xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรทุกหมู่เหล่าเดินทางมาร่วมกราบพระบรมศพ “รัชกาลที่ ๙” อย่างไม่ขาดสาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศเดินทางมาต่อคิวรอเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างไม่ขาดสาย ทุกคนต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ น้อมนำหลักคำสอนมาปรับใช้ในชีวิต

วันนี้ (24 ก.พ.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ เป็นวันที่ 114 ของการสักการะพระบรมศพ ตลอดทั้งวัน ยังมี พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ อย่างไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด

นางสาวอัมพันธุ์ อ่อนอิงนอน อายุ 48 ปี อาชีพตัดเย็บชุดไทยอยู่แถวเขตดุสิต กรุงเทพฯ กล่าวภายหลังที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมพระบรมศพถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในนามรายการโทรทัศน์สายใยไทย ในต่างแดน ว่า รู้สึกปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ ที่มีโอกาสได้เป็นส่วนร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีถวายแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วย ด้วยอาชีพการเป็นช่างตัดเย็บชุดไทยเป็นงานที่ต้องใช้ความประณีตค่อนข้างสูงในการตัดเย็บเพื่อให้ลูกค้าได้ชุดที่สวยที่สุด แต่มีบางครั้งที่แบบที่ลูกค้าต้องการนั้นมีความยากในระดับหนึ่ง แต่เราก็จะยึดหลักคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในเรื่องความเพียร มาเป็นหลักยึดในการทำงาน คือ เราต้องมีความพยายามในการค้นหาแบบและศึกษาวิธีการออกแบบทั้งในเว็บไซต์และในหนังสือต่างๆ เพื่อที่จะสามารถตัดชุดได้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

“ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พระองค์ทรงเสด็จฯ ไปทุกหนแห่งเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ ไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่พระองค์จะไม่เสด็จฯไปทรงช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ ถึงแม้บางพื้นที่จะเป็นพื้นที่สีแดงเสี่ยงภัยก็ตาม และหลักคำสอนของพระองค์ก็ลึกซึ้งและทันสมัยอย่างเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แนวคิดนี้ก็ยังเป็นหลักยึดให้คนไทยดำเนินตามความพอเพียงที่พระองค์ท่านทรงวางแนวทางไว้ตลอดไป” นางสาวอัมพันธุ์ เล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้ม

ด้าน นางไพฑูรย์ สิงห์อำพล ประธานนักเรียน วิลัย วัยหวาน เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับตัวแทนนักเรียนวัยหวาน รุ่นแรกจำนวน 50 คน ซึ่งนักเรียนทุกคนมีอายุ 60 ปีขึ้น โดยเทศบาลเมืองหัวหิน ต้องการให้ผู้สูงอายุได้มาแลกเปลี่ยนเรียนประสบการณ์ชีวิตซึ่งกันและกัน มีสังคม จะได้ไม่เหงา มีการเรียนกฎหมายพื้นฐาน เรียนรู้อาชีพต่างๆ ศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ โดยเรียนทุกวันพุธ สัปดาห์ละ 1 วัน

นางไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า พวกเรารู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงช่วยเหลือราษฎร์ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้มีความสะดวกสบายขึ้นไม่ลำบาก เหมือนแต่ก่อน พระองค์ทรงพระราชทานโครงการในพระราชดำริต่างๆ ให้มากมาย มีคลองระบายน้ำ มีแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำในการแก้ปัญหาน้ำท่วม มีการส่งเสริมอาชีพต่างๆ รู้สึกประทับใจอย่างมาก วันนี้จึงพร้อมใจกันเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพด้วยความอาลัยยิ่ง

นางใจ สาระพงษ์ อายุ 72 ปี เกษตรกรจาก จ.เพชรบุรี เดินทางมาโดยรถตู้พร้อมเพื่อนบ้านกว่า 10 คน โดยออกจากบ้านช่วง 03.00 น. และมาถึงสนามหลวงราว 05.30 น. เผยว่า ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าจะมีบุญได้มาหรือไม่ แต่ทางสำนักพระราชวังก็เปิดโอกาสให้ประชาชนอย่างพวกเราได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหน้านี้ เคยได้รับเสด็จฯ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ยัง จ.เพชรบุรี แม้เราอยู่ไกล เพียงได้เห็นรถพระที่นั่งอย่างเดียวก็ถือเป็นบุญแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ทำสวนปลูกผักผลไม้ทั้งมะนาว มะม่วง สับปะรด และเลี้ยงวัว โดยยึดหลักของพระองค์ในเรื่องของความพอเพียง ทำไร่สวนผสม และเน้นการทำเกษตรอินทรีย์ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากเขื่อนแม่ประจันต์ ต.หนองหญ้าปล้อง ที่ถูกสร้างขึ้นตามพระราชดำริในพระองค์ท่าน เนื่องจากเมื่อถึงช่วงฤดูร้อนก็ไม่มีน้ำทำการเกษตร แห้งแล้ง แม้มีห้วยน้ำอยู่กลางหมู่บ้าน แต่ก็ต้องขุดดินเพื่อให้มีน้ำใช้ หรือในช่วงฤดูฝน มีน้ำมาก เข้าท่วมที่อยู่อาศัยและสวนผักผลไม้ แต่เมื่อพระองค์ทรงเข้ามาช่วยสร้างเขื่อนให้ ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีน้ำกิน น้ำใช้ น้ำทำการเกษตร ชีวิตมีความสุข มีผลผลิตไว้กิน และจำหน่ายสร้างเงินและอาชีพได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้ หากมีโอกาสก็อยากจะมากราบพระองค์อีกสักครั้งเพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคนไทย และจะเป็นคนดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ด้านสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี นางสาย กลิ่นแก้ว อายุ 55 ปี เผยว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านทำการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่ได้ยึดหลักตามทฤษฎีของพระองค์ท่าน โดยปลูกไว้กินเอง อยากกินอะไรก็มีทุกอย่างในสวน หรือไม่ก็แจกจ่ายเพื่อนบ้าน หากมีเหลือก็นำไปจำหน่าย มีรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว และผ่อนปรนหนี้สินที่มีให้ลดน้อยลงได้ อีกด้านกับการทำงานกับ อบต. ก็ยึดหลักการตามที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างทั้งเรื่องของการทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม พร้อมเป็นตัวแทนรับฟังปัญหาของชาวบ้านเพื่อนำไปเสนอให้ผู้ใหญ่ได้นำไปแก้ไข อีกทั้งไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกหรือแบ่งยศถาบรรดาศักดิ์ รวมถึงตั้งจิตอธิษฐานตั้งมั่นในการทำความดีถวายพระองค์ท่าน สร้างความรักสามัคคีในชุมชน












กำลังโหลดความคิดเห็น