xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรหลั่งไหลร่วมถวายสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตลอดช่วงบ่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศยังคงเดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ตลอดช่วงบ่าย ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

วันนี้ (29 ต.ค.) บรรยากาศในช่วงบ่ายที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นที่ประดิษฐานพระโกศพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังคงเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ ที่ต่างพร้อมใจกันมาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก แถวประชาชนที่มาต่อคิวรอถวายสักการะพระบรมศพ ยังคงยาวเหยียดตั้งแต่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปจรดท้องสนามหลวง ทั้งเริ่มมีประชาชนที่เป็นหมู่คณะจากจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทยอยเดินทางมาต่อแถวร่วมถวายความอาลัยต่อเนื่อง

ขณะที่กลุ่มลูกเสือเนตรนารีจิตอาสา ร่วมกันนำรถเข็นวีลแชร์มาให้บริการ ผู้พิการ คนชรา และผู้ป่วย เพื่อส่งต่อจากประตูวิเศษไชยศรี เข้ามายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยไม่ต้องให้ต่อแถวรอเป็นเวลานาน พร้อมกันนี้ยังมีหน่วยบริการรถเข็นจิตอาสา ที่บริเวณประตูกำแพงแก้วฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งเป็นประตูทางออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ก่อนถึงประตูสรีสุนทร เพื่อให้บริการด้วย เนื่องจากประชาชนจำนวนมากที่ลงมาจากการถวายสักการะพระบรมศพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ต่างเดินออกจากประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยอาการสะอื้นไห้ ปาดน้ำตาเดินออกมา เพราะยังทำใจยอมรับความสูญเสียไม่ได้ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง และทหารจากหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ต้องร่วมกันดูแลด้วยการแจกจ่ายยาดมให้ผู้ที่มีความโศกเศร้าไม่ให้ต้องเป็นลมหน้ามืด

ด.ญ.วรกมล แซ่จ๋าว อายุ 12 ปี และ ด.ญ.อุไรวรรณ เกตุเหล็ก อายุ 13 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่แต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าเดินทางมากับคณะจังหวัด โดยบอกว่า ทราบดีว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทำสิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อประชาชน และยังช่วยพวกเราที่เป็นชาวเผ่าด้วย หมู่บ้านของเราได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกผัก เลี้ยงไก่และหมูกินกันในหมู่บ้าน เวลาเราทำสิ่งไหนแล้วรู้สึกเหนื่อย ครูจะบอกเสมอว่า มีผู้ที่เหนื่อยกว่าเรามาก นั้นก็คือ ในหลวง พระองค์ทรงเหนื่อยมาก ทำให้เรามีกำลังใจ และตั้งใจจะเป็นคนดีของพ่อแม่ ตั้งใจเรียน พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริต่างๆ มาใช้ เพื่อตามรอยเท้าพ่อ

ส่วน นางวัลภา ตั้งศรีสกุลไทย อายุ 54 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงให้ความช่วยเหลือชาวเขามาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ รุ่นพ่อแม่เล่าให้ฟังเสมอว่าพระองค์ทรงเข้ามาช่วยให้เราได้รู้จักการเกษตร เพาะปลูกผลไม้ พืชล้มลุกแทนการปลูกฝิ่น พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก ลูกหลานได้เรียนหนังสือ มีหน้าที่การงานที่ดี บางคนได้รับราชการ นอกจากนี้ชาวเขาบางคนได้รับพระมหากรุณาธิคุณได้รับสัญชาติไทย ได้เป็นพสกนิกรของพระองค์

ด้าน น.ส.รมณ รัตนพาหุ อายุ 38 ปี พร้อมด้วย น.ส.ภัทรวรินทร์ วัย 20 ปี , นายพัลลภ สุขนิมิตร ผู้พิการทางสายตา จากวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล นัดพบกันพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนผู้พิการทางสายตา และสายตาปกติ อีกกว่า 10 ชีวิตมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพในช่วง 9 โมงเช้า โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาถวายสักการะด้านในด้วยความสะดวก น.ส.รมณ เผยว่า ตัวเองและเพื่อนๆ เป็นนักศึกษาในวิทยาลัยที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อสอนให้คนตาบอดได้ใช้ชีวิตได้ปกติ สามารถประกอบวิชาชีพได้ ซึ่งทรงมีพระเมตตา เหมือนดั่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสถานภาพไหน วันนี้รู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องมาสักการะพระบรมศพพระองค์ท่าน และไม่คิดว่าวันนี้จะได้เข้ามาเพราะเพื่อนๆ บอกว่าคนเยอะมาก แต่ก็รู้สึกดีใจที่คนไทยมีหัวใจรักพ่อหลวง มารวมตัวกันมากมาย ตอนที่เข้ามากราบพระบรมศพ ถึงมองไม่เห็นแต่ก็คิดถึงขอให้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย ทุกๆ อย่างที่ทรงทำ ที่เราได้ยินจากโทรทัศน์มาตลอด จะน้อมนำมาใช้ โดยเฉพาะเรื่องความอดทน ไม่ย่อท้อ ทุกคนเกิดมาต้องต่อสู้ ท่านต่อสู้เพื่อให้พสกนิกรอยู่ดีมีความสุข ส่วนตัวเองเกิดมาพิการก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด ใช้ชีวิตให้ดี เป็นคนดี มีความสุขที่สุดเช่นกัน

ขณะที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานอาหาร ผลไม้ ขนมหวาน น้ำดื่ม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารในกองงานส่วนพระองค์ และหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ นำมาแจกจ่ายประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ส่วนอาหารที่นำมาแจกกับให้ประชาชนในวันนี้นั้น เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ คาดว่าจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน โดยเพิ่มในส่วนของอาหารทุกมื้อตั้งแต่เช้า กลางวัน และมื้อเย็น รอบละ 4 พันชุด โดยอาหารพระราชทานแต่ละมื้อนั้นล้วนเป็นอาหารจากร้านเด็ดดังในกรุงเทพฯ โดยช่วงเช้าจะเป็นเส้นหมี่กระเพาะปลา มื้อกลางวัน ขนมจีบซาลาเปา ผัดไทยกุ้งสด แบล็คแคนยอน ส่วนอาหารว่างที่บริการในช่วงบ่ายก็ยังคงเป็นขนมไทยหลากชนิดอีกเช่นเคย และมื้อเย็นเป็นข้าวราดพะแนงไก่-หมู และข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ส่วนในวันพรุ่งนี้ได้เตรียมอาหารพระราชทานไว้อีกจำนวนรอบละ 4,000 ชุดอีกเช่นกันประกอบด้วยมื้อเช้า เป็นโจ๊กหมู-ตับ นมหนองโพ มื้อกลางวัน แกงส้ม ขนมจีบ ซาลาเปา และมื้อเย็นเป็นผัดไทย ไข่พะโล้ ไว้บริการประชาชนทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมามีฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก แต่พสกนิกรผู้ภักดีและเต็มไปด้วยแรงศรัทธา กลับไม้ได้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคขวากหนามแม้แต่น้อย บางคนได้หลบในเต้นท์ที่เจ้าหน้าที่กางไว้ให้ บ้างก็ใส่เสื้อกันฝนที่เตรียมมา บางคนก็นำร่มที่พกมาขึ้นมากางแล้วยังเผื่อแผ่ร่มกันฝนให้กับคนที่อยู่ข้างๆด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช






























































































































































กำลังโหลดความคิดเห็น