เจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอทคอม ตั้งข้อสังเกต “วงศ์ทนง” จ้อสดปมหุ้น aday ตอนมีกำไร มีการปันผล ผู้ลงขันติดต่อไม่ได้ก็โยกเงินเข้ามูลนิธิ แต่พอนายทุนใหญ่มาร่วมทุน ก็เปิดบริษัทใหม่ เอาหัวหนังสือย้ายไป ปล่อยให้ผู้ร่วมลงขัน 459 คน อยู่บริษัทเปล่าๆ ถามกลับ ถ้าไม่ทอดทิ้งแล้วจะเรียกว่าอะไร
นายปรเมศวร์ มินศิริ เจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอทคอม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Poramate Minsiri เมื่อคืนวันที่ 3 ก.พ. ระบุถึงกรณีที่ นายวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารอะเดย์ (aday) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ถึงเรื่องผู้ร่วมลงขันนิตยสารอะเดย์ เมื่อปี 2543 ว่า ไม่เคยทอดทิ้งผู้ร่วมลงขัน ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนมีกำไร มีการปันผลหุ้นให้ผู้ลงขัน แต่ผู้ลงขันที่ไม่ได้เงินปันผล คงเพราะติดต่อไม่ได้ จึงตั้งกติกาว่าผู้ลงขันคนไหนที่ไม่ได้ติดต่อกลับมาตามเวลาที่กำหนด ให้ถือว่านำเงินก้อนนั้นไปบริจาคเข้ามูลนิธิอะเดย์ ซึ่งก่อตั้งโดยนายวงศ์ทนง
ปี 2546 - 2547 บริษัทมีโอกาสที่จะได้ขยายงาน มีบริษัทใหญ่อย่าง บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สนใจมาร่วมทุนขยายกิจการ นายวงศ์ทนง จึงตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ เอาหัวนิตยสารอะเดย์และอื่นๆ ที่สร้างมาจากบริษัทแรก ย้ายมาร่วมทุนกับนายทุนคนใหม่ ปล่อยผู้ถือหุ้นเดิม 459 คน ให้อยู่กับบริษัทเปล่าๆ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของอะเดย์แล้ว
“ฟังแล้วเวิ้งว้างไหม โดยเฉพาะเมื่ออ่านในหนังสือชวนลงขัน ที่เขียนว่า สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับเมื่อเป็นหุ้นส่วนนิตยสารอะเดย์ เป็นการลงทุนร่วมกับนิตยสารที่มีศักยภาพในการที่จะเติบโตต่อไป จึงสามารถคาดหวังถึงความสำเร็จของมูลค่าหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ คนซื้อหุ้นเขาร่วมลงทุนกับนิตยสาร ไม่ใช้บริษัทเปล่าๆ ส่วนที่บอกว่า ผลประกอบการและผลกำไรจากบริษัทใหม่ ก็เอาไปดูแลคนร่วมลงขันกับที่เก่าอย่างไร ไม่ได้บอกรายละเอียด” นายปรเมศวร์ ระบุ
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ที่ นายวงศ์ทนง ยืนยันว่า ไม่เคยทอดทิ้งผู้ร่วมลงขัน แล้วจะเรียกปรากฏการณ์ทิ้งผู้ลงขัน 459 ชีวิต ไว้กับบริษัทเก่าที่ไม่ได้เป็นเจ้าของอะเดย์อีกต่อไป แล้วย้ายสินทรัพย์ไปจดบริษัทร่วมกับนายทุนใหม่กระเป๋าหนัก ว่ายังไงดี อย่างไรก็ตาม ในตอนต้นกล่าวว่า กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับทีมงานอะเดย์ และนิตยสารในเครือ คนทำงานมีคุณภาพ มีฝีมือก็เรื่องหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง