เพราะรักและมุ่งมั่น เพราะฝันแล้วลงมือ ไม่ได้ไม่เลิก! ส่งให้เด็กหนุ่มวัยเพียง 14 กลายเป็นดาวประกายแสงในด้านตกแต่งเคสคอมพ์ และเป็นดาวเด่นอีกหนึ่งดวงในงานประกวด Vmodtech's ASIA LAN Party ครั้งที่ผ่านมา
ทำความรู้จักกับ “ยูกิ คิชิโมโตะ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นจากจังหวัดราชบุรี ผู้คลั่งไคล้ใหลหลงแผงวงจรรถบังคับวิทยุ ก่อนมาตกหลุมรักการแต่งเคสคอมพิวเตอร์และไม่เคยทิ้งไปไหน เรื่องราวของเขาเต็มล้นด้วยพลังฝันบันดาลใจ และบอกได้คำเดียวว่า เขาไม่ได้มาเล่นๆ!!

• จุดเริ่มต้น...
จริงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะมาทางด้านนี้ครับ คอมพิวเตอร์จะเป็นแค่อุปกรณ์ใช้งาน พิมพ์งาน แล้วก็เล่นเกมซะส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจมากนัก ตอนนั้นจะสนใจในด้านแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า ก็สไตล์เด็กผู้ชายครับ ชอบเล่นรถบังคับวิทยุ ซึ่งยุคนั้น พอดีมีรถกระป๋องที่มันสามารถปรับแต่งได้ เราขอ คุณพ่อก็ซื้อให้ มันก็จะมีแผงวงจรเล็กๆ มีมอเตอร์ เราก็แต่ง ก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบเรื่องพวกนี้ ชอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
แต่พอแกะรื้อไปรื้อมา รื้อแล้วก็ประกอบไม่ได้ (หัวเราะ) สรุปคือพัง พอพังก็ไม่ได้เล่น หลังจากนั้นก็เลยต้องไปเล่นคอมพิวเตอร์ แรกๆ ก็เล่นเกมเล่นอะไร ทีนี้โน้ตบุ๊คของเราสเป๊กธรรมดา เราเล่นเกมไปเรื่อยๆ ก็อยากเล่นเกมที่ภาพสวยๆ รายละเอียดดีๆ ก็เลยศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้โน้ตบุ๊คเรามันเร็วขึ้น สามารถเล่นเกมพวกนี้ได้
• ก็เลยต่อยอดมาจนเป็นความรักความชอบอีกทางด้านหนึ่ง นั่นก็คือการแต่งเคสคอมพิวเตอร์
ครับ...เพราะในระหว่างที่เราหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้โน้ตบุ๊คของเราเร็ว เราก็ไปเจอกลุ่ม Extremepc กับ CompleteTV แล้วก็มี Vmodtech จากเว็บบอร์ดต่างๆ จากทางเฟซบุ๊ก เราก็ได้เห็นและได้รู้ว่ามันมีการแต่งเคสคอมพ์ ก็เลยเริ่มศึกษา ขอความรู้จากพวกพี่ๆ เขา ตอนนั้นก็เลยเริ่มเปลี่ยนจากที่เน้นสนใจเสปกแรงๆ เพื่อเล่นเกม พูดง่ายๆ เป็นเกรียนคนหนึ่งในโลกไซเบอร์ ประมาณตอนอายุ 11-12 เพิ่งไม่กี่ปีมานี้ ตอนนี้อายุ 15 ก็หันมาสนใจทางด้านความสวยงาม
ก็ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 6 เดือนเต็มๆ ในการคลุกคลี หาความรู้และข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตทั้งวัน เริ่มจากการดูเลยว่าอุปกรณ์ต่างๆ มันจะใช้อะไรต่ออะไรกันยังไง เช่น เมนบอร์ด มันจะมีซ็อกเก็ต CPU มันก็ไม่สามารถใส่ได้ทุกตัว มันก็ต้องดูว่าตัวนี้ใส่กับตัวนี้ได้ไหม ก็ศึกษามาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ลงตัว ประกอบเคสๆ หนึ่งขึ้นมาได้

• จากความแรงสู่ความสวยงาม ส่วนตัวอะไรคือมนต์เสน่ห์ของการตบแต่งเคสคอมพิวเตอร์ของเรา
ความคิดสร้างสรรค์ มองแล้วเราชอบ อันนั้นคือสวย ไม่มีตายตัว ความสวยก็แต่งได้ทั่วๆ ไป คนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นจากส่วนของท่อสายยาง เพราะว่ามันจะทำง่ายกว่าท่อแบบอะคริลิก แล้วก็เล่นมาสักระยะหนึ่งก็จะไปท่ออะคริลิก จากนั้นสูงขึ้นไปก็คือท่อทองแดงเหมือนท่อแอร์ คือเป็นพื้นฐานของระบบ จุดที่สำคัญที่สุดคือการเดิน เราจะวางชิ้นส่วนนี้ไว้จุดไหน ตรงนี้ไว้จุดไหน การเดินท่อแบบไหนถึงจะสวย พูดง่ายๆ มันก็คือผังนั้นเอง เหมือนการแต่งรถ ถ้าเราชอบความแรงก็แต่งเครื่องยนต์ แต่ถ้าเราชอบความสวยงาม เราก็แต่งบอดี้
