เผยเหตุที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย แจ้งความดำเนินคดีกับ “เพย์ออล กรุ๊ป” ของนักแสดงดัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เหตุขออนุญาตเงินอิเล็กทรอนิกส์ผิดประเภท และยังฝ่าฝืนให้บริการแอปพลิเคชัน
กิตตินันท์ นาคทอง ... รายงาน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีกับ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด
ซึ่งมีดารานักแสดงชื่อดัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เป็นประธานบริษัท
หลังพบว่าให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
ธปท.แจ้งเอาผิด “เพย์ ออล กรุ๊ป” ของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปฯ มือถือไม่ได้รับอนุญาต
เงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) คือ มูลค่าเงินที่บันทึกในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้บริการได้ชำระเงินล่วงหน้าแก่ผู้ให้บริการ เพื่อนำไปใช้ชำระค่าสินค้าบริการได้ตามร้านค้าที่รับชำระโดยไม่ต้องพกเงินสด
การทำธุรกิจ อี-มันนี่ จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางแบงก์ชาติ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
- บัญชี ก เป็นธุรกิจบริการที่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ ใช้ซื้อสินค้าหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ขายสินค้า หรือให้บริการเพียงรายเดียว
ยกเว้น ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยไม่ได้แสวงหากำไรจากการออกบัตร เช่น บัตรศูนย์อาหาร บัตรโดยสารสาธารณะ บัตรโทรศัพท์สาธารณะ หรือ บัตรชำระค่าผ่านทางสาธารณะ
ปัจจุบัน มีเพียงบริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทย่อยของกลุ่ม ปตท. เป็นผู้ได้รับอนุญาตบัญชี ก เพียงรายเดียว
- บัญชี ข เป็นธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียนก่อนให้บริการ เช่น เครือข่ายบัตรเครดิต, เครือข่ายเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) หรือระบบสวิตชิง ในการชําระเงินระบบหนึ่งระบบใด
- บัญชี ค เป็นธุรกิจบริการที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนให้บริการ ทั้งการหักบัญชี ชําระดุล ชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดหรือผ่าน ทางเครือข่าย หรือระบบสวิตชิงแบบหลายระบบ
รวมทั้ง บริการรับชำระเงินแทนเจ้าหนี้ ค่าสินค้า ค่าบริการ หรือเจ้าหนี้อื่นใด เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ค่าประกันชีวิต ฯลฯ
รวมทั้ง บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ซื้อสินค้าและหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จากผู้ให้บริการหลายราย ไม่จำกัดสถานที่ และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียวกัน
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. กล่าวว่า เพย์ ออล กรุ๊ป เคยยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจ อี-มันนี่ บัญชี ก
แต่ปรากฎว่า บริการของเพย์ ออล เข้าข่ายต้องขออนุญาตในบัญชี ค คือ บัญชีใช้ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่
โดยลักษณะคือ ให้บริการแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “Payall” โดยสมัครสมาชิก เติมเงินล่วงหน้าเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ชำระสินค้าหรือบริการจากร้านค้าต่างๆ ที่กำหนด
ที่ผ่านมา ธปท. ได้แจ้งให้ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป ทำการยื่นเรื่องมาใหม่ แต่พบว่าบริษัทยังคงให้บริการแอปพลิเคชัน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นความผิดประกอบกับ ประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาให้ ธปท. ตรวจสอบ
ธปท. ย้ำว่า ธุรกิจ อี-มันนี่ รับเงินจากประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อน ต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และต้องดำรงฐานะทางการเงินสภาพคล่อง เพื่อให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ต้องมีการเก็บรักษาเงินของผู้ใช้บริการอย่างรัดกุม โดยต้องฝากไว้กับสถาบันการเงินและแยกบัญชีไว้ต่างหากจากเงินทุนหมุนเวียน เพื่อไม่ให้ขาดสภาพคล่อง
จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องระมัดระวัง ศึกษาสิทธิของตนเอง และใช้สิทธิที่มีเงื่อนไขและข้อตกลงที่มีกับบริษัท รวมถึงสิทธิอื่นที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีผู้ให้บริการ อี-มันนี่ ไม่ได้รับอนุญาตให้แจ้งที่ 1213 ตลอดเวลา.
---
รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money บัญชี ค) ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
1. บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด (บริษัทย่อยของกลุ่มทรู เครื่องหมายการค้า TrueMoney)
2. บริษัท ทีทูพี จำกัด (เครื่องหมายการค้า DeepPocket)
3. บริษัท ทูซีทูพี พลัส (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องหมายการค้า 2C2P)
4. บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด (เครื่องหมายการค้า Smart Purse)
5. บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (เครื่องหมายการค้า Rabbit)
6. บริษัท เพย์สบาย จำกัด (บริษัทย่อยของดีแทค เครื่องหมายการค้า Paysbuy)
7. บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เครื่องหมายการค้า บุญเติม)
8. บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า Rabbit LinePay)
9. บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า MOL)
10. บริษัท แอดวานซ์ เมจิคการ์ด จำกัด (บริษัทย่อยของเอไอเอส จำหน่ายบัตรแทนเงินสดวันทูคอล)
11. บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด (บริษัทย่อยของเอไอเอส เครื่องหมายการค้า mPAY)
12. บริษัท แอร์เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องหมายการค้า AirPay)
13. บริษัท ไอพี เพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด (เครื่องหมายการค้า PayforU)
14. บริษัท เฮลโลเพย์ จำกัด (เครื่องหมายการค้า Go!Hub)
ที่มา : ธปท.