สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย สุดแสบ ปฏิเสธให้วีซ่า “อรพิมพ์ รักษาผล” นักพูดขวัญใจชาวไทย หลังได้รับเชิญจากชุมชนไทยในนครลอสแองเจลิส ให้ไปพูดเรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เดือนธันวาคมนี้ ตรงกันข้ามปล่อยคนที่จาบจ้วงในหลวง เข้ามาจ้ออย่างง่ายดาย เจ้าตัวเผยเคารพการตัดสินใจ แต่ผิดหวังที่ไม่ได้ไปพูดให้คนไทยในสหรัฐอเมริกาฟัง
วันนี้ (15 พ.ย.) เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ปฏิเสธให้วีซ่าแก่ น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล หรือ เบสท์ นักพูดขวัญใจชาวไทย พร้อมด้วย น.ส.สุดาภา ทาตัน เลขานุการส่วนตัว หลังได้รับเชิญจากชุมชนไทยในนครลอสแองเจลิส ให้ไปพูดเรื่องพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่นครลอสแองเจลิส วันที่ 3 ธ.ค. และที่เมืองบอสตัน วันที่ 5 ธ.ค. นี้ โดยเจ้าหน้าที่กงสุลได้แจ้งว่า “วันนี้คุณไม่ได้วีซ่า” แล้วก็คืนเอกสารให้ทั้งสองคน ก่อนที่จะแจ้งไปยัคณะกรรมการจัดงานที่นครลอสแองเจลิสทราบว่าวีซ่าไม่ผ่าน
น.ส.อรพิมพ์ กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินของเจ้าหน้าที่กงสุล แต่ผิดหวังที่ไม่ได้ไปพูดให้คนไทยในสหรัฐอเมริกาฟัง ที่ผ่านมา มีผู้ติดต่อให้ไปพูดที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 5 ธ.ค. แต่ได้ยกเลิกไป เพราะคิดว่าจะได้ไปพูดที่สหรัฐอเมริกา ฝากขอโทษกรรมการจัดงานและชาวไทยที่สหรัฐอเมริกาด้วยที่ไปไม่ได้
ส่วนองค์กรชุมชนไทยในนครลอสแองเจลิส ที่ติดต่อเชิญ น.ส.อรพิมพ์ ไปพูดให้คนไทยในสหรัฐอเมริกาฟัง คือ คณะกรรมการไทยนิวเยียร์ สงกรานต์ เฟสติวัล โดยมีกรรมการสภาสตรีไทยแห่งแคลิฟอร์เนีย และคณะกรรมการโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ ได้จัดโปรแกรมให้ น.ส.อรพิมพ์ ไปพูดเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยเปิดโอกาสให้ชาวไทยและชาวอเมริกันเข้าฟังฟรี วันที่ 4 ธ.ค. ที่นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย วันที่ 5 ธ.ค. ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมกับชาวไทยที่จัตุรัสภูมิพล ก่อนจะไปพูดต่อที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา และนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจากการทีไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้คณะกรรมการจัดงานต้องแจ้งยกเลิกสถานที่กันวุ่นวาย เนื่องจากได้จ่ายเงินค่ามัดจำโรงละคร ค่าประกันภัย ค่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยไปแล้ว
อ่านข่าว “สหรัฐฯปฏิเสธให้วีซ่า “เบสท์-อรพิมพ์” ได้รับเชิญไปพูดเรื่อง ในหลวง ร.9” จากเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์
อนึ่ง ผู้สื่อข่าว MGR Online กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา มักจะมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทยเดินทางไปบรรยายที่สหรัฐอเมริกาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้สนับสนุนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และผู้ที่มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กรณีล่าสุดคือ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการเสื้อแดง ซึ่งมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่หลบหนีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินสายบรรยายตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเดือนตุลาคม 2559 โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศญี่ปุ่น แต่กลับกรณีของ น.ส.อรพิมพ์ ทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กลับปฏิเสธให้วีซ่า จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง(อ่านประกอบ : คนไทยในสหรัฐฯ ต้าน “ปวิน เสื้อแดง” เดินสายจ้อเท็จเรื่องสถาบันกษัตริย์ไทย)
นอกจากนี้ ยังมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทย ที่มีแนวคิดต่อต้านระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก เช่น กลุ่มสมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มแดงสยาม กลุ่มมดแดงล้มช้าง ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และเรดยูเอสเอ อาทิ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, สุนัย จุลพงศธร, ดารุณี กฤติบุญญาลัย รวมทั้ง ชูพงศ์ ถี่ถ้วน, สุรชัย แซ่ด่าน, อาคม ซิดนีย์ และ จรัล ดิษฐาอภิชัย ซึ่ง นายจรัล เคยให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่า แม้การอยู่ต่างประเทศจะทำให้ห่างไกลมวลชน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย แต่มีข้อดีที่มีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวอย่างมาก โอกาสที่พวกตนจะได้กลับเมืองไทยคงยาก เตรียมใจอยู่ที่นี่จนตายแล้ว การต่อสู้คงอีกนาน
