xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจน้ำดีที่ยังมีอยู่!! “เชษฐา หรนจันทร์” ดาบตำรวจระดับด็อกเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เราได้ทำงานสนองพระเดชพระคุณของในหลวง ร.9 เราได้เห็นพระองค์ท่านเหนื่อยยากลำบาก แล้วเราทำงานแค่นี้ เราก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย มันคือความคุ้มค่าในชีวิต”

เปิดใจนายดาบตำรวจด็อกเตอร์เชษฐา หรนจันทร์ ลูกชาวบ้านที่มีโอกาสได้รับราชการ พร้อมกับสานฝันด้านการศึกษาจนจบปริญญาเอก ก่อนอุทิศตนเป็นครูสอนประจำโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมานานกว่า 20 ปี เพราะความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9

• อยากให้ตัวนายดาบช่วยเล่าประวัติหน่อยครับ

ผมก็เป็นลูกชาวบ้านทั่วไปครับ เกิดที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง พอเรียนจบ ม.ปลาย ก็มาสอบเข้าเป็นนักเรียนพลตำรวจ ที่โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จ.ยะลา หลังจากนั้นก็มารับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน รับผิดชอบที่พื้นที่ จ.ตรัง พอได้บรรจุครบ 1 ปี ตอนนั้นเกิดสถานการณ์ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วย ตชด. 43 ที่รับผิดชอบทางพัทลุง ตรัง สงขลา ไปถึงนราธิวาส ก็เลยมียุทธปฏิบัติการของแต่ละจังหวัดลงไป ตอนแรกก็ลงไปที่นราธิวาส เพราะช่วงนั้นมี ตชด. โดนผู้ก่อการร้ายจับไป 3 คน ก็ลงไปตามค้นหาศพกัน ก็ไปอยู่ที่นั่นประมาณ 2 ปี

จากนั้นทางผู้บังคับบัญชาให้ผมมา จ.ตรัง มาสอนหนังสือที่โรงเรียน ตชด. บ้านทุ่งตะเซะพัฒนา ที่อ.ย่านตาขาว ผมอยู่ที่นี่ก็ประมาณ 10 ปี ก็รับผิดชอบในฝ่ายวิชาการ หลังจากนั้นก็เริ่มมีความคิดที่จะพัฒนาตัวเอง ก็กลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง จนเรียนจบ ป.ตรี ที่ราชภัฎภูเก็ต จากนั้นก็ย้ายจาก ตชด. ก็ไปเป็นตำรวจภูธร ที่ จ.สตูล พอย้ายไปที่นั่น ก็มีโครงการที่ว่าให้ข้าราชการตำรวจเพิ่มวุฒิการศึกษา ของ ม.ทักษิณ ผมก็สมัครเรียน ป.โท ในสาขารัฐประศาสนศาสตร์ ด้านการบริหารงานตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม จนเรียนจบ

หลังจากนั้นผมก็สมัครเรียนปริญญาเอก ที่ ม.ราชภัฎสวนสุนันทา ก็มีการเรียนเพิ่มเติมทั้ง ภาษาอังกฤษ และ โทเฟล ก็เริ่มเรียนเรื่อยมา ทีนี้ อาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าคุณจบคอร์สเวิร์กของ ม. นี้แล้ว แล้วไปทำของ ม.แคลิฟอร์เนีย ผมก็เลยเปลี่ยนมาเป็น THISTERN OF LEARNING ของที่นั่น แล้วได้วุฒิจากที่นั่นมา แต่ในส่วนของที่ไทย ตอนนี้ผมก็กำลังเรียนอยู่ครับ

• ทำไมตัวดาบถึงสนใจในด้านการศึกษาครับ

มันเป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ เพราะสมัยเรียนชั้นมัธยม ผมจะชอบเขียนชื่อตัวเอง ว่า ดร. หรือ ร.ต.อ. ดร. นำหน้าชื่อตัวเอง แล้วต่อมาผมมาแต่งงานกับแฟนซึ่งเป็นครูและนักวิชาการด้วย เขาก็ส่งเสริมให้เราเรียนหนังสือด้วย ก็มาเรียนดีกว่า แต่จุดหมายปลายทางในการเรียน เพียงแค่ว่า ให้เราได้มีสังคม เผื่อโอกาสข้างหน้า เราได้มีโอกาสมาพัฒนา หรือไปเล่นการเมือง แต่พอมาทำจริงๆ ก็รู้สึกว่าชอบ

• อยากให้ตัวดาบเล่าถึงประสบการณ์ในการเป็น ครู ตชด. หน่อยครับ

คือการทำงานตรงนี้ มันเป็นงานที่ถ้าไม่เสียสละจริงๆ ก็คงทำไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นตำรวจ แล้วเป็นผู้ถืออาวุธอยู่ในมือ แล้วการที่มาทำงานตรงนี้ ต้องเข้ามาทำงานกับมวลชน ทำงานกับเด็กนักเรียน พอตอนที่ไปสอนที่โรงเรียนครั้งแรก ไปสอนในส่วนของชั้น ป.1 ให้เด็กเริ่มฝึกอ่าน เพราะว่าทั่วไปจะผ่านอนุบาลมาแล้ว แต่ทางโรงเรียนจะอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร เด็กที่นี้จะยังเขียนไม่ได้เหมือนเด็กทั่วไปครับ เพราะว่าโครงการนี้ เป็นโครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเทพฯ ก็มักจะเสด็จลงมาเยี่ยม ถึงความก้าวหน้าของการสอนหนังสือในโรงเรียน ตชด. ทุกปี

โรงเรียนลักษณะนี้ขึ้นอยู่กับสำนักงานประถมศึกษา ซึ่งสมมุติว่าพื้นที่นั้นมีโรงเรียน 10 โรง แต่มีโรงเรียน ตชด. โรงเดียว ก็จะต้องไปร่วมทำกิจกรรมกับเขาเวลามีกิจกรรมอะไร เราก็ต้องฝึกเด็กของเราให้ทัดเทียมกับเด็กโรงเรียนอื่น ทีนี้ นอกจากจะสอนหนังสือแล้ว ก็มีโครงการพระราชดำริอื่นที่ต้องทำ ในส่วนของผมก็ทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ก็เริ่มกับชาวบ้าน ตอนเย็นๆ ก็ประชุมกับชาวบ้าน ทำป่าชายเลน แล้วก็ทำพัฒนา ซึ่งตอนนี้ในปัจจุบัน โรงเรียนแห่งนี้ก็ดีเด่นระดับประเทศ ตอนนั้นก็ขอทุนจาก สกว. ด้วย เขาให้มาทำ WALK WAY เข้าไปสำรวจ ตรวจพันธุ์พืชต่างๆ ทางชีวภาพต่างๆ

• ถือว่าค่อนข้างเข้าถึงประชาชนพอสมควร ในมุมของตัวเองแล้ว คิดเห็นอย่างไรครับ

โดยพื้นฐานทั่วไป ผมเป็นลูกชาวบ้าน แล้วบุคลิกของเราเป็นคนอ่อนน้อม ไม่มีแข็งกระด้าง และชอบงานมวลชนสัมพันธ์ พอถูกส่งไปอบรมพยาบาล ผมก็ไปเรียน แล้วพอมีพื้นฐานตรงนี้บ้าง ก็เข้าไปช่วยเหลือ ก็เห็นความลำบากตรงนี้ เราก็มีอะไรช่วยเหลือตลอด

พอได้มาทำงานจริงๆ ผมก็ได้เห็นปัญหาในระดับพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป หรือว่าในการพัฒนา ผมว่ามันต้องพัฒนาทั้งระบบ เช่น การศึกษา หรือสาธารณูปโภค และความเป็นอยู่ทั่วไป ผมว่าสิ่งนี้ เราเป็นตำรวจตัวเล็กๆ สามารถเข้าไปช่วยตรงนี้ได้ แต่ผมก็ยึดหลักของในหลวง ร.9 ว่า เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งผมมองตรงนี้มากกว่า เพราะถ้าเราให้ใจกับเขา สิ่งที่เราได้รับ คือความภาคภูมิใจ และเราได้เห็นความสุขจากชาวบ้านที่ให้มา เหมือนโครงการพระราชดำริที่ผมทำอยู่ ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ชาวบ้านก็จะมาช่วยเหลือหมด แต่เราก็อยู่เหมือนครอบครัว พอหลังเลิกเรียน ตอนเย็นก็ไปกินข้าวกับชาวบ้าน ก็กลายเป็นพี่เป็นน้องกัน เราได้เห็นสภาพที่แท้จริงของเขา เราไม่มีเงินจ่ายค่าหมอ เราก็ให้ไป ก็ถือว่าเราได้ใจประชาชนพอสมควรในการทำงานตรงนี้ครับ

• คิดเห็นอย่างไรบ้างกับงานที่ตัวเองทำอยู่ครับ

ผมถือว่าเป็นความคุ้มค่าของชีวิตนะครับ ที่ได้เกิดมาเป็นข้าราชการของในหลวง ได้ทำงานตรงนี้มันคุ้มค่า และเป็นเกียรติกับตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุข ครอบครัวที่เป็นข้าราชการเล็กๆ ก็ประสบความสำเร็จทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่กับครอบครัวตลอดเวลา เพราะว่าทำงานต่างพื้นที่ แต่เราไปในส่วนเรื่องความช่วยเหลือ การปฏิบัติหน้าที่ เราเห็นความเป็นอยู่ตรงนี้ ก็มาปรับใช้กับชีวิตของเราครับ

ขณะเดียวกัน การที่เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคม สิ่งหนึ่งที่เราได้รับคือความจริงใจ ผมว่าถ้าเราให้ความจริงใจกับประชาชน แล้วปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้าไปทำงานนั้น มันจะง่ายไปหมด แล้วมันจะเกิดประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ในการทำงาน แล้วในส่วนที่ผมทำงานราชการมา 30 ปี ผมถือว่าในการปฏิบัติหน้าที่ทุกพื้นที่ หน่วยงานของเราได้ประสิทธิภาพและได้รับผลประโยชน์สูงสุดน่ะครับ และไม่เคยคิดท้อแท้หรืออยากลาออก คือถ้ามีโอกาสจะทำต่อหรือทำตรงไหนได้ ผมอยากจะทำตลอดเวลา

• จากการทำงานที่ผ่านมา ถือว่าได้ให้อะไรกับตัวของดาบบ้าง

สิ่งที่ได้คือพื้นฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในครอบครัว และในส่วนของการพัฒนา เพราะว่าตรงนี้เราได้พัฒนาตัวเอง ได้มาอยู่ในสังคมอีกแบบ ได้รับประสบการณ์ชีวิต ได้เพิ่มพูนสิ่งต่างๆ มากมาย ส่วนในการทำงาน เราได้ทำงานสนองพระเดชพระคุณของในหลวง ร.9 เราได้เห็นพระองค์ท่านเหนื่อยยากลำบาก แล้วเราทำงานแค่นี้ เราก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย มันคือความคุ้มค่าในชีวิต
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช

กำลังโหลดความคิดเห็น