• แล้วหลังจากนั้นไปมาอย่างไรถึงเข้าประกวด Vmodtech Master Building Lanparty 2014 ได้
เราก็พอรู้อยู่แล้วว่างาน Vmodtech Master Building Lanparty 2014 เป็นงานการประกวดเคสคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ ซึ่งแรกๆ ที่เราจะสนใจทางด้านนี้ เขาก็มีการจัดไปแล้ว ทีนี้ครั้งที่ 2 บังเอิญพี่ที่รู้จักอยู่ใกล้ๆ กัน เขาแต่งคอมพ์เหมือนกัน ก็เลยชวนไป ช่วงตอนอายุ 13 ได้ตอนนั้น แต่ผลงานเรายังธรรมดาอยู่ ก็ไม่ได้อันดับอะไร แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เนื่องจากเราชอบ ส่วนตัวเวลาที่ชอบทำอะไรก็จะไม่ได้ทำเล่นๆ แล้วเลิก ก็คิดว่าเรามาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ได้คิดว่ามาประกวด ก็ทำให้เราได้ประสบการณ์เพิ่มเติม งานล่าสุดที่จัดที่ผ่านมา ก็ได้อันดับที่ 13 ชื่อผลงานว่า 'ชิโระ' แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นคือ สีขาว คนก็เริ่มรู้จักเรา เพราะว่าเราเด็กที่สุดของการประกวดในงาน
• อย่างนี้เวลาที่เราคิดคอนเซ็ปต์ เราได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
แรงบันดาลใจจะมาจากความรักความชอบครับ อย่างผลงาน 'ชิโระ' คือเกิดจากช่วงนั้นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่อง SAO หรือว่า Sword Art Online แล้วนางเอกเขาชื่อว่า ยูกิ อาซึนะ ชื่อเหมือนกันแล้วเราก็ชอบคาแร็กเตอร์การแต่งตัวของเขา ซึ่งในภาคฉบับเกม เขาแต่งเป็นอัศวินชุดสีขาวตัดสีแดง ผมเลยได้คอนเซ็ปต์สีขาวแดงเข้ามาใส่ในเคสคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเข้าประกวดประเภท case modding ส่วนประเภท sketch build ไม่ได้ส่ง เพราะความสามารถยังไม่ถึง sketch build จะเป็นการสร้างเคสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเองเลย
• แล้วส่วนตัวเรามีแนวโน้มในแนวทาง sketch build บ้างหรือไม่
ก็มีนิดๆ ครับ แต่เพราะว่าการสร้างเคสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเอง ต้องคำนึงหลายอย่าง ทั้งทิศทางของลมว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ ระบบจะระบายความร้อนอย่างไร มันค่อยข้างยาก แต่อนาคตก็ฝันๆ ไว้ เพราะเราก็จะไปทิศทางอิเล็กทรอนิกส์ ไปทางด้านคอมพิวเตอร์ด้วย

• ด้วยอายุและวัยที่เรากำลังเรียนอยู่ด้วย ตอนนี้ก็ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทางบ้านว่าอย่างไรบ้างกับงานอดิเรกของเรา
คือเราก็ต้องแบ่งเวลา รู้จักหน้าที่ของเรา ก็ต้องขอบคุณที่บ้านด้วยที่สนับสนุน เนื่องจากพอเราชอบ เราก็เริ่มศึกษาอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ได้ทำไว้เล่นเกม แล้วก็ไม่ได้ทำเล่นๆ แล้วเลิก ทางบ้านก็เห็นข้อดีของการใช้คอมพิวเตอร์ และสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณหนึ่ง ไม่ได้ทั้งหมด เขาจะสอนให้เราสร้างฝันขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็อดค่าขนมตัวเองไปเยอะ (หัวเราะ) เนื่องจากเราไม่มีสปอนเซอร์ด้วย ฉะนั้น เวลาแต่งก็ต้องคิดละเอียดมาก ถ้าเกิดศึกษาไม่ดี ซื้อผิด มันแก้ไขยาก
ก็นับว่ากดดันพอสมควรครับ แต่เป็นการกดดันในการทำงานที่พอรับได้ คือเราศึกษาละเอียดรอบคอบอยู่แล้วว่าชิ้นนี้เป็นยังไง การวางระบบจะต้องวางยังไง วงจรต้องอย่างนี้ๆ จะดีไซน์จุดไหน ไม่ใช่กดดันหลังจากที่มีคนรู้จัก แล้วบางคนตั้งคำถามเรื่องว่าถ้าเราไม่มีทุนก็ทำไม่ได้หรอก แต่คือจริงๆ แล้ว เราเน้นสวยงามอยู่แล้ว การที่ถ้ามีทุนน้อย เราก็แต่งเสปกคอมให้ลดลงมา ก็ดร็อปลงมา แต่ว่าคอนเซ็ปต์หลายๆ อย่างมันก็ยังอยู่ในใจเราอยู่ดี เรื่องของทุนจึงไม่ใช่ทั้งหมดครับ
• คือต่อให้มีคอนเซ็ปต์แล้ว หาอุปกรณ์ได้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดสวยๆ ขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างใจนึก
ต้องบอกก่อนว่าคำว่าสวยงาม ต่างกับคำว่าแรง คำว่าแรง เราสามารถซื้อของดีๆ มาประกอบ มาใช้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เราได้เลย แต่คำว่าสวย ถ้าเราจะแต่งเคสคอมพิวเตอร์ให้สวยตามอย่างใจ เราจะต้องคำนึงถึงระบบแทบทั้งหมด แต่งๆ โปะๆ ไม่ได้ สมมุติว่าเราใช้ I7 5820k แล้ว Overclock ด้วย เราต้องคำนึงก่อนว่าจะติดตั้งชุดน้ำจุดไหนที่อะไรบ้าง ใส่ตัวเมนบอร์ดไหม แรมไหม การ์ดจอไหม แล้วถ้าใส่หมดเลยแล้วต้องใช้หม้อน้ำขนาดเท่าไหร่ พัดลมกี่ตัว รอบเท่าไหร่ ซื้อมาใส่ๆ ไม่ได้

การออกแบบ เราต้องออกแบบได้ให้ลงตัวทั้งหมด ให้มันใช้งานได้จริงด้วย ถ้าเราแต่งอย่างเดียว เราพลาดหนึ่ง อย่างการเดินลม ก็จะทำให้คอมพิวเตอร์สะสมความร้อนมาก ในการเปิดใช้งานระยะเวลานาน ผลก็คือความร้อนสะสมและเครื่องจะตัดการทำงานไปเอง หรือคอมพิวเตอร์ใช้งานในระยะยาว จะมีปัญหาตามมา
แล้วอุปกรณ์บางตัวที่เราแต่งไม่ได้มีขาย เคสจะทำให้พื้นผิวมีมิติ เราก็ต้องตัดแต่งเอง ไม่เหมือนอย่างพวกฟิตติ้ง หม้อน้ำ ปั๊มน้ำ ที่มีขาย อะคริลิกที่มาแปะตกแต่ง เราก็ต้องทำขึ้นมาเองกับมือ อย่างเคส Cosmos II เมนบอร์ดถูกวางไว้แนวนอน เราอยากได้แนวตั้ง ก็ต้องเจาะตัดผ่าเคสเอง อย่างจะเดินทางน้ำสักหนึ่งเส้นเป็นท่ออะคริลิก เราซื้อมาเป็นเส้นตรง ไม่ได้เป็นเส้นงอมาจากโรงงาน ก็ต้องใช้ปืนเป่าลมร้อนเป่าก่อน จากนั้นดัดให้เข้ารูป แล้วก็ยัดสายยางแบบตันเข้าไปเพื่อไม่ให้ท่อมันตีบ เป่าก็ต้องให้ได้ที่ของท่อ ร้อนเกินไปไม่ได้อีกเพราะท่อจะมีฟองอาการแล้วต้องตัดทิ้ง ตัดพลาดก็ไม่ได้ ถ้าตัดท่อพลาดแค่หนึ่งเซนติเมตร จะต้องทำท่อเส้นที่ตัดพลาดใหม่เพราะว่าน้ำจะรั่วทันที
• เงินอย่างเดียวจึงไม่สามารถสร้างศิลปะของเคสคอมพิวเตอร์ได้
ครับ เพราะตังค์อย่างเดียวซื้อประสบการณ์ไม่ได้ มีเงินสักหนึ่งล้านบาท แต่ไม่มีความรู้เลย ก็ไม่มีความหมาย คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่อ่อนโยน ถ้าหยิบใส่พลาด สมมุติ ซ็อกเก็ต CPU งอไปหนึ่งขา คอมพิวเตอร์อาจจะเปิดไม่ติดเลย หรืออาจจะเปิดติด แต่ก็จะมีอาการแทรกซ้อนขึ้นมา เราก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ทำช่องทำรู กับเคสทำอย่างไร แผ่นอะคริลิกตอนแรกยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ นึกว่าเป็นแผ่นพลาสติกเหมือนกัน เราก็ต้องใช้ความใจเย็น แน่ใจแล้วว่าเป๊ะ แล้วก็ต้องใช้ความชำนาญ เพราะว่าของพวกนี้ อินเตอร์เน็ตไม่มีบอก เว็บบอร์ดไม่มีสอน คือต้องฝึกฝน ก็ต้องใช้ประสบการณ์ในการลองผิดลองถูก หาความรู้จากคนที่เขาชำนาญ
ก่อนหน้านั้น ผมได้ฉายาว่า “มือนรก” ครับ (หัวเราะ) จับอะไรคือพังหมด ตอนนั้นทำช่วงแรกๆ ยังไม่มีประสบการณ์ เทคนิคการพ่นสีก็ยังไม่รู้ แต่ผมทำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่ง คือศิลปะเคสคอมพิวเตอร์ ถ้าถามจากส่วนตัว มันคือการที่เราได้หยิบทุกอย่างที่ใส่จากมือของเรา ไม่ใช่คนอื่นใส่ให้เรา ถ้าถามว่าเราซื้อคอมพิวเตอร์ที่ประกอบมาเสร็จเรียบร้อยแล้วได้ไหม ก็ได้ ใช้งานได้เหมือนกัน แต่ว่าการเก็บรายละเอียดของงานไม่เหมือนกัน อย่างเช่นสายไฟทั้งหลายของคอมพิวเตอร์มีเยอะ เขาก็จะวางๆ ใส่ในนั้น แต่ถ้าเราทำเอง เราจะวางให้มันสวยงาม สายไฟต้องเนี้ยบ ต้องออกมาดี มันเป็นความภูมิใจ ไม่ต่างจากคนรักรถที่บางคนรักยิ่งกว่าแฟนด้วยซ้ำ

• เป็นกฎเหล็กหลักของเราในการแต่งเคสคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่
สิ่งจำเป็นสำหรับการทำคอมพ์ขึ้นมาหนึ่งเครื่องคือความสมเหตุสมผล ซึ่งถ้าทำขึ้นมาหนึ่งเครื่องแล้ว คอมพ์ไม่เสถียร เล่นๆ อยู่ ดับ ก็เป็นจุดที่ไม่มีใครชอบแน่นอน เคล็ดลับเรา นอกจากสวยงาม จึงต้องใช้งานได้ด้วย ฉะนั้น ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และส่วนตัวรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์มีไว้ใช้งาน ก็เป็นคอนเซ็ปต์หลักๆ ของเราด้วย เราจึงต้องทำขึ้นมาแล้วใช้งานด้วย
• ฟังแล้วเหมือนกับว่าเราได้รับนอกจากประสบการณ์ความรู้ เช่นเดียวกับงานศิลปะทั่วๆ ไป และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งกับตัวตนเรา
เพราะว่าเราศึกษาเองและถามจากพี่ๆ ในกลุ่มต่างๆ เริ่มจากความรักความชอบ กว่าเราจะมาถึงตรงนี้ได้ เราก็ต้องใช้ต้องความอดทน ความขยันในการหาความรู้เพิ่มเติม ได้ความพยายาม และอีกอย่างคือเด็กๆ รุ่นเดียวกันไม่ค่อยมี ก็ทำให้เราได้คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ เราก็โตขึ้น เราก็ได้ความคิดแบบผู้ใหญ่ติดมามาด้วย
จากอดีตเด็กเกรียนคนหนึ่ง ก็ภูมิใจครับที่มีคนให้ความสนใจ มองโฟกัสที่ผลงาน ชื่นชมว่าเราอายุแค่นี้ แต่เราทำในสิ่งที่รักออกมาได้อย่างดี ส่วนคนที่มองว่าเรามีเงิน เราก็ทำขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่เขาก็เคยไม่มีผลงานอะไรออกมาเลย ก็แล้วแต่เขาจะคิด กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้เรารู้ว่าเราต้องผ่านอะไรมาเยอะ
ตอนนี้ก็เตรียมตัวทำผลงานชิ้นใหม่ครับ ฉบับที่ดีกว่าเดิมตามเลเวล อัปขึ้นตามอายุในปีนี้ แต่ยังอยู่ในชื่อ 'ชิโระ' ชื่อเดิม ก็รอว่าทางงานจะจัดขึ้นอีกเมื่อไหร่ เพราะมันคือสิ่งที่ผมรัก ฉะนั้น ใครจะว่าอย่างไร ก็มาเปลี่ยนใจเราไมได้ เราก็อยู่ในเส้นทางของเราต่อไป แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ก็ฝากสำหรับคนที่มีความฝันครับ อยากจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็ขอให้กล้าคิด เพราะว่าถ้ากล้าคิดแล้วก็เหมือนก้าวมาได้หนึ่งก้าว จากนั้นก็คือกล้าทำ เพราะถ้าคิดได้อย่างเดียวไม่ทำ ก็ยังก้าวไม่เต็ม




เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เฟจเฟซบุ๊ก ยูกิ คิชิโมโตะ
ทำความรู้จักกับ “ยูกิ คิชิโมโตะ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นจากจังหวัดราชบุรี ผู้คลั่งไคล้ใหลหลงแผงวงจรรถบังคับวิทยุ ก่อนมาตกหลุมรักการแต่งเคสคอมพิวเตอร์และไม่เคยทิ้งไปไหน เรื่องราวของเขาเต็มล้นด้วยพลังฝันบันดาลใจ และบอกได้คำเดียวว่า เขาไม่ได้มาเล่นๆ!!
• จุดเริ่มต้น...
จริงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะมาทางด้านนี้ครับ คอมพิวเตอร์จะเป็นแค่อุปกรณ์ใช้งาน พิมพ์งาน แล้วก็เล่นเกมซะส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจมากนัก ตอนนั้นจะสนใจในด้านแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า ก็สไตล์เด็กผู้ชายครับ ชอบเล่นรถบังคับวิทยุ ซึ่งยุคนั้น พอดีมีรถกระป๋องที่มันสามารถปรับแต่งได้ เราขอ คุณพ่อก็ซื้อให้ มันก็จะมีแผงวงจรเล็กๆ มีมอเตอร์ เราก็แต่ง ก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบเรื่องพวกนี้ ชอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
แต่พอแกะรื้อไปรื้อมา รื้อแล้วก็ประกอบไม่ได้ (หัวเราะ) สรุปคือพัง พอพังก็ไม่ได้เล่น หลังจากนั้นก็เลยต้องไปเล่นคอมพิวเตอร์ แรกๆ ก็เล่นเกมเล่นอะไร ทีนี้โน้ตบุ๊คของเราสเป๊กธรรมดา เราเล่นเกมไปเรื่อยๆ ก็อยากเล่นเกมที่ภาพสวยๆ รายละเอียดดีๆ ก็เลยศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้โน้ตบุ๊คเรามันเร็วขึ้น สามารถเล่นเกมพวกนี้ได้
• ก็เลยต่อยอดมาจนเป็นความรักความชอบอีกทางด้านหนึ่ง นั่นก็คือการแต่งเคสคอมพิวเตอร์
ครับ...เพราะในระหว่างที่เราหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้โน้ตบุ๊คของเราเร็ว เราก็ไปเจอกลุ่ม Extremepc กับ CompleteTV แล้วก็มี Vmodtech จากเว็บบอร์ดต่างๆ จากทางเฟซบุ๊ก เราก็ได้เห็นและได้รู้ว่ามันมีการแต่งเคสคอมพ์ ก็เลยเริ่มศึกษา ขอความรู้จากพวกพี่ๆ เขา ตอนนั้นก็เลยเริ่มเปลี่ยนจากที่เน้นสนใจเสปกแรงๆ เพื่อเล่นเกม พูดง่ายๆ เป็นเกรียนคนหนึ่งในโลกไซเบอร์ ประมาณตอนอายุ 11-12 เพิ่งไม่กี่ปีมานี้ ตอนนี้อายุ 15 ก็หันมาสนใจทางด้านความสวยงาม
ก็ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 6 เดือนเต็มๆ ในการคลุกคลี หาความรู้และข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตทั้งวัน เริ่มจากการดูเลยว่าอุปกรณ์ต่างๆ มันจะใช้อะไรต่ออะไรกันยังไง เช่น เมนบอร์ด มันจะมีซ็อกเก็ต CPU มันก็ไม่สามารถใส่ได้ทุกตัว มันก็ต้องดูว่าตัวนี้ใส่กับตัวนี้ได้ไหม ก็ศึกษามาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ลงตัว ประกอบเคสๆ หนึ่งขึ้นมาได้
• จากความแรงสู่ความสวยงาม ส่วนตัวอะไรคือมนต์เสน่ห์ของการตบแต่งเคสคอมพิวเตอร์ของเรา
ความคิดสร้างสรรค์ มองแล้วเราชอบ อันนั้นคือสวย ไม่มีตายตัว ความสวยก็แต่งได้ทั่วๆ ไป คนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นจากส่วนของท่อสายยาง เพราะว่ามันจะทำง่ายกว่าท่อแบบอะคริลิก แล้วก็เล่นมาสักระยะหนึ่งก็จะไปท่ออะคริลิก จากนั้นสูงขึ้นไปก็คือท่อทองแดงเหมือนท่อแอร์ คือเป็นพื้นฐานของระบบ จุดที่สำคัญที่สุดคือการเดิน เราจะวางชิ้นส่วนนี้ไว้จุดไหน ตรงนี้ไว้จุดไหน การเดินท่อแบบไหนถึงจะสวย พูดง่ายๆ มันก็คือผังนั้นเอง เหมือนการแต่งรถ ถ้าเราชอบความแรงก็แต่งเครื่องยนต์ แต่ถ้าเราชอบความสวยงาม เราก็แต่งบอดี้
• แล้วหลังจากนั้นไปมาอย่างไรถึงเข้าประกวด Vmodtech Master Building Lanparty 2014 ได้
