ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมลงนามถวายความอาลัย แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
วันนี้ (27 ต.ค.) บรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม เมื่อเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร บริเวณศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมหาราชวังเป็น ซึ่งมีพสกนิกรเดินทางมาไม่ขาดสายตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่
ผศ.ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน จ.นครปฐม นำคณะผู้บริหาร บุคลากรและนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 จำนวนกว่า 500 คน เดินทางจากจังหวัดนครปฐมตั้งแต่ 04.00 น. เข้ามาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์เป็นกลุ่มแรก กล่าวว่า วันนี้เรามากันทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อมารำลึก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน มหาวิทยาลัยได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำคำสอนในพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 โดยให้มีการเรียนการสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในหลักสูตร การบริหารจัดการในมหาวิทยาลัย โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นต้นแบบในการดำรงชีวิตที่พระองค์ทรงทำให้เห็นจากความพอเพียงและความมีคุณธรรม นอกจากนี้ ได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ในการช่วยเหลือสังคม เรามีคณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายวิภาคศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาของเราได้ออกพื้นที่ไปส่งเสริมดูแลสุขภาพอนามัย วิจัยสิ่งแวดล้อม ในสังคมชุมชนโดยรอบ จากนี้ไปคณะผู้บริหารและเหล่านักศึกษาจะไม่เพียงทำดีเฉพาะช่วงที่พวกเรากำลังโศกเศร้า แต่เราจะทำความดีตลอดไป เพราะพระองค์จะทรงอยู่กับพวกเราตลอดไป อีกทั้งหากเรามีความเคารพ มีน้ำใจ รู้รักสามัคคีต่อกัน ประเทศชาติก็จะยิ่งเจริญขึ้น
น.ส.นภัสนันท์ วงศ์ประภาศรี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสหวิทยาการ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยคริสเตียน เผยว่า เพราะท่านเป็นในหลวงของคนไทย ไม่มีใครในแผ่นดินจะไม่เสียใจ รู้สึกสะเทือนใจมาก พระองค์ท่านทรงทำประโยชน์หลายอย่างไว้ให้พวกเรา อีกทั้งทรงเป็นแบบอย่างให้เรานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ความประหยัด ที่พระองค์ทรงใช้ยาสีฟันบีบจนหมดหลอด หรือการใช้กระดาษอย่างคุ้มค่า ขณะที่ในเรื่องวิชาชีพด้วย เรียนด้านการบัญชีเราต้องมีความซื่อสัตย์ ทำบัญชีตามความเป็นจริง และพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด
นางมาลี ตะวัน และ นางศิริวรรณ ธรรมศรี ประชาชนชาวมุสลิมจากจังหวัดพังงา เดินทางมาโดยรถทัวร์ ก่อนมารอสักการะพระบรมศพตั้งแต่ 06.30 น. เผยว่า อยากใช้เวลาตรงนี้ได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่านให้มากที่สุด พระองค์เหนื่อยเพื่อพวกเรามาตลอดชีวิต จึงตั้งใจมาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่อย่างไรท่านก็ยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ ตอนแรกก่อนจะมายังไม่แน่ใจว่าใส่ชุดมุสลิมมาสักการะพระบรมศพขึ้นไปยังศาลาสหทัยได้ แต่ด้วยพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ทรงแบ่งแยกชั้นวรรณะ และศาสนา พระองค์ทรงมีพระเมตตาช่วยเหลือประชาทั่วทุกสารทิศ แม้ไม่เคยเฝ้าฯ รับเสด็จฯ แต่รับรู้ได้ถึงความรักที่ทรงมีต่อพวกเรา โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผัก ผลไม้ที่กินได้ มีเหลือก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ที่สำคัญ เราจะรักษาแหล่งท่องเที่ยว แผ่นดินของไทย ทรัพย์สมบัติของเราให้สืบทอดต่อไปยังลูกหลานไม่ตกไปเป็นของคนต่างชาติ
ทั้งนี้ สำนักพระราชวัง แจ้งว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ต.ค. เวลา 17.00 น. จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ประดับเหรียญ และในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค. เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดถวายพระพร รับพระราชทานฉัน ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา สดับปกรณ์ ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ ประดับเหรียญ สำหรับพระราชพิธีกุศลปัณรสมวาร เป็นการทำบุญอุทิศถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคต ครบ 15 วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช