xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัวตน! จ่าดับ จำเปาะ บาร์เบอร์ “Sixteen Barber” : ช่างตัดผมกางเกงในแดงสะท้านโลกันต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้คนต่างแชร์และคอมเมนต์กันอย่างอื้ออึง สำหรับภาพช่างตัดผมหนุ่มคนหนึ่งที่สวมใส่เพียงกางเกงในสีแดงตัวเดียวยืนให้บริการตัดผมหราอยู่กลางร้าน จนเกิดการตามหาพิกัดร้านกันให้วุ่นเพื่ออยากไปลองสัมผัสปรากฏการณ์สุดแปลกแหวกแนวอย่างนี้สักครั้งหนึ่ง
 
ซึ่งจากการสืบค้นหาของชาวเน็ตทำให้รับรู้ว่าเป็นร้านตัดผมแห่งหนึ่งที่พัทยา โดยมีชื่อร้านว่า “Sixteen Barber” ของวัยรุ่นหนุ่มนามว่า “คิงส์” หรือ “รัฐนัท บุญสิน” อายุ 26 ปี ที่คนในพื้นที่ต่างรู้จักมักจี่คุ้นในสไตล์ความเป็นตัวตนและให้การยอมรับสมัครเป็นขาประจำอย่างเนืองแน่นทั่วทั้งเขตภาคตะวันออก

ต้นกำเนิดร้านไอเดียสุดแปลก

“กางเกงในสีแดง รูปนั้นจริงๆ แล้วโดยปกติไม่ใช่อย่างนั้น ก็แต่งตัวธรรมดาปกติเหมือนช่างคนอื่นเขาแต่ว่าวันนั้นเป็นเหมือนอีกอารมณ์หนึ่งมากกว่าที่อยากเล่นสนุกๆ กับเพื่อน ซึ่งภาพนั้นแบบลูกค้าก็คือช่างอีกคนที่ร้าน ผมยืนตัดผม แล้วภรรยาผมเป็นคนถ่าย”
ช่างคิงส์เล่าถึงภาพที่ถูกแชร์ส่งต่อพูดถึงล้นหลามด้วยรอยยิ้มเต็มดวงหน้า เนื่องจากเกิดจากความสนุกสนาน ความเป็นตัวตน

“ผมไม่ได้หวังดัง เพราะปกติร้านก็อยู่ได้อยู่แล้ว มีลูกค้าทุกวันขาประจำที่ลงบุ๊กกิ้ง วันหนึ่งๆ ก็ 13 คน กับช่างอีกคนก็ทั้งหมด 26 คน ปกติทุกวันมันก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้มันก็จะดีขึ้นมาหน่อย เพราะลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักโลเกชั่นร้านก็มาใช้บริการ เอฟเฟกต์ก็มีทั้งดีและแย่

“คือถ้าเป็นคนที่รู้จักผม จะรู้ว่าผมเป็นคนชอบแก้ผ้า (หัวเราะ) ไม่ว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกับเพื่อน วันแต่งงานของผม หรือรูปที่ถ่ายกับพี่ๆ นักดนตรี วง 25 hours วงเพลย์กราวด์ พี่หมู-มูซู ผมก็จะใส่กางเกงในถ่ายอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาของคนรู้จักผม ด้วยนิสัยตัวตนของผม”

ช่างหนุ่มสุดแนวอธิบายเพิ่มถึงที่มาตัวเองว่า ด้วยพื้นเพถิ่นกำเนิดในเมืองเขตปกครองพิเศษที่เต็มไปด้วยสีสันที่สุดในประเทศ ถนนหนทางที่ผู้คนสัญจรไม่ต่างไปจากรันเวย์บนแคตวอล์กหรือย่านบรอดเวย์ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เขาเกิดการซึมซับ

