ผู้ใช้บริการบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำย่านจอมเทียน เมืองพัทยา ร้องเรียนว่า ถูกขโมยคอมพิวเตอร์แมคบุ๊กไป 2 เครื่อง หลังหลับไปตอนตีห้า สะพัดเกิดเรื่องบ่อยครั้ง นักท่องเที่ยวไต้หวันโดนขโมยเงินไป 7 หมื่น
เฟซบุ๊ก Sirichoke Cnix Valapol ซึ่งเป็นลูกค้าที่ใช้บริการบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กร้องเรียน ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ใช้บริการบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำ ที่เปิดให้เช่ารายวัน ย่านถนนจอมเทียนสาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 2 หลัง เพื่อนัดเพื่อนสังสรรค์และชมการถ่ายทอดสดฟุตบอล จนถึงเวลา 05.00 น. ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน
เมื่อตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเพื่อนคุยกันชั้นล่าง เหมือนมีเหตุอะไรเกิดขึ้น จึงเดินลงมาสอบถาม พบว่าคอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก ถูกขโมยหายไป ตนจึงมองหาคอมพิวเตอร์แมคบุ๊กของตัวเอง พบว่าหาไม่เจอ ถูกขโมยไปเช่นกัน เมื่อทบทวนเหตุการณ์ คาดว่า คนร้ายน่าจะลงมือลักทรัพย์หลังเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเข้านอน เพราะทั้งตนและผู้เสียหายอีกคนหนึ่งมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์แมคบุ๊กอยู่ที่เดิมมาตลอดจนกระทั่งเข้านอน คาดว่า คงวางแผนมาเป็นอย่างดี
เมื่อตนแจ้งพนักงานดูแลรีสอร์ตมาทราบเรื่อง ก็ได้ทำแจ้งความประสานให้ตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ โดยที่เจ้าหน้าที่ในที่พักแห่งนั้นไม่มีอาการตื่นตระหนก กระทั่งตำรวจกล่าวกับเจ้าหน้าที่ของที่พัก ว่า “พวกคุณไม่รู้เหรอ ว่าเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ควรทำความสะอาดบ้าน” เพราะจะทำให้เช็กรอยนิ้วมือได้ลำบากมากๆ จากนั้นตำรวจและสายสืบก็สอบถามข้อมูลกันไป แล้วเชิญตนมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา
เมื่อไปถึงที่นั่น ตำรวจหลายคนที่ทราบเหตุการณ์ ล้วนต่างบอกกันว่า ที่นี่โดนขโมยของเป็นประจำ แต่ที่โดนส่วนใหญ่ จะเป็นพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงทำให้ตนไม่พอใจกับที่พักแห่งนี้ ว่า เกิดเหตุขนาดนี้แล้ว ทำไมในบริเวณที่พักถึงไม่มีกล้องวงจรปิดไว้เลย ถามพนักงาน ก็บอกว่า มีกล้องตัวเดียวที่หน้าป้อมยาม ทั้งที่เกิดเหตุขโมยของบ่อยครั้ง ทางที่พัก ยังไม่คิดจะปรับปรุงตรงนี้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของหาย แต่มันยังส่งผลไปถึงความปลอดภัยในชีวิตของแขกผู้มาพักด้วย ถ้าเกิดอุกอาจเข้ามา มีแต่ผู้หญิงและเด็กเล็กตื่นมาพบเหตุการณ์เข้า เรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ อาจจะเกิดขึ้นก็ได้
“ค่าที่พักคืนนึง ที่ผมจ่ายไปคืนละ 2 หมื่นกว่าบาท ไม่ได้จ่ายกันถูกๆ การจ่ายขนาดนี้ ผู้มาพักไม่ได้นึกถึงแค่ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็คือ สิ่งสำคัญยิ่งกว่าอีก ไม่มีกล้องวงจรปิด แถมไม่ได้ลายนิ้วมือ สถานที่พัก ก็เมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คอมหาย มูลค่ามันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ข้อมูลงานสำคัญๆ ที่ผมเก็บไว้ในเครื่อง บอกเลย สูญเสียในส่วนนี้ไป ผมเสียหายหนักมากๆ เรื่องนี้ใครอยากรู้ไปถาม สภ.เมืองพัทยา ดูได้ ตำรวจที่นี่เค้ารู้กิตติศัพท์ที่พักนี้ดีกันแทบทุกคน ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับผมแล้ว ผมจะไม่ยอมเงียบเฉย อย่างน้อยผมหวังว่าสิ่งที่บอกบอกกล่าววันนี้ จะได้รับการแชร์ไปให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ใครต้องตกมาเป็นเหยื่อจากที่พักแห่งนี้อีก”
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากผู้เสียหายรายนี้แล้ว พบว่ายังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้เข้ามากล่าวถึงที่พักดังกล่าว โดยสรุปก็คือ โดนขโมยของ ซึ่งมีรูปถ่ายหลักฐานจากแขกท่านหนึ่งว่า เป็นผีมือพวกแม่บ้าน เพราะแทบทุกรายเจอเหมือนกันว่า ผลีผลามเข้ามาทำความสะอาดกันตั้งแต่ก่อนเวลา 12.00 น. โดยที่ไม่มีการขออนุญาตจากแขกผู้มาพัก จะถือวิสาสะเอากุญแจไขเข้ามาในบ้านเองเลย ซึ่งแม่บ้านที่นี่สืบรู้มาว่า ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา
อีกประการหนึ่ง คือ จองห้องไว้ แต่พอไปถึงถูกให้เปลี่ยนเป็นอีกห้องหนึ่ง ที่ดูแย่กว่าในรูปที่จองไว้เยอะ คาดว่า บ้านหลังที่บังคับให้ย้ายใหม่นั้น น่าจะราคาถูกกว่าที่จอง แขกหลายคนจำใจ เพราะมาถึงที่แล้วก็เหมือนต้องโดนบังคับว่าให้ต้องเอาห้องใหม่ไว้ เพราะจ่ายเงินไปแล้ว เดี๋ยวไม่มีที่พัก จากข้อมูลคือจะได้บ้านที่เล็กกว่า ซึ่งส่วนนี้อาจจะเป็นไปได้ที่พวกพนักงานวางแผนไว้ เพื่อกินส่วนต่างของราคาที่พักกันเองภายใน นอกจากนี้ ตอนเช็คเอาท์จะชอบมั่วว่า ของในตู้เย็นไม่ครบ แก้วหาย ของตกแต่งในบ้านหาย และเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกด้วย
ส่วนรีวิวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบว่า ชาวไต้หวันรายหนึ่งระบุว่า ตนพร้อมด้วยสุภาพสตรีชาวไต้หวันรวม 6 คน ได้เข้าพัก พบว่ามีคนร้ายแอบเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะบุกเข้าไปในห้องแล้วขโมยเงินไป 70,000 บาท และยังเคยเกิดคดีคล้ายกันอีก 7 ครั้ง ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ผู้จัดการโรงแรมไม่สนใจที่จะช่วยตำรวจในการดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงแรมดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับที่พักดังกล่าว (ขอสงวนชื่อ) เป็นผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Poolvilla บ้านพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และพื้นที่ทำบาร์บีคิวในสวน แล้วนำมาปล่อยเช่าให้ลูกค้าเป็นรายวันอีกครั้งหนึ่ง คล้ายรูปแบบโรงแรม โดยใช้ระบบการจองจากเว็บไซต์จองโรงแรมชื่อดัง อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่านิติบุคคลที่เป็นเจ้าของคือใคร เป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ รวมทั้งไม่พบว่าได้ขึ้นทะเบียนโรงแรมกับที่ทำการปกครองท้องถิ่น คือ เมืองพัทยา กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย หรือไม่