เราก็พอรู้อยู่แล้วว่างาน Vmodtech Master Building Lanparty 2014 เป็นงานการประกวดเคสคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ ซึ่งแรกๆ ที่เราจะสนใจทางด้านนี้ เขาก็มีการจัดไปแล้ว ทีนี้ครั้งที่ 2 บังเอิญพี่ที่รู้จักอยู่ใกล้ๆ กัน เขาแต่งคอมพ์เหมือนกัน ก็เลยชวนไป ช่วงตอนอายุ 13 ได้ตอนนั้น แต่ผลงานเรายังธรรมดาอยู่ ก็ไม่ได้อันดับอะไร แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เนื่องจากเราชอบ ส่วนตัวเวลาที่ชอบทำอะไรก็จะไม่ได้ทำเล่นๆ แล้วเลิก ก็คิดว่าเรามาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ได้คิดว่ามาประกวด ก็ทำให้เราได้ประสบการณ์เพิ่มเติม งานล่าสุดที่จัดที่ผ่านมา ก็ได้อันดับที่ 13 ชื่อผลงานว่า 'ชิโระ' แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นคือ สีขาว คนก็เริ่มรู้จักเรา เพราะว่าเราเด็กที่สุดของการประกวดในงาน
• อย่างนี้เวลาที่เราคิดคอนเซ็ปต์ เราได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
แรงบันดาลใจจะมาจากความรักความชอบครับ อย่างผลงาน 'ชิโระ' คือเกิดจากช่วงนั้นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่อง SAO หรือว่า Sword Art Online แล้วนางเอกเขาชื่อว่า ยูกิ อาซึนะ ชื่อเหมือนกันแล้วเราก็ชอบคาแร็กเตอร์การแต่งตัวของเขา ซึ่งในภาคฉบับเกม เขาแต่งเป็นอัศวินชุดสีขาวตัดสีแดง ผมเลยได้คอนเซ็ปต์สีขาวแดงเข้ามาใส่ในเคสคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเข้าประกวดประเภท case modding ส่วนประเภท sketch build ไม่ได้ส่ง เพราะความสามารถยังไม่ถึง sketch build จะเป็นการสร้างเคสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเองเลย
• แล้วส่วนตัวเรามีแนวโน้มในแนวทาง sketch build บ้างหรือไม่
ก็มีนิดๆ ครับ แต่เพราะว่าการสร้างเคสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเอง ต้องคำนึงหลายอย่าง ทั้งทิศทางของลมว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ ระบบจะระบายความร้อนอย่างไร มันค่อยข้างยาก แต่อนาคตก็ฝันๆ ไว้ เพราะเราก็จะไปทิศทางอิเล็กทรอนิกส์ ไปทางด้านคอมพิวเตอร์ด้วย
• ด้วยอายุและวัยที่เรากำลังเรียนอยู่ด้วย ตอนนี้ก็ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทางบ้านว่าอย่างไรบ้างกับงานอดิเรกของเรา
คือเราก็ต้องแบ่งเวลา รู้จักหน้าที่ของเรา ก็ต้องขอบคุณที่บ้านด้วยที่สนับสนุน เนื่องจากพอเราชอบ เราก็เริ่มศึกษาอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ได้ทำไว้เล่นเกม แล้วก็ไม่ได้ทำเล่นๆ แล้วเลิก ทางบ้านก็เห็นข้อดีของการใช้คอมพิวเตอร์ และสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณหนึ่ง ไม่ได้ทั้งหมด เขาจะสอนให้เราสร้างฝันขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็อดค่าขนมตัวเองไปเยอะ (หัวเราะ) เนื่องจากเราไม่มีสปอนเซอร์ด้วย ฉะนั้น เวลาแต่งก็ต้องคิดละเอียดมาก ถ้าเกิดศึกษาไม่ดี ซื้อผิด มันแก้ไขยาก
