วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระเถรานุเถระในเขต กทม. เข้าร่วมกว่า 300 รูป ประชาชนจำนวนมากต่างมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่าย
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 16.00 น. มหาเถรสมาคม ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม เป็นประธานในพิธี ใช้บทสวดสำหรับงานพิธีอวมงคล มีทั้งสิ้น 13 บท ประกอบด้วย ปุพพะภาคะนะมะกาโร, สะระณะคะมะนะปาโฐ, ปัพพะโตปะมะคาถา, อะริยะธะนะคาถา (ต่อ), อาทิตตะปะริยายะสุตตัง, สะติปัฏฐานะปาโฐ, ภาระสุตตะคาถา, ติลักขะณาทิคาถา, วิปัสสะนาภูมิปาโฐ, ปัฏฐานะมาติกาปาโฐ, ติอุทานะคาถา, ภัทเทกะรัตตะคาถา และภะวะตุ สัพพะมังคะลัง โดยสำนักงานพระพุทธศาสนา ได้นำหนังสือสวดมนต์มาแจกจ่ายแก่ประชาชน พร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขณะจัดพิธี “สวดพระพุทธมนต์ ถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” สำนักพระราชวัง ทำการปิดพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อยุติการให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ขึ้นสักการะพระแก้วมรกต ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พร้อมจัดสถานที่รองรับพระเถรานุเถระในเขต กทม. ที่เดินทางมาร่วมกว่า 300 รูป ประกอบด้วย กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะฝ่ายปกครอง ในระดับต่างๆ ทั้งฝ่ายธรรมยุต และมหานิกาย แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถชมความงดงามของวัดพระแก้วนอกพระอุโบสถได้ตามปกติ
จากนั้นในเวลาประมาณ 16.00 น. ยุติการให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ ทางประตูมณีนพรัตน์ เพื่อปรับให้ไปเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ส่วนนักท่องเที่ยวก็จะให้ยุติการเที่ยวชมภายในบริเวณวัดพระแก้ว แล้วปรับให้เข้าชมภายในพระบรมมหาราชวังแทน
สำหรับพื้นที่ที่เปิดให้พระสงฆ์และประชาชนมาร่วมในพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งสำนักพระราชวังตระเตรียมไว้ ประกอบด้วย บริเวณภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นสถานที่นั่งสวดมนต์ของพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ไปจนถึงเจ้าคณะปกครอง และพระสงฆ์จากวัดต่างๆ สำหรับประชาชนทั่วไป สำนักพระราชวังจัดเก้าอี้นั่งบริเวณหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม, บริเวณรอบกำแพงแก้วของพระอุโบสถ, บนศาลาราย 12 จุดที่อยู่รอบวัด และบริเวณพระระเบียงคดชั้นที่ 1 รอบพระอุโบสถ
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เผยว่า สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดโครงการอุปสมบททั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 10,000 รูป แบ่งเป็นจังหวัดละ 89 รูป แต่ตอนนี้มีการแจ้งความประสงค์เกินกว่าจำนวนที่กำหนดแล้ว ซึ่งการบวชอุปสมบทครั้งแรกจะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. 2559 เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) และครั้งที่สองจะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. 2560 เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) โดยอุปสมบทเป็นเวลาครั้งละ 9 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเวลาเริ่มพิธี “สวดพระพุทธมนต์ ถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ประชาชนจำนวนมากต่างมาจับจองพื้นที่เพื่อร่วมสวดมนต์กันเต็มพื้นที่ที่ทางสำนักพระราชวังจัดเตรียมไว้
นางสาวฉันทนา ดำรงสุนทรชัย วัย 58 ปี กล่าวว่า ตอนที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ประชวร จะมาสวดมนต์ให้พระองค์ท่านหายจากอาการประชวร แต่ครั้งนี้เป็นการสวดมนต์ถวายครั้งแรกหลังจากสวรรคต ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสวดได้จนจบหรือไม่
“ทุกครั้งที่รู้ว่ามีกิจกรรมที่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะชักชวนเพื่อนๆ ไปร่วมเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันนัดแนะเพื่อนๆ ที่เคยสวดมนต์ด้วยกันประมาณ 10 คน ซึ่งทุกคนต่างก็ตั้งใจมาสวดมนต์ให้ เราทุกคนขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย เพราะที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงเสียสละมามาก ทรงทำทุกอย่างเกินที่จะบรรยายได้หมด ซึ่งตัวเราเองก็ได้น้อมนำสิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาใช้ด้วย อย่างเรื่องความพอเพียงในการดำรงชีวิต ทุกวันนี้ใช้จ่ายอย่างประหยัด และยังช่วยเหลือผู้อื่นบ้างตามสมควรด้วยการตั้งโรงทานตามวัดและโรงเรียนต่างๆ” น.ส.ฉันทนา กล่าวน้ำเสียงสั่นเครือ
ด้าน นายอภิวัฒน์ เจริญราศรี วัย 60 ปี บอกว่า ทราบข่าวว่าจะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่วัดพระแก้ว วันนี้ก็ตั้งใจเดินทางมาร่วมงาน โดยเดินทางมาจากบ้านย่านบางขุนเทียน แล้วเข้ามาหาที่นั่งภายในวัดพระแก้วตั้งแต่บ่าย 2 ขณะสวดมนต์ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย พร้อมกันนี้ ยังได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องความพอเพียงมาใช้ด้วย คือ มีเท่าไหร่กินเท่านั้น ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่สุรุ่ยสุร่าย มีน้อยก็ใช้น้อย ไม่หยิบยืมให้มีหนี้สินติดตัว
สำหรับพิธีสวดพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครั้งต่อไปจะจัดในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2559