MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง www.manager.co.th และเฟซบุ๊ก MGROnline Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 18-24 ก.พ. 2560)
“ฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ” ทรงยกพระหัตถ์ไหว้ขอโทษบัณฑิตแม่โจ้ที่เสด็จฯมาพระราชทานปริญญาช้า เพราะทรงหกล้มฟาดพื้น
วันที่ 18 ก.พ. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีการศึกษา 2558 - 2559 ณ ศูนย์กีฬากาญจนาภิเษก รัชกาลที่ ๙ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ จากพิธีดังกล่าว เฟซบุ๊ก “MJU RADIO สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้” ได้โพสต์คลิปวิดีโอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงยกพระหัตถ์ไหว้ขอโทษคณะอาจารย์และบัณฑิต ที่เสด็จฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากหกล้มฟาดพื้น
โดยพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ข้าพเจ้าใคร่ขออภัยอาจารย์ทุกคนและบัณฑิตทุกคนที่มาช้า ที่มาช้าเพราะว่า ข้าพเจ้าประสบอุบัติเหตุหกล้มฟาดพื้นทางด้านซ้าย ขณะนี้เจ็บซี่โครงมาก แต่จะทำงานนี้ให้สิ้นสุด และหลังจากนี้ ก็คงต้องไปทำเอกซเรย์ คิดว่าไม่ถึงหัก แต่อาจจะร้าว เพราะเจ็บเหลือเกิน แม้แต่หายใจก็ยังไม่อยากหายใจเลย”
อันดับ 2 : ดีเอสไอคว้าน้ำเหลว “ธรรมกาย” ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมืองขวางจับ “ธัมมชโย”
ปฏิบัติการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยตำรวจ และทหาร เข้าปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุม พระเทพญาณมหามุณี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและรับของโจร ถูกขัดขวางจากพระสงฆ์และลูกศิษย์ของวัด พร้อมกับชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช. ที่ 5/2560 ให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม นอกจากนี้ ยังใช้เครือข่ายวัดพระธรรมกายในต่างประเทศเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกมาตรา 44 ในเมื่อยังนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องควบคุมไปตลอดจนกว่าพระธัมมชโยมอบตัวหรือได้ตัวมาดำเนินคดี
ขณะที่ ดีเอสไอ ใช้วิธีออกคำสั่งเรียกให้บุคคลมารายงานตัว ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ได้แก่ 1. พระธัมมชโย 2. พระทัตตชีโว หรือ เผด็จ ทตฺตชีโว 3. พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ 4. พระปลัดสุธรรม สุธมฺโม หรือ พระวิเทศภาวนาจารย์ 5. พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 6. พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก 7. พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตฺถิโก หรือ พระครูแอ 8. พระสนิทวงศ์ วุฑฺธวํโส 9. พระมหานพพร ปุญฺญชโย 10. พระภาสุระ ทนฺตมโน (ใจวงศ์) 11. พระนพดล สิริวํโส 12. พระมหาบุญชัย จารุทตฺโต 13. พระครูสุวิทย์ สุวิชฺชาโภ และ 14. พระแสนพล เทพเทพา หรือสิบเอก แสนพล เทพเทพา นอกจากนี้ได้เจรจากับพระทัตตชีโวเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล กระทั่งวันที่ 24 ก.พ. จึงใช้วิธีตัดสัญญาณมือถือ
อันดับ 3 : “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เจอดี แบงก์ชาติเอาผิด เงินอิเล็กทรอนิกส์เถื่อน
เกิดข่าวคราวเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงของนักร้องนักแสดงค่ายอาร์เอส “ฟิล์ม - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินคดีบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด และบุคคลเกี่ยวข้อง ในความผิดให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ธปท. หลังเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เคยยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจ อี-มันนี่ ในบัญชี ก. คือ บัญชีใช้ซื้อสินค้า และบริการจากผู้ขายเพียงรายเดียว แต่พบว่าให้บริการแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “Payall” นำไปใช้ชำระสินค้า หรือบริการจากร้านค้าต่างๆ ที่กำหนด เข้าข่ายต้องขออนุญาตในบัญชี ค. คือ บัญชีใช้ซื้อสินค้า และบริการจากผู้ขายหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่ ต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ต้องรักษาสภาพคล่อง และเก็บเงินของผู้ใช้บริการไว้อย่างรัดกุม จึงได้แจ้งให้ทำการยื่นเรื่องมาใหม่ แต่พบว่ายังฝ่าฝืน
