บก.ข่าวช่องพีพีทีวี เตือน นายกฯ เรื่องความสง่างาม หลังพบ “ปรีชา จันทร์โอชา” ขยิบตาแจกงานรับเหมาก่อสร้างให้ลูกชายตัวเอง ชี้ กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นน้องชายนายกฯ แต่มันคือความสง่างาม ไม่ต่างจากนักการเมืองที่ด่าทุกวัน แต่ถ้าตระกูลจันทร์โอชา ขาวสะอาดไม่ได้ หมาที่ไหนจะเชื่อ
เฟซบุ๊ก Viriya Satien ของ นายเสถียร วิริยะพรรณพงศา บรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “ถึงพี่น้อง “จันทร์โอชา” ระวังจะไม่เหลือ “ความสง่างาม”
ไหน ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงเจตจำนงแรงกล้าว่าจะกวาดล้างคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ไปส่องไฟฉงไฟฉาย ต้านโกง จะเข้ามาปัดกวาดบ้านเมืองให้เรียบร้อย ล้างเผ่าพันธุ์พวกนักกินเมืองให้สิ้นซาก
กรณีที่เกิดกับน้องชายแท้ ๆ ของท่าน มันจึงกลายเป็นเครื่องหมายคำถามว่า ท่านจะล้างโกงจริง ๆ หรือแค่สร้างภาพ หรือล้างเฉพาะฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าเป็นพวกกู พี่น้องกูไม่เป็นไร
พฤติกรรมของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และบุคคลในครอบครัวที่สุดจะคลุมเครือ สังคมสงสัยว่าใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ลูกเมียหรือไม่
ตั้งแต่เรื่องการสร้างฝายที่ใช้งบหลวง แต่ไปตั้งชื่อเมียคือ “นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา” แถมเงินหลวงพาเมียและคณะไปทำพิธีเปิดกันอย่างเอิกเกริก ตกลงนี่มันฝายของประเทศหรือฝายของน้องสะใภ้นายกฯ กันแน่
เรื่องฝายอาจจะพอกล้อมแกล้มว่าเป็นงานของสมาคมแม่บ้านกลาโหม เขาทำกัน ก็เนียน ๆ ไป
แต่เรื่องที่ลูกชาย พล.อ.ปรีชา คือ นายปฐมพล จันทร์โอชา ไปตั้งบริษัท ซึ่งต่อมาสำนักข่าวอิศรา บอกว่า บริษัทนี้ตั้งอยู่ในค่ายที่พักทหาร แล้วเข้ามารับงานของกองทัพภาค 3 ที่พ่อเป็นแม่ทัพอยู่นั้น มันทำให้ชาวบ้านเขามองว่าพ่อขยิบตาแจกงานให้ลูกตัวเองหรือไม่
แถมเมื่อเปิดใบเสนอราคาบริษัทหลานนายกฯ ก็พบว่า หลายโครงการที่มูลค่าเป็นสิบ ๆ ล้าน นายปฐมพล เสนอราคามาต่ำกว่าราคากลางเพียงหมื่นกว่าบาท
ยกตัวอย่างแค่ 2 โครงการ
1. โครงการก่อสร้างโรงทหาร ห้องน้ำ และส้วมทหาร มณฑลทหารบกที่ 36 ค่ายขุนผาเมือง ลูกชาย พล.อ.ปรีชา เสนอราคา 13,790,900 บาท ขณะที่ราคากลางอยู่ที่ 13,805,900 บาท เท่ากับเสนอต่ำกว่าราคากลาง 15,000 บาท
2. โครงการสร้างอาหารกรมทหารราบที่ 14 ค่ายวชิรปราการ จ.ตาก ราคากลาง 8,160,100 บาท บริษัทลูก พล.อ.ปรีชา เสนอมาที่ราคา 8,145,100 บาท ต่างกัน 15,000 บาท เช่นกัน
วันนี้กฎหมายคงเล่นงานอะไรไม่ได้หรอก เพราะ พล.อ.ปรีชา คือ น้องชายนายกฯ และไม่ใช่นายกฯ ธรรมดา แต่เป็นนายกฯ ที่มีมาตรา 44 อยู่ในมือ ใครจะกล้าหือ
แต่เรื่องเหล่านี้มันคือ “ความสง่างาม”
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ว่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถูกจับได้ว่าเอาเงินรัฐบาลซื้อของให้ครอบครัว ซื้อการ์ตูนให้ลูก ปรากฏว่า แกลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบทันที สิ่งนี้คือความสง่างามของคนและระบบการเมืองของเขา
การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่กอดกฎหมายอย่างเดียว แต่มันอยู่ที่ความสง่างามในการดำรงตำแหน่งด้วย การถูกตรวจสอบทุจริตแล้วอ้างแต่กฎหมาย ไม่มองถึงความสง่างาม ท่านก็ไม่ต่างกับนักการเมืองที่ด่าเขาอยู่ทุกวันหรอก แต่ก่อนนักการเมืองก็พูดแบบนี้แหล่ะ พอถูกตรวจสอบก็ถามถึงใบเสร็จ ถามถึงข้อกฎหมาย
วันที่ยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 ฝ่ายทักษิณ ก็บอกว่าตามกฎหมายแล้วเขามีสิทธิเป็นรัฐบาลต่อ ท่านยังยึดอำนาจเขาเลย เพราะอะไร ก็เพราะท่านมองว่าผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่กฎหมายอย่างเดียว แต่ต้องมีความสง่างามด้วย การที่มีคนมาเป่านกหวีดไล่ทั้งเมือง มันไม่สง่างามแล้วท่านจึงรู้สึกชอบธรรมที่จะยึดอำนาจ
มันก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่น้องชาย น้องสะใภ้ หลาน ๆ ของท่านนายกฯ ทำ มันอาจจะไม่ผิดกฎหมาย แต่ถามว่ามันสง่างามหรือไม่ ถ้าปฏิรูปวงศ์วานว่านเครือให้สะอาดไม่ได้ แล้วไปพูดว่าจะปฏิรูปบ้านเมือง สังคม หมาที่ไหนจะไปเชื่อ”