“ผมเกิดและโตที่นี่ ผมเลยเห็นตั้งแต่ฝรั่งที่มีแฟชั่นจ๋าๆ จนฝรั่งที่ไม่มีแฟชั่นอะไรเลย ฝรั่งที่มาเที่ยวแบ็กแพกเกอร์หรือฝรั่งที่บุ๊กกิ้งโรงแรมนอนอยู่เป็นเดือนๆ คือมีฝรั่งทุกเกรด มันก็เลยกลายเป็นว่าเป็นสถานที่ที่ทำอะไรที่นี่ถ้าไม่แปลกหรือไม่เตะตามันก็จะอยู่ลำบากนิดหนึ่ง แต่งตัวบ้าๆ ไม่มีใครว่าไม่ปกติ เป็นเรื่องปกติ มันก็ค่อยซึมซับจนผมเองก็ไม่รู้ตัว

“เป็นความชอบลึกๆ ชอบแฟชั่น ชอบอะไรอย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้จ๋าอะไรมากมาย ชอบเก่าๆ หน่อย แต่ก็ไม่ใช่วินเทจ ออกลูกเรโทรๆ กึ่งระหว่างวินเทจกับสมัยใหม่อะไรประมาณนั้น ผมก็เลยชอบแสวงหาร้านตัดผมที่สามารถตัดได้แบบที่ผมคิด หาร้านที่ช่างตัดผมเท่ๆ แนวๆ แล้วทรงผมของผมก็จะออกมาล้ำแปลกกว่าชาวบ้าน เพื่อนๆ ก็ยุกันให้ไปเรียนๆๆ เรียนตัดผมแล้วมาตัดเพื่อนบ้าง”

แต่ด้วยความเป็นคนที่สมาธิสั้นจึงปฏิเสธความคิดนี้ กระทั่งช่วงที่เข้ามาเป็นนิสิตคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมืองหลวงกรุงเทพฯ ก็ยิ่งตอกย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

“จำได้เลยว่าอายุประมาณ 19 ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจจะมาเป็นช่างตัดผมเลย เรียนและก็ทำงานโรงแรมไปด้วยแต่ก็ยังชอบหาร้านตัดผมเท่ๆ จ๊าบๆ ไม่เปลี่ยน ผมก็ไปเดินไปเจอพี่คนหนึ่งเป็นช่างตัดผมที่สยามสแควร์ ชื่อ ‘โอกุ๋ย’ Three Brothers Barbershop ตัดผมสไตล์บาร์เบอร์ช็อป ด้วยความที่เราเป็นวัยรุ่น เราก็เลยชอบอะไรที่ Old School แนว New School หรือเป็นพวกแนวทหารเรือสมัยก่อน แนวป๊อปอาย

“ผมก็เลยรู้สึกว่าเท่ดี แปลกดี แล้วอีกอย่างมันเป็นอาชีพที่ยังไม่ค่อยมีใครทำด้วยที่โซนแถวบ้านเราก็เลยกลับมาบ้าน เพราะเรียนไม่เก่ง คิดว่าน่าจะเรียนไม่รอด ไม่จบ ก็เลยมาศึกษาทางด้านนี้ ไปเรียนโรงเรียนสอนตัดผม สารพัดช่างเพราะว่าตอนนั้นมีเงินน้อย ก็ศึกษาไปเรื่อยๆ ดูพี่โอกุ๋ยไอดอลเราบ้าง คนโน้นคนนี้บ้าง ศึกษาจากวิดีโอ แต่พีคๆ เลยที่ได้ชัดเจน คือฝรั่งจากประเทศอังกฤษ เขามาเที่ยวที่พัทยา เขาเป็นช่างที่ลอนดอนเปิดร้านบาร์เบอร์ช็อปแล้วก็มาเที่ยว เที่ยวกันครั้งแรกสองครั้งแรก เขามาตัดผมที่ร้าน จนเขาบอกว่าเขาเป็นช่าง เขาก็เลยเริ่มสอนเรา สอนเทคนิค สอนอะไรหลายๆ อย่าง ก็ซึมซับจากเขาอันนี้ต้องยอมรับ”

กระแสสร้างได้แต่…ต้องไม่เกินเลย

ขณะกำลังศึกษาและคิดสานต่ออยู่แรมปีก็บังเอิญไปเจอร้าน “สโกแลมบาร์เบอร์ช็อป” ร้านของฝรั่งประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เปิดที่พัทยา เป็นร้านบริการตัดผมสไตล์บาร์เบอร์ที่มีกรุ่นกลิ่นโลกตะวันตก คิงส์ที่คิดกำลังจะเปิดร้านตัดผมก็ยิ่งเห็นภาพ ยิ่งเกิดแรงกระตุ้นให้เกิดการเริ่มต้น

