รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ เจ้าของฉายา “หมอห้าบาท” เสียชีวิต ปิดตำนานหมอใจดีรักษาคนป่วยแสนประหยัด ไม่มีไม่คิดเงิน ทำความดีไม่มีเกษียณอายุ ศพสวดพระอภิธรรมที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ ก่อนส่งมอบร่างกายให้ศิริราชต่อไป
วันนี้ (10 พ.ย.) เฟซบุ๊ก “Apple Yin Yang” ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ หรือ หมอห้าบาท ที่ปรึกษาสถานเทคโนโลยีการศึกษาแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความถึงการเสียชีวิตของ รศ.นพ.สภา ว่า “แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่ง ที่รู้ซึ้งถึงคำว่า สูญเสีย ในชีวิตเกิดมาไม่เคยคิดว่า จะได้เรียนกับอาจารย์แพทย์ เมื่อได้เข้ามาเรียนที่เวชนิทัศน์ ศิริราชพยาบาล การเรียน Gross Anatomy เป็นเรื่องยากเย็นสำหรับเด็กศิลป์อย่างเรา และยิ่งได้มาเรียนกับ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ หรือ หมอห้าบาท
เราเองได้เรียนรู้ถึงการตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง ก็ตอนนี้เอง ก็เพราะว่าหากคุณสอบไม่ผ่าน ทำงานไม่เสร็จคุณไม่จบแน่ๆ
นั้นคือ ถ้าไม่ตั้งใจเรียน ก็จะเรียนไม่รู้เรื่องเลย สารพัดวิชาทางการแพทย์ที่ต้องผ่านไปให้ได้ เมื่อครั้งแรกที่ได้เรียนกับ อ.สภา รู้สึกกลัวเกรงเป็นอย่างมาก อาจารย์พูดถึงข้อตกลงในการเรียน การเข้าเรียน การสอบ การสอนของอาจารย์ คือ การพูดให้ฟังแล้วเล็คเชอร์ตาม ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ จดจนมือหงิก อ.สอนประกอบการวาดภาพ เพื่ออธิบายไปด้วย อ.สอนทั้งถ่ายภาพทางการแพทย์ และ Clinical ด้วย ทั้งๆ ที่ร่างกายของอาจารย์เองก็เริ่มไม่เอื้ออำนวยแล้ว เนื่องจากตอนที่สอนเรานั้น ท่านก็เกษียณมาหลายปีแล้ว และมีปัญหาทางสุขภาพ ตอนเย็นก็ต้องไปเปิดคลินิกรักษาคนจนอีก
พวกเราเปรียบเสมือนฝูงลิง หลายครั้งที่อาจารย์กำลังสอน เรากับเพื่อนมักจะแอบคุยกัน โดนช็อกดีดใส่ปากไปหลายแท่ง และโดนสวดไปอีกหลายจบ หลับก็ทำมาแล้ว อาจารย์ส่งเสียงดังดุทีหนึ่ง สะดุ้งเกือบตกเก้าอี้ บอกให้ไปล้างหน้า โดนด่าแบบฮาๆ ก็บ่อย แต่ไม่เคยเข็ด เพราะพวกเราสัมผัสได้ว่าอาจารย์ใจดีและรักพวกเรา
ในชีวิตเห็นหมอมาก็เยอะ แต่ไม่เคยมีหมอคนไหน...ทำให้เรารู้สึกศรัทธาได้เท่ากับอ.หมอสภา เลย เมื่อครั้งที่ตามอาจารย์ไปที่คลินิกสำนักงานแพทย์ ซอยระนอง 1 ทำให้เราเองรู้สึกสะเทือนหัวใจเป็นที่สุด คลินิกอาจารย์เก่ามากๆ ข้าวของเครื่องใช้ก็ทรุดโทรม เก้าอี้ที่อาจารย์นั่งตรวจคนไข้ มันธรรมดามากๆ มันดูนั่งไม่สบายเอาเสียเลย
ป้ายที่ประกาศเตือน หรือให้ความรู้คนไข้นั้น อาจารย์เขียนด้วยลายมือตัวเอง แปะตามผนังเต็มไปหมด ช่วงนั้นอาจารย์เริ่มป่วย เราจึงคิดไปช่วยท่านเพื่อเปิดคลินิก ไปได้ไม่กี่วันเรายังท้อเลย มันเหนื่อยและรถติด เรานั่งเฉยๆ นะ แกเป็นคนขับให้เรานั่ง รถโตโยต้าเก่าๆ พอไปถึงคลินิกมีคนนั่งรออยู่หน้าคลินิกเต็มไปหมด เราก็งกๆ เงินๆ เพราะอาจารย์ไม่ใช้ให้เราทำอะไรเลย ได้แต่บอกให้เราไปเอาเก้าอี้มานั่ง อาจารย์คงไม่รู้ตัวว่า..อาจารย์กำลังทำตัวอย่างให้เราดู และคิดสำนึกได้เอง โดยมิต้องพูดพร่ำสอนอะไรทั้งสิ้น เราซึมซับได้เองถึงการทำตัวเป็นคนทำงานเพื่อคนอื่น ถึงคำว่า เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว อาจารย์ทำให้เรารู้จักความละอายต่อการทำผิดและรู้จักคุณค่าของวิชาชีพ
...วันนี้ เวลา 21.57 น. อาจารย์สภาได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ ณ ตึกอัษฎางค์ ชั้น 7 รพ.ศิริราช เราได้แต่รู้สึกเสียใจที่เราได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งไปอีกแล้ว และท่านก็เป็นเสมือนพ่อของเราเช่นกัน คุณงามความดีของท่านมันล้นเหลือที่จะบรรยาย รางวัลมากมายที่ท่านได้รับ มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สังคมรับรู้เท่านั้น สิ่งที่ประจักษ์ดีแก่ลูกศิษย์ทุกคน คือ การสร้างคนทำงานในสายวิชาชีพนักเวชนิทัศน์ วิชาชีพที่อาจารย์สอนให้เราทำได้ทุกอย่าง มีศักดิ์ศรี มีความเป็นมา มาถึงตอนนี้ผู้สร้างเรา...ได้จากเราไปแล้ว เหลือแต่ลูกหลาน ลูกศิษย์ว่าจะสืบสานต่อให้ไปไกล หรือจบเพียงเท่านี้ ก็ต้องไปคิดกันเอาเอง
ท่านเป็นผู้ปราศจากกิเลส ความต้องการอยากมีอยากได้ใดๆ ท่านไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใดๆ จากใคร มีแต่ความเกรงใจผู้อื่น มีแต่จะหยิบยื่นให้เรา ซื้ออะไรไปฝากก็ให้ของกลับมาอีก ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เจอหมอ หรือใครที่เหมือนอาจารย์หมอสภาได้อีก เราจำกันได้ว่า...อาจารย์บอกว่า “ผมจะขออยู่จนในหลวงจากไป ขอให้ได้อยู่เห็นพระองค์ตลอดไปก็พอแล้ว”
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้ออกมาดังๆ คนที่ดีที่สุด ที่รักที่สุดมาจากไปในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่รู้จะเอ่ยคำใดให้เพียงพอกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ และอยากจะขอบคุณผู้ดูแลอาจารย์มาตลอด ขอบพระคุณพี่ฝนค่ะ #ศิริราชในความทรงจำ #หมอ5บาท #รักและเคารพสุดหัวใจ #เวชนิทัศน์”
ด้านผู้สื่อข่าว MGR Online สอบถามคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ยืนยันว่า เสียชีวิต แต่ไม่ขอให้รายละเอียด บอกแค่รักษาตัวที่ศิริราชนานแล้ว และเสียชีวิตตามรายละเอียดในข่าว
สำหรับการสวดอภิธรรมศพ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ เนื่องจากอาจารย์สภาบริจาคร่างกายให้กับศิริราช เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่แก่นักศึกษาแพทย์ต่อไป เป็นการละสิ้นแล้วซึ่งกายสังขาร ทางทายาทได้กำหนดให้มีการสวดอภิธรรมศพ โดยนำเส้นผมและเล็บของ อ.สภา ไปทำพิธีทางศาสนาแทนร่างกายของท่าน ในวันที่ 12 - 16 พ.ย. 2559 ณ วัดเจ้าอาม ศาลา 2 ถนนบางขุนนนท์ กทม.
สำหรับ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชยการ จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล ปี พ.ศ. 2502, ประกาศนียบัตร Art as Applied to Medicine, The Johns Hopkins Hospital และ ประกาศนียบัตรนักประชาสัมพันธ์ฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 7 ดำรงตำแหน่งภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เป็นอาจารย์โท ปี พ.ศ. 2503, อาจารย์เอก ปี พ.ศ. 2511, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปี พ.ศ. 2516 และ รองศาสตราจารย์ ปี พ.ศ. 2530 แม้จะเกษียณแล้ว แต่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาต่อ และสอนถ่ายภาพระบบร่างกายต่ออีก 10 ปี ต่อจากนั้น 6 ปีหลัง ก็ยังได้รับเป็นที่ปรึกษาต่อถึงปัจจุบัน
รศ.นพ.สภา เปิดคลินิก “แพทย์สภา” ที่ซอยระนอง 1 ถนนพระราม 5 รับรักษาคนป่วยที่คิดค่ารักษาในราคาแสนประหยัดเพียง 5 - 70 บาท โดยเริ่มต้นเก็บเงิน 5 บาท สำหรับคนไข้ที่ปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้หวัด หากไม่มีเงินจริงๆ ก็ไม่คิดเงิน หรือถ้ามีไม่พอให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น จนเป็นที่มาของฉายา “หมอ 5 บาท” โดยรับรักษาโรคทั่วไป จะเก็บเงินเฉพาะค่ายาและเวชภัณฑ์เท่านั้น โดยไม่คิดค่าวินิจฉัยโรค แต่ถ้าหากคนไข้ไม่มีเงินจริงๆ ก็ไม่คิดเงิน หรือหากมีไม่พอจะให้เท่าไหร่ก็ได้ เพราะรู้สึกเห็นใจคนไข้ และไม่ต้องการให้ไปซื้อยารับประทานเอง ซึ่งจะเสี่ยงต่อการดื้อยา
สำหรับรางวัลและความสำเร็จในชีวิตการทำงาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานโล่เกียรติคุณ รางวัล “น้ำใจงาม” ด้านการสงเคราะห์ และพัฒนาคุณภาพชีวิต อันดับที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2547 รายการคัดเลือกของผู้ชมรายการ “ฟ้าใส น้ำใจงาม”, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบโล่เชิดชูเกียรติ ผู้นำคุณประโยชน์ดีเด่น แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ประจำปี พ.ศ. 2550, ศิษย์เก่าดีเด่นและศิษย์เก่าดียอดเยี่ยม พ.ศ. 2543 โดยสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล โดยได้รับพระราชทานเข็มที่ระลึกเพื่อเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2544 และ ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชดีเด่น พ.ศ. 2546 สาขาการบริการชุมชน