สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุ คงชี้นำไม่ให้ลงโฆษณารายการสรยุทธไม่ได้ เพราะจะลงแต่ละทีใช้เรตติ้งเป็นสำคัญ แต่ถ้าเจ้าของสินค้ารายใดไม่ต้องการเอาไปออก ก็พร้อมเสนอทางเลือกรายการอื่น ที่มีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกันได้
วันนี้ (2 มี.ค.) นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าว และเจ้าของบริษัท ไร่ส้ม ยังคงทำหน้าที่ดำเนินรายการ ทั้งที่ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดียักยอกค่าโฆษณา อสมท ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ระงับการลงสื่อโฆษณาในรายการต่าง ๆ ที่มี นายสรยุทธ เป็นพิธีกร ว่า ในการวางแผน และจัดซื้อสื่อโฆษณา สมาชิกสมาคมฯ ไม่สามารถเป็นผู้ชี้นำในการลงโฆษณา แต่อาศัยหลักความสามารถในการเข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“ที่ผ่านมา สมาชิกฯ จะใช้ข้อมูลจำนวนผู้ชมโทรทัศน์ หรือเรตติ้ง เป็นเกณฑ์ ในการพิจารณาเลือกรายการต่าง ๆ ในแต่ละเดือน ดังนั้น การจะระงับหรือซื้อโฆษณาในรายการต่าง ๆ หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์นี้เป็นสำคัญ” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว หากเจ้าของสินค้ารายใด มีความประสงค์ที่ไม่ต้องการลงโฆษณาในรายการใด จะต้องมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร บริษัทมีเดียเอเยนซี่ จะนำเสนอทางเลือกอื่นทดแทน โดยคำนึงถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ภายใต้งบประมาณที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
แถลงการณ์สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย
กรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา
จากกรณีที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาชี้ความผิดของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าวโทรทัศน์ ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ตลอดจนมีกระแสเรียกร้องให้ระงับการสื่อโฆษณาในรายการต่าง ๆ ที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกรอยู่นั้น
สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ในฐานะของสมาคมผู้ประกอบ วิชาชีพด้านวางแผนและซื้อสื่อโฆษณา ขอชี้แจงว่า ผู้ประกอบการมีเดียเอเยนซี่ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ต่างมีจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลในการประกอบวิชาชีพเป็นสำคัญ ดังนั้น ในการประกอบธุรกิจการวางแผน และจัดซื้อสื่อโฆษณาให้กับผู้ประกอบการเจ้าของสินค้านั้นสมาชิกสมาคมฯ ไม่สามารถเป็นผู้ชี้นำในการลงโฆษณา หากแต่ อาศัยหลักความสามารถในการเข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ โดยที่ผ่านมาสมาชิกฯ จะใช้ข้อมูลจำนวนผู้ชมโทรทัศน์ หรือเรตติ้ง เป็นเกณฑ์ ในการพิจารณาเลือกรายการต่าง ๆ ในแต่ละเดือน ดังนั้น การจะระงับหรือซื้อโฆษณาในรายการต่าง ๆ หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์นี้เป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ตามหลักการดำเนินการของมีเดียเอเยนซี่ทุกราย โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว หากผู้ประกอบการเจ้าของสินค้ารายใด มีความประสงค์ที่ไม่ต้องการลงโฆษณาในรายการใดก็ตาม จะต้องมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทมีเดียเอเยนซี่ จะนำเสนอทางเลือกอื่นทดแทนโดยคำนึงถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันเป็นสำคัญ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
นางวรรณี รัตนพล
นายกสมาคม
วันที่ 2 มีนาคม 2559