“แต่จะทำอย่างไรให้แตกต่าง” ช่างหนุ่มใหญ่เผยความรู้สึกในจังหวะนั้น ก่อนจะหยิบเอาตัวตนของตัวเองเป็นจุดยืน

“เราก็คิด เราก็เอาความเป็นตัวเราเข้าไปใส่ ตั้งแต่ชื่อร้าน “sixteen” คือวันเกิดของผม คือความหมายถึงตัวตนผม เราเกิดมากับมัน และสิ่งที่เราจะทำนี้มันก็เกิดจากเรา คอนเซ็ปต์ของร้านก็เลยไม่มีรูปแบบตายตัว สามารถตัดผมผู้ชายได้ทุกทรง ไม่ว่าจะเป็นกระแทกข้างลากไซต์ หวีแสก หวีกลาง หวีเสีย ได้หมดครับ ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเปิดข้าง เป็นวินเทจโดยเฉพาะ เราชอบเราก็ทำ ทำอะไรที่เป็นตัวเรา ส่วนตัวชอบแนวล้ำๆ ไม่ชอบอะไรที่มันแบบเดิมๆ ก็ทำ ก็เกิดเป็น “Sixteen Barber””

ด้วยเหตุนี้ “Sixteen Barber” เริ่มแรกเปิดให้บริการช่วงประมาณปี พ.ศ. 2554 จึงมีลูกค้าทั้งในตัวจังหวัดเองและนอกเขตพื้นที่จากจันทบุรี ตราด ระยอง หรือจังหวัดฉะเชิงเทราเอง มีหมดทั้งคนหนุ่มรุ่นเล็กและผู้ใหญ่รุ่นโตก็ตามที จนกระทั่งปัจจุบันนี้แตกหน่อขยายสาขาแฟรนไชส์ ที่วอล์กกิ้งสตรีท ซอยอรุโณทัย จากช่างรุ่นพี่คู่ใจสไตล์เดียวกันที่ร่วมกันบุกเบิก และที่ซอยสุขุมวิท 49 ถนนสุขุมวิท-พัทยากลาง ร้านที่เกิดจากการแปลงสภาพบ้านตัวเอง

“ถ้าถามว่าเพราะอะไรถึงอยู่ได้ มีลูกค้าจองคิว ก็เพราะความเป็นตัวตนของผม เพราะแค่ลูกค้ามีความสุข เดินออกจากร้านไปแล้วยิ้มผมก็พอใจแล้วครับ ช่างตัดอยู่ยิ้มหัวเราะ ผมชอบอะไรพวกนี้มากกว่า เพราะถ้าไปร้านปกติก็อาจจะตัดกันปกติ มาถึงคลุมเสื้อผา บอกทรงนี้ๆ แบบนี้ๆ แล้วก็ตัด ไม่ได้คุย ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์อะไรกัน คือไม่ได้มีกิมมิก แต่ถ้าทำอะไรแปลกๆ ลูกค้าเขาก็สนุกขึ้น”

“กางเกงในเชือกกล้วยมีวันนั้นวันเดียวที่ตัด แต่ว่าเร็วๆ นี้ก็อาจจะมีเป็น ดิ อเวนเจอร์ส ในการตัดผม แต่งตัวเป็นกัปตันอเมริกา เป็นไอรอนแมน หรืออะไรทำนองนี้ยืนตัดผมก็ได้ มันเป็นอะไรสนุกๆ โดยปกติผมก็จะบ้าๆ บอๆ ของผมอยู่แล้ว แต่กระแสตอบรับลูกค้าก็รีเควสต์ขึ้นมาอยากให้แต่ง ทำแปลกๆ ตัดให้ อยากลอง อยากถ่ายรูปทำแปลกๆ เขาต้องทำอย่างไร ก็อาจจะมีวันไหนสักวันหนึ่งขึ้นมาตอบสนองความต้องการของลูกค้านิดหนึ่งครับ แต่คือตอนนี้ยังไม่รู้ว่าโปรเจกต์ต่อไปคืออะไร เนื่องจากตอนนี้หลังจากทำกันเล่นๆ กระแสตอบรับก็ดี คนก็อยากจะเห็นภาพอื่นมากขึ้น

