เปิดเคล็ดลับความแข็งแรง “คุณยายมารศรี” นักพากย์-นักแสดง ศิลปินแห่งชาติ อายุ 95 แต่ยังสตรอง คนแห่ชื่นชมและอยากรู้ว่าทำอย่างไร คุณยายถึงยังแข็งแรงได้ขนาดนี้?
สำหรับคนที่ชอบดูหนังดูละคร ย่อมรู้จักดารานักแสดงและนักพากย์ให้กับหนังและละครมาแล้วนับร้อยเรื่องผู้อาวุโสท่านนี้ คุณยายเป็นนักพากย์มาตั้งแต่หนังฟิล์ม 16 มม. มาจนถึงยุค 35 มม. ซึ่งมักจะพากย์คู่กับ “รุจิรา” หรือ หม่อมหลวงรุจิรา อิศรางกูร จนได้ชื่อว่าเป็นนักพากย์คู่ขวัญที่คนชื่นชมกันมาก และเวลาต่อมา ก็กลายเป็นคู่สามีภรรยากันในชีวิตจริง
ด้วยความมุ่งมั่นต่อการสร้างผลงานมาอย่างยาวนานกว่า 40-50 ปี คุณยาย “มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา” ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2542
อย่างไรก็ดี ถึงแม้วันคืนแห่งชีวิตจะใกล้ชิดร้อยปีเข้าไปแล้ว แต่ “คุณยายมารศรี” ก็ทำในสิ่งที่แม้กระทั่งคนหนุ่มคนสาวยังต้องทึ่ง
ตามภาพข่าวที่โด่งดังทางโลกออนไลน์ บอกเล่าว่า นักแสดงอาวุโสซึ่งอายุอานาม 95 ปีแล้วใน พ.ศ.นี้ สามารถลงสระว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังดูแข็งแรงมากกว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในวัยเดียวกัน
มาดูกันว่า คุณยายมีเคล็ดลับอะไรในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และอายุยืนถึงเพียงนี้?
• ถามถึงเคล็ดลับการดูแลสุขภาพหน่อยค่ะว่ายายมารศรีทำอย่างไรให้แข็งแรงแบบนี้คะ
เริ่มจากการการออกกำลังกายก่อนนะ การออกกำลังกายสำหรับยาย หมายความว่าเรานอนหลับพักผ่อนเต็มที่แล้วตื่นนอนขึ้นมา เราก็ต้องมาออกกำลังกาย เพราะระหว่างที่เรานอน เราไม่ได้บริหารร่างกาย ยายจะตื่นมาตั้งแต่ 6 โมง พอตื่นขึ้นมา พอเห็นแสงสว่าง เห็นอะไรต่อมิอะไรแล้ว มีความรู้สึกว่า อ่อ…นี่บ้านเรานี่หว่า (หัวเราะ) พอรู้สึกแบบนั้นแล้ว เราก็จะเริ่มออกกำลังกาย จะออกแถวๆ ที่นอนเราเลย
ยายชอบยกขา ยกแขน เสร็จแล้วก็จะเดินอยู่ในห้อง นับไปเรื่อยๆ ให้พ้น 20 30 40 50 60 เดินไปแบบนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งครบสองร้อยก้าวทำทุกวันๆ จะนับ 1-100 ย้อนกลับไปนับใหม่จนครบสองร้อย นับเพื่อให้มีเวลา ให้เราได้คิดอะไรต่อมิอะไรบ้าง บางครั้งก็มีวิ่งเหยาะๆ ในห้องบ้าง (หัวเราะ) จะออกกำลังทุกส่วน ให้ร่างกายเราเคลื่อนไหว พอออกกำลังกายเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า เสร็จแล้วก็รับประทานอาหารเช้า นี่แหละคือชีวิตประจำวัน
อย่างก่อนนอนก็จะมีทำเหมือนกายภาพ ยกแขน ยกขา วิดพื้นเองด้วย ทำให้ร่างกายเราเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถ้าอยู่เฉยๆ ถ้าเราไม่ทำมันก็จะไม่มีชีวิตชีวา ถ้าทำแล้ว ความสุขมันจะเกิดขึ้นในหัวใจเราเอง เราคนแก่อยู่แล้ว เราต้องนึกอยู่แล้วว่าต่อไปเราจะอยู่ได้นานแค่ไหน มันก็จะมีความคิดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อารมณ์คนแก่น่ะลูก (ยิ้ม) แต่อันนี้ต้องดูร่างกายของแต่ละคนด้วย เพราะบางคนอาจจะยังไม่ชิน อาจทำให้ไม่สบายขึ้นมาได้ แต่ยายทำทุกวันเลยชินแล้ว
• แบบนี้คุณยายมารศรีออกกำลังกายเป็นประจำเลยไหมคะ
เป็นประจำ แต่ก็จะมีวันหยุดบ้าง อย่างวันเสาร์อาทิตย์ก็จะพักบ้าง แล้วก็กลับมาทำใหม่ ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้างอะไรบ้าง ส่วนท่าบริหารต่างๆ ยายจะคิดขึ้นมาเอง อย่างวันนี้เมื่อยขาจังเลยนะ เราขี้เกียจไปนวด เพราะไปแล้วเสียสตางค์เปล่าๆ เราก็จะบริหารของเราเอง ก็จะยกขาขึ้น ยกขาลง จนกระทั่งขาเราหายดี แล้วพัก หรือจะลุกขึ้นมาดื่มน้ำบ้าง แล้วก็ยกแขนต่อ ทำไปเรื่อยๆ ทำทุกวันๆ ร่างกายมันก็จะชิน ถึงเวลาเราก็ต้องทำแล้ว เพราะถ้าไม่ได้ออกกำลังกายก็จะเหมือนกับว่าเราขาดอะไรไปสักอย่าง ถึงเวลาก็ต้องทำ พอทำทุกอย่างเสร็จแล้วเราก็สบายใจ
• อายุยืนขนาดนี้ แสดงว่าดูแลตัวเองดีมาตั้งแต่ยังสาวๆ ใช่ไหมคะ
(ยิ้ม) ยายชอบออกกำลังกายมาตั้งแต่สาวๆ แล้วนะ เป็นคนชอบเล่นกีฬา อย่างวิ่งเปี้ยว ว่ายน้ำ อะไรต่อมิอะไร ทำมาทุกอย่าง ชอบมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเลย ว่ายน้ำก็ว่ายที่แม่น้ำเจ้าพระยาเลย ชอบว่ายกับเพื่อนรุ่นๆ เดียวกัน อารมณ์เหมือนเล่นสนุกมากกว่า แต่พอแก่แล้วก็หันมาออกกำลังกายแบบคนแก่
ตอนสาวๆ ยายจะชอบดูแลสุขภาพของเราเองอยู่แล้วด้วย อย่างเราไม่สบายเราก็ต้องหยุดพักบ้าง พอรู้สึกว่าเราแข็งแรงเราก็จะทำใหม่ ให้ร่างกายได้หยุดพักบ้าง
• แล้วเรื่องการกินล่ะคะ ในแต่ละวันกินอะไรบ้าง มีอาหารที่ต้องงดบ้างไหมคะ หรืออาหารอะไรที่ควรทานบ่อยๆ บ้าง
ทุกวันนี้ เราทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จก็จะลงมาทานข้าวต้ม เป็นข้าวต้มปลาบ้าง แล้วก็ไข่ลวกหนึ่งใบ อาหารโปรดของยายจะเป็นอาหารญี่ปุ่น (หัวเราะ) ชอบมาก เพราะหลานชายชอบทานด้วยก็จะพากันไปทานบ่อยๆ ยายจะชอบทานปลาแซลมอน อย่างปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว ปลานึ่ง เพราะอายุเราป่านนี้แล้วด้วยเราจะไปกินอาหารเหนียวๆ แข็งๆ ก็กินไม่ได้แล้ว เคี้ยวไม่ไหว ย่อยยากด้วย ไปกินปลาที่เขานึ่งมาขาวๆ อ่อนๆ ดีกว่า
