รู้จัก “ภิญโญ มีชำนะ” สวมเสื้อคลุมนักวิชาการ หนุนเต็มสูบ “โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่”

เปิดประวัติ รศ.ดร.ภิญโญ มีชำนะ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินหน้าชนเป็นผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

ทีมข่าวโซเชียลมีเดีย MGR Online ... รายงาน

รศ.ดร.ภิญโญ มีชำนะ จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2522, ปริญญาเอก วิศวกรรมเหมืองแร่ จากมหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ ปี 2528 ปัจจุบัน เป็นหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา ระบุว่า เป็นกรรมการอิสระของบริษัท สยามสติลซินดิเกต จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นเจ้าของโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี

นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการสมาคมวิศวกรเหมืองแร่ไทย มีบทบาทสำคัญในการผลักดันและรับจ้างเป็นวิศวกรที่ปรึกษา รับทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) การประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) และการประเมินผลกระทบทางสังคม (Social Impact Assessment : SIA) ในโครงการเหมืองแร่สำคัญด้วย เช่น โครงการเหมืองแร่โปแตช อุดรธานี

รวมถึงผลงานสำคัญอย่างหัวหน้าโครงการจัดทำรายงานการศึกษาและแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ เพื่อให้มีการสัมปทานสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำใน จ.พิจิตร และ จ.เลย ซึ่งเป็นของบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด และบริษัท ทุ่งคำ จำกัด อีกด้วย

เหมืองทองของอัคราถูกสั่งปิดด้วยมาตรา 44 เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง

ผลกระทบต่อโปแตชส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรมอันเป็นเศรษฐกิจหลักของชุมชน จากปัญหาการขยายตัวของดินเค็ม และน้ำเค็มจากการแต่งแร่ รวมถึงความเค็มของกองเกลือ เกิดผลกระทบด้านสุขภาพจากมลพิษขณะทำเหมือง ฝุ่นเกลือ และยังทำให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงในระยะยาวด้วย

และ “อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” ยังร่วมกับบริษัทจีน ชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปในราคาสูงถึง 32,300 ล้านบาท โดยใช้เทคโนโลยีจากจีน อ้างว่าเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด เหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหินญี่ปุ่นที่โฆษณา แต่กลับต้องติดตั้งระบบจับปรอท ฝุ่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่ม

รัฐบาลจีนสั่งปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินไปเยอะแล้ว เพื่อลดหมอกควันพิษที่ปกคลุมในกรุงปักกิ่งและเมืองใหญ่ แต่พี่ไทยยังจะดันทุรังสร้าง

การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ ภิญโญ เคยออกรายการคมชัดลึก ทางช่องเนชั่นทีวี เมื่อ 4 มีนาคม 2558

เขากล่าวว่า “ถ้าเราไม่เอาถ่านหิน จะเอาอะไร ก๊าซก็ต้องนำเข้า ฉะนั้นเวลาพูดเรื่องพลังงาน ผมจึงอยากให้มองทุกมิติ ไม่ใช่เฉพาะสิ่งแวดล้อม”





มาวันนี้ ภิญโญมาในนาม “เครือข่ายนักวิชาการสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่” ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ อ้างว่าประเทศที่พัฒนาแล้วต่างก็มีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินด้วยกันทั้งนั้น และโจมตีกลุ่มออกมาคัดค้านว่ายังไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง กังวลว่าหากไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินจะมีความเสี่ยงที่ไฟฟ้าจะไม่พอใช้ในภาคใต้ถึงขั้นรุนแรง จนอาจจะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ดังที่เคยเกิดมาแล้วใน 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อหลายปีก่อน

“กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยมักจะอ้างเรื่องมิติของสิ่งแวดล้อม แต่จะไม่พูดเรื่องมิติเศรษฐศาสตร์และมิติอื่นๆ”

เป็นอีกตัวละครหนึ่งในสมรภูมิผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท จากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลอันดามันเป็นเดิมพัน

อ่านประกอบ : กลุ่มหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ จี้นายกฯ ลุย ยกมาบตาพุดไม่เห็นมีปัญหาสิ่งแวดล้อม