สังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถจักรยานยนต์ในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา คลิปภาพวงจรปิดของปั้มน้ำมันได้จับภาพของชายผู้หนึ่งขี่จักรยานยนต์เข้ามาในปั้มเพื่อเติมน้ำมันตามปกติ โดยชายผู้นั้นได้เปิดเบาะของรถเพื่อเปิดฝาถังน้ำมันให้พนักงานของปั้มเติม พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือของตนเองวางไว้ใต้เบาะ แต่ระหว่างที่พนักงานกำลังเติมน้ำมันอยู่นั้น กลับมีสายเรียกเข้ามายังโทรศัพท์จนเกิดไฟลุกขึ้นบริเวณถังน้ำมันของรถจักรยานยนต์ และลามไหลตามน้ำมันมาบนพื้นของปั้ม โชคดีที่พนักงานได้นำถังดับเพลิงฉีดระงับเหตุการณ์ได้ทัน
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ก่อเกียรติ บุญชูกุศล อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ จส.100 ระบุว่า ที่เขาห้ามเพราะว่ามันมีโอกาสที่เวลาสายเรียกเข้าอาจเกิดประกายไฟเนื่องจากไฟฟ้าสถิตย์ขึ้นกับตัวเครื่องโทรศัพท์ อย่างกรณีนี้ตนเข้าใจว่าตรงที่เกิดปัญหาเกิดในตอนที่เติมน้ำมันพอดี และโทรศัพท์มือถือก็อยู่ใกล้ๆ กับจุดจ่ายน้ำมัน เพราะฉะนั้นไอน้ำมันที่มันระเหยจึงมีความหนาแน่นพอที่จะจุดระเบิดได้ ด้วยอากาศกับไอน้ำมันและประกายไฟมีความพอดีกันก็เลยเกิดไฟลุก ซึ่งการใช้โทรศัพท์มือถือภายในปั้มนั้นหากยืนอยู่ใกล้ๆ กับหัวจ่ายก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ถ้ายืนอยู่ไกลๆ ความเข้มข้นมันก็จะไม่พอที่จะทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นถ้าไม่สามารถปิดเครื่องหรือวางสายได้ก็อย่าไปไว้เอาไว้แบบในคลิปนั้น
ส่วนการใช้แอพลิเคชั่นแชทจะทำให้เกิดประกายไฟได้ด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่ชัดเจนนัก แต่ที่เขาห้ามนั้นหมายถึงการที่มีสัญญาณโทรศัพท์เข้าและออก ซึ่งการที่เราแชทกันมันก็มีสัญญาณเหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แชทกันไม่ได้ ในส่วนของปั้มเติมแก๊สก็เช่นกัน แต่การเติมแก๊สนั้นตนเข้าใจว่าเวลาเติมหัวจ่ายแก๊สมันจะล็อกแน่นกับตัวถังแก๊ส โอกาสที่แก๊สจะรั่วไหลมันแทบจะไม่มี