สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกร โปรดเกล้าฯพระราชทานอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่าง และน้ำดื่ม 4 มื้อ แก่ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ได้ย้ายมายังบริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศเหนือเยื้องกันพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยจะรวมอยู่ภายในศูนย์อาหารบริการประชาชนที่แบ่งเป็นสัดส่วน และยังคงมีอาหาร ขนม เครื่องดื่มไว้บริการประชาชนครบ 4 มื้อดังเดิม ตามพระราชประสงค์ที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาแสดงความอาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน
สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชนประจำวันที่ 19 พ.ย. มื้อเช้าเวลา 07.00 น. ประกอบด้วย ข้าวต้มปลา 1,500 ถ้วย กาแฟสดบาริสต้า 600 แก้ว นมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อเที่ยงเวลา 11.00 น. ข้าวเหนียวไก่ทอด 4,000 จาน ขนมไทย 300 ชุด มื้อบ่ายเวลา 16.00 น. ขนมไทย 1,000 กล่อง ข้าวเหนียวหมูและข้าวเหนียวไก่ 1,000 กล่อง เฉาก๊วยชากังราว 1,000 ถุง น้ำดื่มสมุนไพร 500 ลิตร และมื้อเย็นเวลา 18.00 น. ผัดหมี่พิมาย 2,500 ชุด ยำหมูยอ 99 กก. ขณะเดียวกันมีน้ำดื่มจิตรลดาให้บริการประชาชนตลอดทั้งวัน
เจ้าหน้าที่กองงานส่วนพระองค์ฯ แจ้งว่า เต็นท์อาหารและน้ำดื่มพระราชทานมีความกว้างมากขึ้น สามารถรองรับประชาชนที่เดินทางเข้ามาสักการะพระบรมศพได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นด้วย โดยในเรื่องของอาหารจะยังคงเป็นไปตามเดิม เพียงแต่ย้ายสถานที่ ขณะที่ทีมแพทย์ประจำพระองค์จะย้ายไปรวมกับศูนย์แพทย์ที่อื่นๆ บริเวณกึ่งกลางท้องสนามหลวง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยคาดว่าอีก 2 วันจะสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้
ขณะเดียวกัน ที่เต็นท์ได้มีนักเรียนจากมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) 20 คน จากทั่วประเทศซึ่งจะมาเป็นจิตอาสาสลับผลัดเปลี่ยนกันทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตลอดจนครบ 100 วัน
นางสาวธนพร แซ่ตั้ง อายุ 18 ปี หนึ่งในนักเรียนทุน ม.ท.ศ. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จากโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม อ.กุดชม จ.ยโสธร เล่าด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติว่า ตัวเองมาจากครอบครัวไม่สมบูรณ์พ่อแม่แยกทางกัน ตัวเองอาศัยอยู่กับตาและยาย ตั้งแต่เกิด พอเรียนมาถึงชั้นมัธยมปีที่สอง ตาเสียชีวิตเหลือแค่ยายคนเดียวชีวิตยิ่งลำบากมากขึ้น กระทั่งมาถึงชั้นมัธยมชั้นปีที่สาม ครูแนะนำให้สมัครขอทุนจากโครงการดังกล่าว ก่อนที่จะได้เป็นนักเรียนทุนเหมือนคนที่มีแขนขาครบแต่ไม่มีแรง จากมีความฝันอยากเป็นวิศวกรแต่ไม่มีความหวัง แต่พอได้ทุนแล้วเหมือนมีพลังเกิดขึ้นความฝันที่เคยวาดหวังไว้เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น หนังสือเรียนที่เคยอยากได้เพราะไม่มีเงินก็สามารถซื้อมาอ่านได้ และจากการได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ น.ส.