได้มาก ประการที่สอง คือ สร้างพิธีกรรมแบบ อลัชชีและเดียรถีย์ หรือปฏิบัติตนคล้ายลัทธิที่ไม่ใช่พุทธศาสนา อย่างที่เคยเกิดขึ้นในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช แต่ครั้งนี้นับว่าใหญ่กว่า โดยสามารถระดมเงินทองทั้งในและต่างประเทศ หากคำนวณจากทรัพย์สินที่เคยโฆษณา จะพบว่ามีมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านบาท ประการที่สาม สมคบคิดกับผู้มีอำนาจทางการเมือง เพื่อให้ช่วยในด้านการขายบุญ และกับการสนับสนุนทางการเมือง เพื่อให้นักการเมืองคนดังกล่าวแต่งตั้งข้าราชการให้เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการผีบุญ ซึ่งนับเป็นการขยายอำนาจเข้าสู่อำนาจรัฐ และยังมีการเปิดให้เด็กเข้าไปรับฟังเพื่อให้เป็นเหยื่อลำดับต่อไป ประการที่สี่ เข้าแทรกแทรงกิจการพระพุทธศาสนา เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้เป็นกลไกเพื่อเคลื่อนไหวของขบวนการผีบุญ และมหาเถรสมาคมให้มาเป็นพวก จนสามารถแต่งตั้งสมณศักดิ์ต่างๆ ทุกลำดับในวัดทั่วประเทศ เท่ากับสามารถจัดการทรัพย์สินของวัดต่างๆ ได้ นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดตั้งพระสังฆราชกันเอง หลังจากแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์เมื่อปี พ.ศ. 2535 และยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์ให้เป็นของมหาเถรสมาคม ประการที่ห้า ทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และนำเอาสมบัติแผ่นดินมาเป็นของตน เลี่ยงภาษีหากคิดจากจำนวนทรัพย์สิน ภาษีอาจจะมีมูลค่าถึง 8 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ นักเขียนนามปากกา สิริอัญญา ระบุไว้อีกว่า ขบวนการผีบุญดังกล่าวที่ตั้งตนเป็นรัฐอิสระเริ่มมีคดีความปรากฏอย่างต่อเนื่องและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนรัฐบาลต้องใช้เจ้าหน้าที่ทหารคุมพื้นที่เพื่อ จับขบวนการกบฏผีบุญ มาดำเนินการทางกฎหมาย