ก็นับว่ากดดันพอสมควรครับ แต่เป็นการกดดันในการทำงานที่พอรับได้ คือเราศึกษาละเอียดรอบคอบอยู่แล้วว่าชิ้นนี้เป็นยังไง การวางระบบจะต้องวางยังไง วงจรต้องอย่างนี้ๆ จะดีไซน์จุดไหน ไม่ใช่กดดันหลังจากที่มีคนรู้จัก แล้วบางคนตั้งคำถามเรื่องว่าถ้าเราไม่มีทุนก็ทำไม่ได้หรอก แต่คือจริงๆ แล้ว เราเน้นสวยงามอยู่แล้ว การที่ถ้ามีทุนน้อย เราก็แต่งเสปกคอมให้ลดลงมา ก็ดร็อปลงมา แต่ว่าคอนเซ็ปต์หลายๆ อย่างมันก็ยังอยู่ในใจเราอยู่ดี เรื่องของทุนจึงไม่ใช่ทั้งหมดครับ
• คือต่อให้มีคอนเซ็ปต์แล้ว หาอุปกรณ์ได้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดสวยๆ ขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างใจนึก
ต้องบอกก่อนว่าคำว่าสวยงาม ต่างกับคำว่าแรง คำว่าแรง เราสามารถซื้อของดีๆ มาประกอบ มาใช้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เราได้เลย แต่คำว่าสวย ถ้าเราจะแต่งเคสคอมพิวเตอร์ให้สวยตามอย่างใจ เราจะต้องคำนึงถึงระบบแทบทั้งหมด แต่งๆ โปะๆ ไม่ได้ สมมุติว่าเราใช้ I7 5820k แล้ว Overclock ด้วย เราต้องคำนึงก่อนว่าจะติดตั้งชุดน้ำจุดไหนที่อะไรบ้าง ใส่ตัวเมนบอร์ดไหม แรมไหม การ์ดจอไหม แล้วถ้าใส่หมดเลยแล้วต้องใช้หม้อน้ำขนาดเท่าไหร่ พัดลมกี่ตัว รอบเท่าไหร่ ซื้อมาใส่ๆ ไม่ได้
การออกแบบ เราต้องออกแบบได้ให้ลงตัวทั้งหมด ให้มันใช้งานได้จริงด้วย ถ้าเราแต่งอย่างเดียว เราพลาดหนึ่ง อย่างการเดินลม ก็จะทำให้คอมพิวเตอร์สะสมความร้อนมาก ในการเปิดใช้งานระยะเวลานาน ผลก็คือความร้อนสะสมและเครื่องจะตัดการทำงานไปเอง หรือคอมพิวเตอร์ใช้งานในระยะยาว จะมีปัญหาตามมา
แล้วอุปกรณ์บางตัวที่เราแต่งไม่ได้มีขาย เคสจะทำให้พื้นผิวมีมิติ เราก็ต้องตัดแต่งเอง ไม่เหมือนอย่างพวกฟิตติ้ง หม้อน้ำ ปั๊มน้ำ ที่มีขาย อะคริลิกที่มาแปะตกแต่ง เราก็ต้องทำขึ้นมาเองกับมือ อย่างเคส Cosmos II เมนบอร์ดถูกวางไว้แนวนอน เราอยากได้แนวตั้ง ก็ต้องเจาะตัดผ่าเคสเอง อย่างจะเดินทางน้ำสักหนึ่งเส้นเป็นท่ออะคริลิก เราซื้อมาเป็นเส้นตรง ไม่ได้เป็นเส้นงอมาจากโรงงาน ก็ต้องใช้ปืนเป่าลมร้อนเป่าก่อน จากนั้นดัดให้เข้ารูป แล้วก็ยัดสายยางแบบตันเข้าไปเพื่อไม่ให้ท่อมันตีบ เป่าก็ต้องให้ได้ที่ของท่อ ร้อนเกินไปไม่ได้อีกเพราะท่อจะมีฟองอาการแล้วต้องตัดทิ้ง ตัดพลาดก็ไม่ได้ ถ้าตัดท่อพลาดแค่หนึ่งเซนติเมตร จะต้องทำท่อเส้นที่ตัดพลาดใหม่เพราะว่าน้ำจะรั่วทันที
• เงินอย่างเดียวจึงไม่สามารถสร้างศิลปะของเคสคอมพิวเตอร์ได้
ครับ เพราะตังค์อย่างเดียวซื้อประสบการณ์ไม่ได้ มีเงินสักหนึ่งล้านบาท แต่ไม่มีความรู้เลย ก็ไม่มีความหมาย คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่อ่อนโยน ถ้าหยิบใส่พลาด สมมุติ ซ็อกเก็ต CPU งอไปหนึ่งขา คอมพิวเตอร์อาจจะเปิดไม่ติดเลย หรืออาจจะเปิดติด แต่ก็จะมีอาการแทรกซ้อนขึ้นมา เราก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ทำช่องทำรู กับเคสทำอย่างไร แผ่นอะคริลิกตอนแรกยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ นึกว่าเป็นแผ่นพลาสติกเหมือนกัน เราก็ต้องใช้ความใจเย็น แน่ใจแล้วว่าเป๊ะ แล้วก็ต้องใช้ความชำนาญ เพราะว่าของพวกนี้ อินเตอร์เน็ตไม่มีบอก เว็บบอร์ดไม่มีสอน คือต้องฝึกฝน ก็ต้องใช้ประสบการณ์ในการลองผิดลองถูก หาความรู้จากคนที่เขาชำนาญ