ด้านเจ้าตัวชี้แจงถึงเรื่องนี้ด้วยการโพสต์คลิปอธิบายถึงที่มาของบริษัท ก่อนระบุว่า ความผิดพลาดของเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดมาจากความละเอียดไม่มากพอของตนเองและทีมกฎหมายที่มีการไปเปิดให้บริการก่อนที่จะไปขออนุญาต เนื่องจากมันเป็นโมเดลที่ใหม่มากๆ พร้อมกันนี้ เจ้าตัวยังได้ยอมรับผิดและขอโทษ ทุกๆ คน พร้อมกับยืนยันว่า จะทำให้ถูกต้องต่อไป ด้านตำรวจตำรวจได้ออกหมายเรียก บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป มาพบพนักงานสอบสวน วันที่ 3 มี.ค. พร้อมประสานสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ หรือมีการกระทำที่เป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่
อันดับ 4 : 0.01% จับตำรวจค้ายา 2 คดีซ้อน ขนไอซ์จากภาคเหนือ อมของกลางไม่ดำเนินคดี
เกิดเรื่องอื้อฉาวในวงการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึงสองคดีในรอบสัปดาห์ โดยเมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุม ส.ต.ต.พิษณุพงศ์ งามธุระ ชาว จ.ลำปาง ผบ.หมู่งานจราจร โครงการราชดำริ กก.6 บก.จร. พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนักประมาณ 28 กก. ได้ที่ลานจอดรถชั้น 5B อาคาร 3 ลุมพินีวิลล์ ซอยสุขุมวิท 77 เขตสวนหลวง กทม. หลังสืบทราบมาว่า ลักลอบนำยาเสพติดจากเอเยนต์รายใหญ่ทางภาคเหนือ มากักเก็บไว้ ก่อนจะกระจายให้เอเยนต์ยาเสพติดในพื้นที่ กทม. ทั้งนี้ ส.ต.ต.พิษณุพงศ์ เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 23 ก.พ. ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของ ด.ต.ศาสตราวุธ วงค์สุข ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม ในพื้นที่ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ หลังซัดทอดว่าร่วมขบวนการขนยาไอซ์ดังกล่าว แต่ไม่พบตัว เบื้องต้นถูกให้ออกจากราชการ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง
อีกคดีหนึ่ง เมื่อวันที่ 24 ก.พ. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 นำกำลังจับกุม ร.ต.อ.สุพัฒน์ ประจงหัตถ์ (ผู้กองเบนซ์) รองสารวัตรสืบสวน สน.บวรมงคล หลังชุดสืบสวนนครบาล 7 นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 2 คน พร้อมยาบ้า 1,400 เม็ด และยาไอซ์ 100 กรัม ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ต่อมาขยายผลได้ซัดทอดว่ายาเสพติดได้มาจากผู้กองเบนซ์ ระหว่างสืบสวนผู้กองเบนซ์ได้โทรศัพท์เข้ามาหาผู้ต้องหา ชุดจับกุมจึงประสานผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 นำกำลังเข้าตรวจสอบจนพบของกลางดังกล่าว พร้อมออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย ร.ต.อ.สุพัฒน์ ประจงหัตถ์, ร.ต.อ.นิติธร พลบุญ ร.ต.ท.วีระพล คำดี, ด.ต.ปริญญา จิตต์หาญ, จ.ส.ต.ภูณัช เนตรสว่าง และ ส.ต.ต.เรืองยศ สามบุญเรือ ทั้งหมดเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บวรมงคล ซึ่งมีพฤติกรรมจับกุมยาเสพติด แต่ไม่มีการดำเนินคดี และนำยาเสพติดของกลางมาเก็บไว้ ก่อนลักลอบจำหน่ายให้นักค้ารายย่อยในพื้นที่
อันดับ 5 : ฮือฮา! นาซาแถลงเจอดาวคล้ายโลก อยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกเดียวกัน
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) แถลงข่าวว่า ค้นพบดาวเคราะห์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลกถึง 7 ดวง ซึ่งทั้งหมดโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงเดียวกัน และในจำนวนนั้นมี 3 ดวงที่อยู่ในขอบเขตที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ (Habitable-Zone) ซึ่งดาวฤกษ์ดังกล่าวอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกเช่นเดียวกับโลก และอยู่ห่างออกไปเพียง 40 ปีแสง โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์อวกาศสปิตเซอร์ (Spitzer Space Telescope) และเป็นครั้งแรกที่กล้องได้เผยข้อมูลดาวเคราะห์ขนาดใกล้เคียงโลกถึง 7 ดวง ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ดวงเดียวกัน และยืนยันแล้วว่ามี 3 ดวงอยู่ในบริเวณที่น่าจะมีน้ำในรูปของเหลว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้ การค้นพบยังสร้างสถิติใหม่ที่พบจำนวนดาวเคราะห์ในขอบเขตที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้มากที่สุด โดยดาวเคราะห์ทั้ง 7 ดวงมีโอกาสมีน้ำเหลวภายใต้บรรยากาศที่เหมาะสม แต่ดาวเคราะห์ 3 ดวงในขอบเขตที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้มีโอกาสมากที่สุด
อันดับ 6 : น้องสาวทวงร่างหลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่ อ้างไม่ได้เผาที่วัดหนองแวง
เกิดเรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับสรีระสังขารของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดัง หลังเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2558 และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้บำเพ็ญกุศลตามพินัยกรรม เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ อายุ 91 ปี น้องสาวหลวงพ่อคูณ ชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ยื่นหนังสือต่อ รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตน์ศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอนำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านไร่ อ้างว่า จัดการฌาปนกิจศพผิดเพี้ยนไปจากเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพินัยกรรม โดยใช้สถานที่อื่นซึ่งไม่ใช่วัดหนองแวง แต่เป็นบริเวณพุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจ
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า การดำเนินการเกี่ยวกับสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทางคณะแพทย์ศาสตร์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในพินัยกรรมอย่างถูกต้องทุกประการ โดยเฉพาะการจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ แต่เมื่องญาติหลวงพ่อคูณได้ทักท้วงและมีความห่วงใยว่าพุทธมณฑลอีสาน อาจจะไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม จะนำเข้าที่ประชุมร่วมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างตรงตามพินัยกรรมมากที่สุดและมีความเหมาะสมมากที่สุด
อันดับ 7 : ชนแล้วหนี! รถเบนซ์ กง 3000 ชนคุณตาและภรรยาโลกโซเชียลประณาม
หลังจากที่ในโลกโซเชียลต่างแชร์คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อมีรถเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 3000 ชลบุรี เบียดชนรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้นายสุกิจ จันทร์ปลั่ง อายุ 78 ปี และ น.ส.สิริญา เพ็ชชุมพร อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับหนีไป เหตุเกิดที่ถนนเลียบทางรถไฟ จากถนนเก้ากิโล ไป ถนนศรีราชา-หนองยายบู่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งรถจักรยานยนต์ไม่มี พ.ร.บ. จึงไม่ได้รับเงินค่าประกันใดๆ ต้องออกค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด ทำให้ชาวโซเชียลเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และสาปแช่งกันจำนวนมาก ล่าสุด สามารถกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว โดยมีการอาการฟกช้ำ แผลถลอกตามแขน ขา และใบหน้า ส่วนคุณแม่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก จึงอยากวอนขอให้สังคมออนไลน์ช่วยกันตามหารถเบนซ์ที่ชนให้แสดงความมีน้ำใจ มารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตำรวจได้ค้นหาในฐานข้อมูล พบรถทะเบียนดังกล่าวเป็นรถเบนซ์สีเทา ไม่ใช่สีดำ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือ นายเรวัติ เขียวสนิท อายุ 51 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกเทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตรวจสอบฐานข้อมูลทางคดีแล้วนั้น พบว่า ป้ายทะเบียนรถเบนซ์คันที่ก่อเหตุเป็นป้ายปลอมที่ทำขึ้นเอง โดยมีลักษณะเป็นป้ายยาว สีขาว ไม่มีตราขนส่ง และได้ภาพจากการกล้องวงจรปิดตามเส้นทางผู้ก่อเหตุขับผ่าน ซึ่งคาดว่าน่าจะจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ล่าสุด พบว่ารถเบนซ์สีเทาที่นายเรวัตินำมาให้ตำรวจตรวจสอบ มีการดัดแปลง นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก สั่งการให้นายเรวัติจ่ายค่าปรับ 2 พันบาท