“ถ้าถามในเรื่องของกระแส การสร้างกระแส ส่วนตัวผมว่ามันก็อยู่ที่การขายของแต่ละคน มันไปว่าเขาไม่ได้ ในเรื่องของการสร้างกระแสในโลกโซเชียล ส่วนตัวผมเองคนหนึ่งถ้าธุรกิจมันจะต้องทำ มันเป็นจุดขาย ถ้าเราทำได้เราก็ต้องทำ ส่วนตัวผมคิดอย่างนี้ แต่ว่าก็อย่าให้มันเกินเลยขอบเขตจนเกินไป แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าย้อนกลับมามองกันดีๆ ในรูปนั้นที่ใส่กางเกงในสีแดง มันเป็นกางเกงเลกกิ้ง กางเกงในแบบมีขา มันก็จะอยู่ในขอบเขต ไม่ใช่เว้าขา เห็นเป็นรูปเป็นอะไร มันอาจจะเป็นการแต่งภาพให้อะไรดูมีขนาดที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนตัวผมคิดนะครับ แต่ว่าก็อยู่ที่การถ่ายของแต่ละคนที่จะสื่อ คือต่างคนต่างมุมมันก็มีทั้งดีและไม่ดีอย่างที่เคยเห็นกัน”

ผมคือศิลปะ
ไม่ใช่ผู้ให้ “บริการ” กับผู้รับ “บริการ”

“ส่วนตัวผมว่าการตัดผมมันคือศิลปะ มันไม่มีถูกหรือผิด มันขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวผู้ให้และผู้รับ ฉะนั้นแล้วการตัดผมของผมมันคือการให้ที่ผู้รับแล้วรู้สึกว่ามันมีความสุข รู้สึกว่ามันชอบ หรือว่ามันใช่สำหรับเขา

“คือเราเป็นผู้มอบความสุข ส่งความสุข อย่างที่เขาต้องการ ไม่ใช่แค่การตัดผมอย่างเดียว มันเป็นศิลปะร่วมกัน แต่ก็อย่ามากเกินเลยกันไป ถ้ามันเกินเลยไป มากไป มันก็จะดูน่าเกลียด แต่ถ้าอยู่ในความพอดี ถ้ามองว่ามันคือความพอดี มองในมุมของผู้ให้ แล้วเราเป็นผู้รับถ้ามันอยู่ในความพอดีมันก็โอเค

“เพราะบาร์เบอร์ช็อปก็คือที่รวมตัวกันของผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน มีความชอบการตัดผม เป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเอง ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นที่แฮงเอาต์อีกที่หนึ่งได้เลย สำหรับตัวผมเอง เพราะมีการพบปะพูดคุยกันของผู้ชายที่สร้างเสียงหัวเราะกับผู้ชาย เสน่ห์ก็ยังเหมือนเมื่อก่อนร้อยเปอร์เซ็นต์แทบจะว่าได้ เพียงแค่วัฒนธรรม ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามา แต่ทุกอย่างยังคงวนเวียนเหมือนเมื่อก่อน”

ช่างสุดแนวกล่าวยืนยันเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากตัวตนในความชอบ อยากให้เพื่อนๆ ลูกค้าก็คือเพื่อนที่เราอยากมอบสิ่งดีๆ เริ่มต้นจากเพื่อน คนกันเอง คนรู้จักนั่นเอง

ซึ่งหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศพิเศษ ไม่อยากนั่งเก้าอี้นิ่งๆ “sixteen barber” คืออีกหนึ่งทางเลือกที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร และที่สำคัญนอกจากคุณจะได้ทรงผมตามที่ต้องการ ยังมีมิตรภาพ เรื่องราวดีๆ กระทั่งไอเดียที่เหมาะกับตัวคุณอย่างที่คุณไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยเปิดบริการตั้งแต่ 11.00-21.30 น. สามารถบุ๊กกิ้งคิวได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-3294-2460





เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เฟซบุ๊กแฟนเพจ Sixteen Barber Shop Pattaya Thailand

กำลังโหลดความคิดเห็น