“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องสนามหลวง ทรงเปิดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” ที่จัดขึ้นเพื่อถวายความอาลัย และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริเพื่อพัฒนาตนเองต่อไป
วันที่ 9 ก.พ. 60 เวลา 18.50 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท้องสนามหลวง เพื่อทรงเปิดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” อันเป็นนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อถวายความอาลัย และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี รวมทั้งพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ และหลักการทรงงานมาเพื่อพัฒนาตนเอง องค์กร และประเทศชาติสืบไป
ต่อมาเวลา 19.14 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินถึงบริเวณท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) พร้อมด้วย คณะกรรมการจัดงานฯ เฝ้ารับเสด็จฯ จากนั้นเสด็จฯเข้าสู่พลับพลาพิธี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กราบบังคมทูลรายงาน วัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเสด็จฯ เปิดนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล และทอดพระเนตรนิทรรศการ
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออกจากพลับพลาพิธี ไปยังบริเวณพิธีเปิดงาน ทรงตัดแถบแพร เปิดนิทรรศการ “เย็นศิระ เพราะพระบริบาล” แล้วเสด็จฯเข้าสู่ภายในนิทรรศการ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดนุชา สินธวานนท์ เฝ้ารับเสด็จฯ การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล ซึ่งประกอบด้วย
โซนที่ 1 บุญของแผ่นดินไทย ประกอบด้วย 1. บูรพกษัตริย์ไทย สร้างชาติไทยให้มั่นคง 2. สืบสานตำนานราชวงศ์จักรี 3. พระเจ้าอยู่หัวในดวงใจ โซนที่ 2 ประกอบด้วย พระราชาผู้ทรงธรรม (ทำ) การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอาสน์ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวลา 8 นาที จบแล้วเสด็จฯ ออกจากที่ประทับเพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการ เย็นศิระ เพราะพระบริบาล อันประกอบด้วย 1. ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน 2. พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 3. ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ต่อมาเสด็จฯทอดพระเนตร โซนที่ 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย 1. สดุดีมหาราชา อันเป็นการจัดแสดงนิทรรศการที่นานาชาติสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และการไว้อาลัยจากนานาชาติ 2. พระผู้ทรงเป็นมากกว่าแรงบันดาลใจ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการการไว้อาลัย การจัดงานของคนไทยทั้งประเทศ 3. ส่งต่อความดีเพื่อพ่อบนฟ้า ทอดพระเนตรโซนที่ 4 พระมิ่งขวัญชาวไทย อันประกอบไปด้วย พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทอดพระเนตรโซนที่ 5 ร้อยใจไทย โดยทอดพระเนตร 89 ภาพ พระราชกรณียกิจ และ 89 พระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส
จากนั้น เสด็จฯออกจากอาคารนิทรรศการไปยัง บริเวณด้านข้างของอาคารนิทรรศการเพื่อทอดพระเนตร นิทรรศการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต อันเป็นการจำลองการบริหารจัดการดิน น้ำ และป่า รวมถึงเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานให้ประชาชนเสร็จแล้วเสด็จฯออกจากบริเวณจัดนิทรรศการ ทรงเยี่ยมราษฎร์ที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ ตามพระราชอัธยาศัย แล้วเสด็จฯพระราชดำเนินกลับ
ทั้งนี้ นิทรรศการจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น.
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งว่า “ให้ช่วยกันสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทำต่อไป ให้ประชาชนเข้าใจและเป็นรูปธรรมให้มากที่สุด อีกประการหนึ่งคือ เรื่องของศาสนาต้องช่วยกัน เพราะใกล้วันมาฆบูชาแล้ว ก็มีงานที่สำคัญ พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งว่า “ทุกคนพร้อมช่วยกันนะ” นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณคณะผู้จัดงานอีกด้วย
ด้าน นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. เผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งขอบใจคณะผู้จัดทำนิทรรศการนี้ เพราะนิทรรศการนี้จะได้เป็นสมบัติของประเทศชาติต่อไป เพราะเป็นนิทรรศการที่มีคุณค่า และระหว่างที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เมื่อทอดพระเนตรภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงรับสั่งว่า เคยเสด็จฯ ไปกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานประชาชนที่ทราบข่าวการเสด็จฯของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างมาจับจองพื้นที่บริเวณโซนทิศเหนือท้องสนามหลวงฝั่งศาลฎีกา และถนนราชดำเนินในตั้งแต่ช่วงเย็น เพื่อเฝ้ารอรับเสด็จฯและชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆ พสกนิกรต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโบกพระหัตถ์ แย้มพระโอษฐ์ให้กับประชาชน ที่มารอรับเสด็จฯ สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ ประชาชนบางคนถึงขั้นหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ ที่มีโอกาสชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด