กรมทรัพย์ฯ จะไปทางไหนต่อ? จะจืดจางความชอบธรรมในการปฏิบัติงานหรือไม่? หลังเกิดกรณีขโมยภาพที่ลือลั่นไปทั้งผืนปฐพี เราเปิดใจคุยกับ “ไอพี - แมน” แอดมินเพจกรมทรัพย์ฯ ผู้เปิดทัพด้านการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนทางสื่อโซเชียลจนเป็นปรากฏการณ์
ในช่วงปีที่ผ่านมา สำหรับคนที่เล่นสื่อโซเชียล น่าจะได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวขึ้นมาของ “แอดมินเพจ” แห่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ขนานนามตัวเองว่า “ไอพี - แมน” เดินหน้าให้ความรู้ความเข้าใจด้านลิขสิทธิ์ทางโซเชียลมีเดีย ด้วยลีลาท่าทีที่เป็นมิตร จนคนติด และตามติดตลอดมา ถึงขั้นเรียกขานด้วยนามว่า “บอส” ด้วยใจที่ยกให้ซึ่งความยอมรับนับถือ
ณ วันนี้ หลังจากข่าวคราวเกี่ยวกับอดีตผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในกรมทรัพย์ฯ ลือลั่นไปทั่ว เขา... “ไอพี - แมน” หรือกระทั่งทิศทางการทำงานของกรมทรัพย์ฯ จะยังสามารถจับความชอบธรรมหรือความน่าเชื่อถือจากประชาชนไว้ได้หรือไม่อย่างไร เพราะก็อย่างที่หลายคนนินทาว่า “ขนาดคนใน ยังทำ แล้วจะมาพร่ำบอกอะไรกับคนทั่วไป”...
ความถูกต้องยังอยู่ยง
หมัดคุณธรรมไม่เปลี่ยนแปลง
“ในเรื่องของเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นข่าว มีแค่ส่วนน้อยที่กระทบบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าคนไทยมองบทบาทหน้าที่ของเราไม่เปลี่ยนแปลง คือถ้าเข้าไปดูในโพสต์ของเพจล่าสุด 2-3 อัน จะเห็นว่ามีพี่น้องประชาชนให้กำลังใจ"
แอดมินเพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาเจ้าของชื่อเรียกขาน “ไอพี-แมน” หรือที่ถูกเรียกขานกันในนาม "บอส" เปิดเผยรายละเอียดทิศทางการทำงานที่ยังคงรณรงค์ด้านปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์และมิตรประชาชนในด้านการให้ความรู้ประเด็นสงสัยเช่นเดิม แม้จะเกิดกรณีอดีตรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาขโมยภาพวาดที่ประเทศญี่ปุ่น
“คือแยกกัน เรื่องหน้าที่การงาน กับเรื่องส่วนตัว และจากกรณีที่เป็นข่าว ก็อยากให้สังคมลองตรึกตรองที่มันมีประเด็นในเรื่องของเว็บหนึ่งๆ ลงข่าวว่าเป็นภาพโป๊ ภาพนางแบบ สังคมเราไปอ่านแค่พาดหัวหรือว่าไปอ่านแค่รูปที่เขาทำมาแล้วก็รีบแชร์ให้ความคิดเห็น จนเราลืมไปว่าเรื่องเหล่านี้มันยังไม่ได้บทสรุป ควรจะหาแหล่งข่าวที่ตรวจสอบได้ก่อน มีความน่าเชื่อถือ
“ซึ่งในระหว่างนั้นที่เกิดข่าว ทางเพจไม่ได้ออกมานำเสนอ ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเรื่องที่คนของเราทำ เราจึงเงียบอย่างที่มีคอนเม้นท์ว่าคนในองค์กรเรายังทำผิดเลย แล้วเราจะไม่เป็นด้วยเหรอ จริงๆ ก็อย่างที่บอกกล่าวพี่น้องประชาชนไป คือรอข่าวสารข้อมูลเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ แล้วจึงออกมาบอกกล่าว
“รูปแบบการทำงานของเราก็ยังเหมือนเดิม พยายามจะหาข้อมูลให้ความรู้ รวมไปถึงรณรงค์เรื่องการไม่ละเมิด เหมือนเดิม แล้วก็สไตล์ในการตอบ การทำงานก็ยังเหมือนเดิม บางทีอาจจะมีคนเข้ามา เหมือนกับมาติง มาแซวๆ บ้าง ก็ไม่ได้ลบความคิดอะไร ก็รับฟัง แล้วก็พยายามนำมาพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ บนพื้นฐานเดิมของกรมทรัพย์สินทางปัญญา”
ไม่ซื้อไม่จ่าย ไม่ใช้ของปลอม
เพื่อสังคมที่ดี...
นับเวลาราวร่วมปีที่เพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ถูกหยิบยกมาพูดถึง ให้เป็นดั่ง “บอส” ผู้น่าเกรงขามทั้งสำหรับ “คน” และ “ผี” จอมละเมิดทั้งหลาย กับลีลาการโพสต์ การคอมเมนท์ ไปจนถึงการตอบคำถามที่โดนใจทั้งวัยสะรุ่นและไม่วัยสะรุ่นแห่งโลกโซเชียล ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวในด้านปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ชนิดที่พูดได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์ ในการทำหน้าที่ของแอดมินผู้ที่ต่อมา ได้รับการเรียกขานว่า “บอส” ซึ่งนับว่าได้สัมฤทธิ์ผลอย่างต่อเนื่อง
“ถ้ามองในเรื่องของผลลัพธ์ ตัวเลขมันอาจจะวัดออกมาไม่ได้ ตัวเลขมันใหญ่มาก ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังรวบรวมสถิติในเรื่องนี้วัดออกมาอยู่” เจ้าตัวอธิบาย ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มให้กับการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดี
“เหมือนเพื่อนกับเพื่อน เราก็อยากให้สิ่งที่ดีแก่กันและกัน ซึ่งอย่างน้อยๆ คนที่เมาติดตามเป็นตัวกระตุ้นเวลาเขาจะไปดูหนังละเมิดลิขสิทธิ์หรือซื้อของละเมิดลิขสิทธิ์ ไปก๊อปปี้งานคนอื่น เขายังนึกถึงเรา ว่าไอ้เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องไม่ดี ถ้าเกิดขึ้นบ้างกับตัวเรา เราจะรู้สึกอย่างไร
“ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากการที่เราให้ข้อมูลเขาอย่างต่อเนื่อง ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ของสังคมให้เขาเข้าใจ เราก็ยังคงยึดสโลแกนเดิม สนุกสนานให้ความรู้ พยายามหาเรื่องอะไรต่างๆ มานำเสนอ หรือจากคำถามที่ประชาชนเคยถามมาทางอินบ็อกเพจเฟซบุ๊กบ้างหรือทางโทรศัพท์สายด่วน เราก็พยายามรวมรวบ มาชี้แจงในภาษาชาวบ้าน ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายๆ เป็นอินโฟกราฟฟิกบ้างอะไรบ้าง และอะไรที่ไม่รู้ก็ไปถามทางเจ้าหน้าที่สำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่พี่น้องประชาชน
“ทางกรมก็จัดทำการรณรงค์ต่อเนื่อง มีแคมเปญออกมาเรื่อยๆ ทั้งในช่วงที่ผ่านมาและในช่วงนี้ นอกจากรณรงค์ “ไม่ซื้อไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม เพื่อสังคมที่ดี” ก็มีแคมเปญโฆษณาทางโทรทัศน์ มีสปอร์ตทางวิทยุ แล้วก็ช่องทางอื่นๆ อย่างโซเชียลมิเดียด้วย คือเราก็พายามหาพันธมิตรมาช่วยรณรงค์ให้ภาคประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”
ข้าราชการของแผ่นดิน
ประชาชนรู้สึกดี เราก็รู้สึกดี
“ก็พยายามทำให้ทันตามเหตุการณ์ แล้วที่ผ่านมาก็พยายามหาอะไรที่เป็นประเด็นสังคมอะไร แม้กระทั่งเรื่องอื่นๆ ที่พี่น้องประชาชนอยากจะได้คำตอบ เราก็พยายามหาข้อมูลที่ถูกตอง ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้ แล้วก็อาจจะหารูปแบบการสื่อสารใหม่ๆ ก็จะพัฒนาทำ ตอนนี้ก็กำลังนึกๆ ว่าราจะทำอย่างไรให้เข้าถึง นอกจากเฟซบุ๊กและทวิสเตอร์แล้ว ก็อาจจะทำอะไรมากขึ้น อาทิ รายการ หรือว่าอะไรที่สามารถสื่อสารถึงได้ง่าย เข้าใจง่ายๆ
“สนุกแล้วคนติดตามมากขึ้น กวนๆ เหมือนเดิม” ข้าราชการหนุ่มเจ้าของฉายา “บอส” กล่าว ก่อนจะย้ำทิ้งท้ายจุดเริ่มต้นที่ยังคงดำเนินมั่นแน่วแน่น
“เราก็ยังเป็นมิตรกับระชาชนเหมือนเดิมครับ เชื่อว่าว่าประชาชนเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ซึ่งข้อที่เราใส่ใจมากที่สุด คือจากนิสัยตัวตนของเราส่วนหนึ่งที่เราก็เป็นคนชอบเทคแคร์คนอื่น เราใส่ใจคนอื่น เชื่อมาตลอดว่าถ้าวันหนึ่งเราได้มาเป็นข้าราชการ เราอยากจะเป็นข้าราชการที่ดี อยากจะให้กรมหรือหน่วยงานรัฐบ้านเมืองเราดีขึ้น ก็ภูมิใจที่ตอนนี้เรามีส่วนในการช่วยพัฒนา ตอนนี้ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่ใช่แค่พัฒนาให้เข้าถึงประชาชนแค่โซเชียลมีเดีย สาระความเป็นกรม เราก็ปรับเปลี่ยนให้เข้าใจประชาชน ทำระบบต่างๆ ให้มันง่ายขึ้น มันไปทั้งหมดทั้งวง ไปเรื่อยๆ
“เพราะการให้บริการสำคัญที่สุด เพราะการเป็นราชการ ราชการ คือ “ข้า” เราก็ต้องบริการประชาชนอยู่แล้ว แล้วทำอย่างนี้ ประชาชนรู้สึกดี เราก็รู้สึกดี เราก็ยิ่งมีแรงในการที่จะทำ ไฟท์ทุกอย่างให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุดเท่านั้นเอง ตอบโจทย์แค่นี้เองครับ เพื่อประชาชน”
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : วชิร สายจำปา
