“ทนายเกิดผล” เผยโทษคดีข่มขืนสุดเบา ปรับน้อยกว่าพกสเปรย์พริกไทยถึง 25 เท่า และน้อยกว่าคดีลิขสิทธิ์ 5 เท่า ร้ายกว่านั้นหากก่อเหตุซ้ำ ศาลเพิ่มโทษได้เพียง 50% เทียบกับละเมิดลิขสิทธิ์ที่เพิ่มโทษได้ถึง 200 %
วันนี้ (4 ก.ค.) นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “เกิดผล แก้วเกิด” เปรียบเทียบโทษของคดีข่มขืน คดีพกสเปรย์พริกไทย และ คดีละเมิดลิขสิทธิ์ ว่า
โทษสำหรับคดีข่มขืนกระทำชำเรา (ทั่วไปที่ไม่ใช่เหตุฉกรรจ์ เช่น ข่มขืนแล้วฆ่า) จำคุก 4 - 20 ปี ปรับ 40,000 บาท ในขณะการมีสเปรย์พริกไทย ไว้ให้ผู้หญิงป้องกันตัว มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เปรียบเทียบโทษปรับ สูงกว่า คดีข่มขืน ถึง 25 เท่า
ในขณะ พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท โทษปรับสูงสุด สูงกว่า ข่มขืน 5 เท่า
ร้ายกว่านั้น ถ้าเคยข่มขืน และติดคุกมาแล้ว ภายใน 5 ปี มาทำผิดซ้ำ กฎหมายให้เพิ่มโทษ ได้เพียง 1 ใน 3 ของโทษที่ศาลจะลง หรือ มาทำผิดซ้ำในข้อหาเดียวกัน ภายใน 3 ปี ศาลจะเพิ่มโทษได้เพียง 1 ใน 2 (กึ่งหนึ่ง) ของโทษที่ศาลจะลงโทษ
แต่ถ้าทำผิดซ้ำในกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ กฎหมายให้ลงโทษ เพิ่มเป็น 2 เท่า หมายความว่า ถ้าข่มขืนซ้ำ ศาลเพิ่มโทษสูงสุดได้แค่ 50% แต่ถ้าละเมิดลิขสิทธิ์ซ้ำ ศาลต้องเพิ่มโทษ 200%