xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมกราบพระบรมศพ “รัชกาลที่ ๙” อย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด

วันนี้ (1 มี.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 119 ตลอดทั้งวัน ยังมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย อาทิ จากจังหวัดนครราชสีมา เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี นนทบุรี สกลนคร ฯลฯ เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

น.อ.วีระยุทธ ดิษยะศริน ประธานมูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า

ทั้งสององค์กรอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์กรเรามีความเทิดทูนในสถาบัน ทำตามคำสอนของพระองค์ท่าน โดยเอามาใช้ในกีฬาและการดำเนินการงานมูลนิธิ อาทิ ประหยัด การมีส่วนร่วม การทำงานกันเป็นทีม ยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน ตลอดเวลา 30 ปี ของการดำเนินงานมูลนิธิฯ ภายใต้หลักน้ำใจนักกีฬา เน้นความเสมอภาค ไม่เอาเปรียบ ไม่โกง นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในหลายๆ ด้าน ทั้งดนตรี ศิลปะ โดยเฉพาะด้านกีฬาที่ทางสมาคมได้น้อมนำมาใช้และยึดเป็นแบบอย่าง นอกจากนี้ โดยส่วนตัวในการดำเนินชีวิตได้น้อมนำหลักของความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่ออกนอกระเบียบ ทั้งนี้ หากดำเนินภายใต้กฎระเบียบก็จะไม่มีสิ่งใดมาทำร้ายได้ อะไรที่ผิดกฎหมายไม่ควรทำ บางครั้งเราอาจทำด้วยความตั้งใจดี แต่เมื่อผิดกฎระเบียบสิ่งเหล่านี้จะกลับมาทำร้ายตัวเองได้ นอกจากนี้ ฝากถึงคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเล่นกีฬาอะไรต้องศึกษาอย่างถ่องแท้ มีน้ำใจนักกีฬา และสำคัญที่สุดมีจรรยาบรรณ

ด้าน พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวภายหลังร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระบรมศพ ว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยงานราชการที่ได้ถวายงานในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาโดยตลอด เวลาที่พระองค์เสด็จฯ ไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดเยี่ยมเยียนราษฎรทุกครั้ง ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่ถวายงานในด้านความปลอดภัย แม้ว่าหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว ตำรวจทางหลวงก็ยังน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณมาโดยตลอด ทุกครั้งที่เสด็จฯ พวกเราได้เห็นพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ในเรื่องการดูแลทุกข์สุขประชาชน จึงได้นำมาปลูกฝังให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ได้เห็นและรับรู้อยู่ทุกครั้ง

ขณะที่เรื่องราวประทับใจ พระองค์ทรงเน้นย้ำให้ตำรวจทางหลวงดูแลและให้บริการประชาชนเป็นหลัก ให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องร้องขอ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้รถใช้ถนน ตลอดเวลากว่า 10 ปี ที่ได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท จำได้ว่า สมัยก่อนเครื่องมือสื่อสารยังไม่ทันสมัย โทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลาย พระองค์ทรงแนะนำให้ใช้วิทยุสื่อสารมาใช้ในการทำงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงแนะให้ประชาชนที่อยู่ถิ่นทุรกันดารใช้วิทยุติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าไปให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ นอกจากนี้ ยังทรงไม่เคยถือพระองค์ว่าเป็นพระมหากษัตริย์ เวลาจะเสด็จฯ ไปแห่งหนใด ก็จะทรงมีรับสั่งให้เปิดการจราจรฝั่งตรงข้ามให้มีการสัญจรตามปกติ ไม่กระทบการดำเนินชีวิตของประชาชน แต่ทุกครั้งก็จะมีประชาชนมาเฝ้าฯ รับเสด็จฯตลอดเส้นทางอย่างเนืองแน่น แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่ชาวไทยมีต่อพระองค์ท่าน

ส่วน นางสมสวาท อินทรสิทธิ์ อายุ 85 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร มาพร้อมกับลูกสาวลูกชายและลูกสะใภ้รวม 5 คน กล่าวภายหลังที่ได้สักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า รู้สึกตื้นตันใจปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ผ่านมา ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ แก่ชาวจังหวัดสกลนครเป็นอย่างมาก ทรงพระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ชาวนาชาวไร่มีน้ำใช้ในการเกษตร จากผืนดินแห้งแล้งแต่ด้วยโครงการในพระราชดำริฯ หลายโครงการของพระองค์จึงทำให้เกษตรกรทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“สมัยก่อนในหลวง รัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จฯ ไปแปรพระราชฐานที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร เราก็มีโอกาสได้รับเสด็จฯ ทั้ง 2 พระองค์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระราชินี ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีพระพักตร์เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ทรงทักทายราษฎรอย่างไม่ได้ถือพระองค์ ตอนนั้นจังหวัดสกลนครแห้งแล้งหนักมาก ไม่มีน้ำใช้ในการเกษตร ผืนดินแห้งผาก พระองค์ท่านก็ได้พระราชทานแนวคิดให้สร้างฝายน้ำพุงขึ้นมาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ในในฤดูทำนา จึงทำให้ประชาชนที่อยู่เหนือและใต้ฝายน้ำพุงมีน้ำใช้ในการทำนาทำไร่ มีเงินพอเลี้ยงครอบครัว อย่างตัวยายเองก็เพราะได้อาศัยน้ำจากฝายน้ำพุง จึงทำนาได้ผลกำไรงอกงามสามารถส่งลูกทั้ง 7 คนจนเรียบจบปริญญามีงานมีการทำที่ดีกันทุกคน และทุกวันนี้ถึงแม้ลูกหลานจะมีงานทำกันหมดแล้ว แต่ยายก็ยังทำนา และปลูกผัก เลี้ยงปลา ไว้กินเอง และอีกส่วนหนึ่งก็เอาไปขายที่ตลาด อันเป็นการสานต่อหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง” คุณยายวัย 85 ปีกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ






กำลังโหลดความคิดเห็น