ก่อนหน้านั้น ผมได้ฉายาว่า “มือนรก” ครับ (หัวเราะ) จับอะไรคือพังหมด ตอนนั้นทำช่วงแรกๆ ยังไม่มีประสบการณ์ เทคนิคการพ่นสีก็ยังไม่รู้ แต่ผมทำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่ง คือศิลปะเคสคอมพิวเตอร์ ถ้าถามจากส่วนตัว มันคือการที่เราได้หยิบทุกอย่างที่ใส่จากมือของเรา ไม่ใช่คนอื่นใส่ให้เรา ถ้าถามว่าเราซื้อคอมพิวเตอร์ที่ประกอบมาเสร็จเรียบร้อยแล้วได้ไหม ก็ได้ ใช้งานได้เหมือนกัน แต่ว่าการเก็บรายละเอียดของงานไม่เหมือนกัน อย่างเช่นสายไฟทั้งหลายของคอมพิวเตอร์มีเยอะ เขาก็จะวางๆ ใส่ในนั้น แต่ถ้าเราทำเอง เราจะวางให้มันสวยงาม สายไฟต้องเนี้ยบ ต้องออกมาดี มันเป็นความภูมิใจ ไม่ต่างจากคนรักรถที่บางคนรักยิ่งกว่าแฟนด้วยซ้ำ
• เป็นกฎเหล็กหลักของเราในการแต่งเคสคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่
สิ่งจำเป็นสำหรับการทำคอมพ์ขึ้นมาหนึ่งเครื่องคือความสมเหตุสมผล ซึ่งถ้าทำขึ้นมาหนึ่งเครื่องแล้ว คอมพ์ไม่เสถียร เล่นๆ อยู่ ดับ ก็เป็นจุดที่ไม่มีใครชอบแน่นอน เคล็ดลับเรา นอกจากสวยงาม จึงต้องใช้งานได้ด้วย ฉะนั้น ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และส่วนตัวรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์มีไว้ใช้งาน ก็เป็นคอนเซ็ปต์หลักๆ ของเราด้วย เราจึงต้องทำขึ้นมาแล้วใช้งานด้วย
• ฟังแล้วเหมือนกับว่าเราได้รับนอกจากประสบการณ์ความรู้ เช่นเดียวกับงานศิลปะทั่วๆ ไป และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งกับตัวตนเรา
เพราะว่าเราศึกษาเองและถามจากพี่ๆ ในกลุ่มต่างๆ เริ่มจากความรักความชอบ กว่าเราจะมาถึงตรงนี้ได้ เราก็ต้องใช้ต้องความอดทน ความขยันในการหาความรู้เพิ่มเติม ได้ความพยายาม และอีกอย่างคือเด็กๆ รุ่นเดียวกันไม่ค่อยมี ก็ทำให้เราได้คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ เราก็โตขึ้น เราก็ได้ความคิดแบบผู้ใหญ่ติดมามาด้วย
จากอดีตเด็กเกรียนคนหนึ่ง ก็ภูมิใจครับที่มีคนให้ความสนใจ มองโฟกัสที่ผลงาน ชื่นชมว่าเราอายุแค่นี้ แต่เราทำในสิ่งที่รักออกมาได้อย่างดี ส่วนคนที่มองว่าเรามีเงิน เราก็ทำขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่เขาก็เคยไม่มีผลงานอะไรออกมาเลย ก็แล้วแต่เขาจะคิด กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้เรารู้ว่าเราต้องผ่านอะไรมาเยอะ
ตอนนี้ก็เตรียมตัวทำผลงานชิ้นใหม่ครับ ฉบับที่ดีกว่าเดิมตามเลเวล อัปขึ้นตามอายุในปีนี้ แต่ยังอยู่ในชื่อ 'ชิโระ' ชื่อเดิม ก็รอว่าทางงานจะจัดขึ้นอีกเมื่อไหร่ เพราะมันคือสิ่งที่ผมรัก ฉะนั้น ใครจะว่าอย่างไร ก็มาเปลี่ยนใจเราไมได้ เราก็อยู่ในเส้นทางของเราต่อไป แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ก็ฝากสำหรับคนที่มีความฝันครับ อยากจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็ขอให้กล้าคิด เพราะว่าถ้ากล้าคิดแล้วก็เหมือนก้าวมาได้หนึ่งก้าว จากนั้นก็คือกล้าทำ เพราะถ้าคิดได้อย่างเดียวไม่ทำ ก็ยังก้าวไม่เต็ม
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : เฟจเฟซบุ๊ก ยูกิ คิชิโมโตะ