อีกอย่าง ยายชอบทานผลไม้เป็นที่หนึ่งเลยนะ กลางคืนก่อนนอนต้องมีผลไม้ ต้องให้คนเขาปอกเปลือกจัดมาให้ จะทานผลไม้ทุกฤดู จะต้องทานทุกคืนก่อนนอน หรือดึกๆ หน่อยก็จะดื่มนมโอวันติลบ้าง ตื่นเช้ามาก็จะสดชื่น
ส่วนตัวยายไม่ต้องงดอาหารอะไรนะเพราะหมอไม่ได้ห้ามทานอะไรเลย สามารถทานได้ทุกอย่าง ขนม นม เนยก็กินได้แต่ต้องกินที่กินง่ายๆ อย่างถั่ว เคี้ยวยากๆ ก็จะไม่ค่อยกินเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แต่ที่จะไม่ค่อยได้ทานมากจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู อาหารที่ย่อยยากๆ กินไม่ได้แล้ว อายุป่านนี้แล้ว (หัวเราะ)
• ชีวิตในหนึ่งวันของคุณยายมารศรีทำอะไรบ้างคะ
ตื่นนอน ออกกำลังกาย อาบน้ำ ทานข้าวเช้าเสร็จ เราก็จะนั่งๆ นอนๆ ดูทีวี วันๆ ก็ไม่ได้ทำอะไร หรือตอนเย็น บางทีเราก็จะมีเข้าครัวทำอาหารกินเองบ้าง หรืออย่างวันไหนเบื่อ เราก็จะไปจ้างเขาทำบ้าง แต่ส่วนมากจะทำเอง เพราะมันอร่อยกว่าที่เราซื้อเขากิน เพราะเรานึกอยากกินอะไร เราก็จะทำ อยากกินรสชาติไหน เราก็ปรุงเอง เพราะยายกินไม่เยอะ จะกินแค่นิดๆ หน่อยๆ ชอบทำอะไรง่ายๆ กินเองมากกว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีทำเองอยู่ เพราะการทำอาหารกินเองก็ได้ออกกำลังกายไปด้วย เพราะได้บริหารร่างกาย แต่ก็มีคนช่วยไม่ได้ทำคนเดียว
ส่วนการพักผ่อน ก็จะแล้วแต่เลย ง่วงเมื่อไหร่ก็นอน กลางวันก็จะมีนอนงีบพักผ่อนบ้าง ดูทีวีบ้าง บ่ายสามโมง สี่โมงก็เข้าครัว ทุกวันนี้ บางทีก็ยังมีไปเดินห้างสรรพสินค้าอยู่นะ อย่างวันไหนเราว่างๆ อยากจะไปเที่ยวเราก็จะไปตามห้างฯ ไปดูข้าวของเครื่องใช้ที่มาใหม่ๆ เราชอบอะไรก็จะซื้อมา (หัวเราะ)
• อายุ 95 แล้วแต่ยังดูแข็งแรงอยู่เลย นอกจากจะรักษาสุขภาพกายแล้ว มีวิธีรักษาสุขภาพใจอย่างไรบ้างคะ
เราจะชอบคิดว่าให้เรามีความสุขอยู่ไปวันๆ ก็ไม่ได้ไปคิดอะไรมากแล้ว แต่มันก็มีบ้างที่รู้สึกเหงา เพราะชีวิตเราผ่านมาก็ไม่ใช่น้อยแล้ว ชีวิตช่วงสุดท้ายก็ควรจะสรุปเสียบ้าง เราต้องทำใจของเราไม่ให้มีเรื่องมีราว ไม่ไปทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับใคร เราก็อยู่ตามประสาคนแก่ อยู่อย่างสงบๆ ไป ดูทีวีบ้าง นอนพักผ่อนบ้าง ไปเที่ยว ไปกินข้าวกับครอบครัวบ้าง เราก็จะได้ผ่อนอารมณ์ อีกอย่าง ยายชอบไปปฏิบัติธรรม ไปทำบุญนะ เพราะลูกสาวคนเล็กชอบพาไป เขาจะเคร่งทางนี้มากๆ (ยิ้ม)