ธนพร จึงตั้งปณิธานว่าเมื่อเรียนจบแล้ว จะกลับมาให้ช่วยเหลือสนับสนุนกับผู้ด้อยโอกาสอีก สมกับที่ตนเองได้รับพระราชทานน้ำพระราชหฤทัยจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ได้ย้ายมายังบริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งทิศเหนือเยื้องกันพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยจะรวมอยู่ภายในศูนย์อาหารบริการประชาชนที่แบ่งเป็นสัดส่วน และยังคงมีอาหาร ขนม เครื่องดื่มไว้บริการประชาชนครบ 4 มื้อดังเดิม ตามพระราชประสงค์ที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาแสดงความอาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน
สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชนประจำวันที่ 19 พ.ย. มื้อเช้าเวลา 07.00 น. ประกอบด้วย ข้าวต้มปลา 1,500 ถ้วย กาแฟสดบาริสต้า 600 แก้ว นมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อเที่ยงเวลา 11.00 น. ข้าวเหนียวไก่ทอด 4,000 จาน ขนมไทย 300 ชุด มื้อบ่ายเวลา 16.00 น. ขนมไทย 1,000 กล่อง ข้าวเหนียวหมูและข้าวเหนียวไก่ 1,000 กล่อง เฉาก๊วยชากังราว 1,000 ถุง น้ำดื่มสมุนไพร 500 ลิตร และมื้อเย็นเวลา 18.00 น. ผัดหมี่พิมาย 2,500 ชุด ยำหมูยอ 99 กก. ขณะเดียวกันมีน้ำดื่มจิตรลดาให้บริการประชาชนตลอดทั้งวัน
เจ้าหน้าที่กองงานส่วนพระองค์ฯ แจ้งว่า เต็นท์อาหารและน้ำดื่มพระราชทานมีความกว้างมากขึ้น สามารถรองรับประชาชนที่เดินทางเข้ามาสักการะพระบรมศพได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นด้วย โดยในเรื่องของอาหารจะยังคงเป็นไปตามเดิม เพียงแต่ย้ายสถานที่ ขณะที่ทีมแพทย์ประจำพระองค์จะย้ายไปรวมกับศูนย์แพทย์ที่อื่นๆ บริเวณกึ่งกลางท้องสนามหลวง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยคาดว่าอีก 2 วันจะสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้
ขณะเดียวกัน ที่เต็นท์ได้มีนักเรียนจากมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) 20 คน จากทั่วประเทศซึ่งจะมาเป็นจิตอาสาสลับผลัดเปลี่ยนกันทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตลอดจนครบ 100 วัน
นางสาวธนพร แซ่ตั้ง อายุ 18 ปี หนึ่งในนักเรียนทุน ม.ท.ศ. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จากโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม อ.กุดชม จ.ยโสธร เล่าด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติว่า ตัวเองมาจากครอบครัวไม่สมบูรณ์พ่อแม่แยกทางกัน ตัวเองอาศัยอยู่กับตาและยาย ตั้งแต่เกิด พอเรียนมาถึงชั้นมัธยมปีที่สอง ตาเสียชีวิตเหลือแค่ยายคนเดียวชีวิตยิ่งลำบากมากขึ้น กระทั่งมาถึงชั้นมัธยมชั้นปีที่สาม ครูแนะนำให้สมัครขอทุนจากโครงการดังกล่าว ก่อนที่จะได้เป็นนักเรียนทุนเหมือนคนที่มีแขนขาครบแต่ไม่มีแรง จากมีความฝันอยากเป็นวิศวกรแต่ไม่มีความหวัง แต่พอได้ทุนแล้วเหมือนมีพลังเกิดขึ้นความฝันที่เคยวาดหวังไว้เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น หนังสือเรียนที่เคยอยากได้เพราะไม่มีเงินก็สามารถซื้อมาอ่านได้ และจากการได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ น.ส.ธนพร จึงตั้งปณิธานว่าเมื่อเรียนจบแล้ว จะกลับมาให้ช่วยเหลือสนับสนุนกับผู้ด้อยโอกาสอีก สมกับที่ตนเองได้รับพระราชทานน้ำพระราชหฤทัยจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร