xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ 108 วัน หลั่งไหลกว่า 4.5 ล้านคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บรรยากาศการกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเดินทางมารอเข้าแถวตั้งแต่เช้าเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน 108 วัน มีประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ 4,544,184 คน

วันนี้ (19 ก.พ.) สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันนี้ดำเนินมาเป็นวันที่ 109 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ อย่างเนืองแน่น ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยทุกคนต่างแต่งกายด้วยชุดดำเรียบร้อยจำนวนมากเพื่อต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูให้ประชาชนเดินแถวเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น.ก่อนเปลี่ยนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน เวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี
นางสาวนภาพร แหวนทอง
ด้าน น.ส.นภาพร แหวนทอง วัย 57 ปี ชาวบ้านจังหวัดสุรินทร์ ที่ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ มาหลายสิบปี เล่าถึงวามรู้สึกหลังจากที่ได้สักการะพระบรมศพ ว่ารู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่ง การมาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 และคิดว่าจะมีอีกเป็นครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน ตนเป็นคนที่เกิดมาจากจังหวังทางภาคอีสาน พบเจอกับความแห้งแล้งมาตลอด แต่พอในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริฯเกี่ยวกับเรื่องน้ำ จึงทำให้ทุกพื้นที่ของภาคอีสานมีแหล่งน้ำใช้ในการเกษตร และตอนนี้ตนก็กำลังจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด เพื่อตามรอยพระราชปณิธานของพ่อหลวงเรื่องการทำไร่นาผสมผสาน ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาการทำไร่นาผสมผสาน กำลังจะเตรียมการแบ่งพื้นที่นาปลูกมันสับปะหลัง และปลูกอ้อย ไว้ขาย ซึ่งสิ่งที่ได้กลับคืนมานอกจากเงินทองแล้วก็คือการที่เราได้กลับไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอนได้อยู่กับคนที่เรารัก อย่างที่คนทั่วไปเรียกว่ากำไรชีวิตนั้นเอง
นายชิติพัทธ์ และ นางสิริกาญจน์ สหุนันต์
ด้านสามีภรรยาอาชีพรับเหมาก่อสร้าง นายชิติพัทธ์ วัย 40 ปี และนางสิริกาญจน์ สหุนันต์ วัย 41 ชาวจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรกเพราะเพิ่งว่างจากงานรับเหมา ิอีกทั้งวันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนกันออกเดินทางมาตั้งแต่ 07.00 น. และได้กราบสักการะพระบรมศพเวลา 10.00 น. ความรู้สึกแรกที่ได้สักการะพระบรมศพเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มปีติ ที่ผ่านมาเห็นในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดอย่างมิเคยทรงเหน็ดเหนื่อย เสด็จพระราชดำเนินไปในท้องถิ่นทุรกันดารมากมาย ที่แม้แต่ทางการก็เข้าไปไม่ถึง แต่พระองค์ทรงเข้าไปถึง เพื่อทรงช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ให้พ้นจากความยากลำบาก จากนี้ไปตนและภรรยาจะน้อมนำแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิต ด้วยการไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น ไม่สร้างหนี้สิน พอใจในสิ่งที่เรามี
นางไกร ทิพย์แก้ว
ด้านนางไกร ทิพย์แก้ว วัย 80 ปี จาก จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่า เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพครั้งนี้เป็นครั้งที่ 20 แล้ว โดยเมื่อมีเวลาว่างจะนั่งเครื่องบินมากรุงเทพฯ ทีละหลายวัน เพื่อมาเข้ากราบพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ให้มากที่สุด ทุกครั้งที่ได้มาจะมีความรู้สึกชื่นใจ อุ่นใจ และสบายใจ ปะปนกันไป

“สมัยก่อนทุกครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มาที่นครฯ ก็จะไปนั่งรอเฝ้าฯ จนได้เห็นพระพักตร์ จำได้ว่าได้รับเสด็จฯ 3 ครั้ง และอีกครั้งก็มาที่วัดพระแก้ววันที่ 5 ธันวาคม เมื่อหลายสิบปีก่อน มาทั้งครอบครัวเลย เวลาได้เห็นพระองค์เสด็จผ่านมาใกล้ๆ นั้นชื่นใจมาก เรารักท่านทุกๆ เรื่องทรงทำให้เราอย่างไม่มีเงื่อนไข และคงเพราะผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ เลยเป็นเหตุผลที่เราต้องมาหาท่านบ่อยๆ อายุ 80 แล้ว เดินทางบ่อยๆ แต่ก็ไม่เหนื่อยเลย เพราะใจเราอยากมา พอมาถึงที่นี่ทุกอย่างก็ดีหมด” นางไกร กล่าวด้วยความปลื้มใจ

ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.10 น.ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 35,140 คน รวม 108 วัน มี 4,544,184 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,551,234.75 บาท รวม 108 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 383,072,406.34 บาท

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต 130 วัน (13 ต.ค. 2559) มีการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 129 วัน (14 ต.ค. 2559) พระราชพิธีสตมวาร 100 วัน (ระหว่าง 20-21 ม.ค. 2560) เปิดให้ลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม 15-28 ต.ค. 2559 (รวม 14 วัน) เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท (ตั้งแต่ 29 ต.ค. 2559) 109 วัน (งดกราบสักการะพระบรมศพ 1-2 ธ.ค. 2559, 1 ม.ค. 2560 , 20-21 ม.ค. 2560)














กำลังโหลดความคิดเห็น