หลายบ้านบอกผู้สูงอายุดื้อ แต่ยายไม่ดื้อนะ ยายว่าง่ายจะตาย (หัวเราะ) ไม่เคยดื้อเลย เรามีความเข้าใจกัน ลูกหลานมีความเข้าใจกันหมด ไม่มีอะไรต้องมาคอยระแวง เราอยู่กันอย่างสบายๆ ถ้าบ้านไหนคนแก่ดื้อ ก็ต้องคุยกันดีกว่า คุยกันแบบครอบครัว อย่าไปดุ เปิดอกคุยกัน อย่าไปบังคับ เพราะยิ่งบังคับ ยิ่งต่อต้าน คนแก่จะยิ่งน้อยใจมาก เราต้องคุยกันดีๆ เพราะคนแก่จะต้องการความอบอุ่นมากกว่า
• อายุขนาดนี้มีหลงๆ ลืมๆ บ้างไหม มีการบริหารสมองอย่างไร เพราะได้ข่าวมาว่าคุณยายยังจำแม่นมากๆ
ทุกวันนี้ เราก็จำทุกอย่างได้แม่นยำนะ เพราะเราเล่นละครมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วย ก็จะทำให้เรามีความจำที่ดีอยู่แล้ว วิธีบริหารสมองของยายก็จะไปกับลูกสาวคนโต เขาจะไปเล่นไพ่แบบที่สมัยโบราณเขาเล่นกัน ที่เรียกว่าใบตอง เวลาเขาไป เขาก็จะดึงยายไปด้วยให้ไปเปิดสมอง มันจะช่วยบริหารสมอง มันจะทำให้เราไม่คิดอะไร จะคิดถึงแค่ไพ่ที่เราเล่น มันก็คือความสุข แต่ก็นานๆ ไปที เพราะไปบ่อยๆ ก็ไม่ไหว
ไพ่ตองช่วยบริหารสมองนะ เราไม่ได้นึกไปถึงการพนันอะไร จะคิดแค่ว่ามันได้ใช้สมองในการคิด ตรงนี้หมอแนะนำให้เล่นเลยนะ เพราะมันจะช่วยออกกำลังทางสมอง สมองจะได้คิด จำได้ จริงๆ ถ้าให้ท่องบทก็ยังจำได้นะ ตอนนี้ฉันก็นึกๆ อยู่เหมือนกันนะว่าถ้าหากมีคนมาจ้างเล่นละครอีก ก็น่าจะเล่นได้นะ (หัวเราะ) แต่ก็คงเล่นได้แต่ไม่ใช่บทที่ยาวๆ
• มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้อายุยืนบ้างไหม หรืออยากแนะนำอะไรให้ผู้สูงวัยได้หันมาดูแลสุขภาพบ้างคะ
เราจะไปคิดทำไม ยายจะไม่คิดถึงเรื่องเป็นเรื่องตาย เราก็อยู่ของเราไปวันๆ อย่าไปคิดอะไรเหลวไหล เหนื่อยหน่อยเราก็นอนพัก พยายามทำจิตใจไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้ชีวิตของเรามีความสุขไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะบางที อย่าว่าแต่คนแก่เลย จะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าคิดมาก มันจะทำให้กังวล ทำให้เครียด จะทำให้มีความไม่สบายใจขึ้นมา ยายเลยจะไม่ค่อยเครียด ปล่อยวาง แต่อาจจะมีบ้าง แต่ก็จะไม่ค่อยคิดจะทำจิตใจให้สบายมากกว่า
อย่างเดือน สองเดือนก็จะวนเวียนมาหาหลาน ไปมาหาลูกสาวคนนี้บ้าง กลับไปอยู่กับลูกสาวคนนั้นบ้าง ก็จะสลับกันไปๆ มาๆ ตื่นขึ้นมาก็ออกกำลังกายบ้างถ้ายังมีแรง ทำไปตามนั้นให้เคยชิน ยกแขน ยกขา เหมือนกายภาพธรรมดา การกินก็กินอะไรที่มีประโยชน์
• อัปเดตสุขภาพคุณยายตอนนี้หน่อยค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีโรคประจำตัวบ้างหรือเปล่า ต้องไปหาหมอหรือเช็กสุขภาพอะไรอย่างไรบ้างไหม
สุขภาพตอนนี้เราก็ทำเหมือนที่เคย เจ็บป่วยก็ไปหาหมอบ้าง แต่มันก็ไม่ได้อะไรหนักหนา มันก็เป็นตามประสาคนแก่ สามวันดี สี่วันไข้ ธรรมดาคนเราจะดี จะสบายกายสบายใจตลอดไปไม่ได้หรอก มันจะต้องมีเจ็บป่วยบ้าง มีความสุขความทุกข์บ้างผสมกันไป อยู่ที่เราจะจัดการมันยังไง ส่วนชีวิตมันจะเป็นไปยังไง เราก็ปล่อยมันไป เรามีความสุขที่ได้เจอหลานบ้าง เจอลูกบ้างอะไรบ้าง เรามีลูกหลานคอยเอาอกเอาใจอยู่เรื่อย เราก็สบายใจ ลูกหลานสบายใจ เราก็สบายใจด้วย เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เรามีทุกอย่างเพอร์เฟกต์หมดแล้ว เราก็สบายใจดี ชีวิตคนเราก็แบบนี้นะ ถ้าจิตใจมีความสุข มันก็จะส่งออกมาภายนอกเอง (ยิ้ม)
ทุกวันนี้ก็ยังเดินเหินด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีอะไรพยุง ก็จะมีบ้างที่ให้เดินช้าๆ เพราะเราเป็นคนเดิน เขาก็จะให้เดินทีละก้าวๆ ฉันทำไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) จะชอบเดินไวไปก่อนแล้ว ก็จะโดนดุบ้าง แต่เราก็จะคิดว่ามันเดินไปได้นี่หว่า (หัวเราะ)
ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเป็นอะไรมาก จะเป็นก็แค่ภูมิแพ้อากาศ เวลาอากาศเปลี่ยน เป็นหวัดบ้าง เป็นไข้บ้าง อย่างความดันก็จะมีนานๆ ที ไม่ได้เป็นอะไรบ่อยๆ เป็นหนักๆ จะไม่มีเลย ถือว่าโชคดีมากกับอายุ 95 ปีแบบนี้ เพราะพอเรารู้ว่าเราจะเป็นอะไรหรือเวลาไม่สบายก็จะรีบไปหาหมอเพื่อรักษาก่อน เราจะเริ่มตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก่อนที่จะเป็นอะไร ตอนนี้ก็เริ่มหูไม่ค่อยได้ยินบ้างแล้ว (หัวเราะ)
• ท้ายนี้ในชีวิตมีอะไรที่อยากทำอีกบ้างไหมคะ
นั่นน่ะสิ ก็ยังนึกไม่ออกว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรอีกบ้าง (หัวเราะ) ทำมาแทบทุกอย่างแล้ว ทีนี้ เราก็ปล่อยชีวิตให้เราเป็นไป ปล่อยตามชีวิต ปล่อยไปตามเรื่อง ปล่อยไปตามใจตัวเองไป เราจะตายเมื่อไหร่ก็สุดแล้วแต่ ถ้ามันจะถึงเวลาไปแล้ว เราก็ยอมรับค่ะ (หัวเราะ)
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร และอินสตาแกรม @ty_israngura