จับหนุ่มเดนคุก! ตระเวนลักทรัพย์ก่อนเผาร้านสูทดังประชาชื่นอำพรางคดี ลูกสาวไฟคลอกดับ

ตำรวจ สน.เตาปูน จับกุมหนุ่มวัย 26 ปี ใช้จักรยานยนต์ที่ขโมยมาก่อเหตุลักขโมยเงินสดและทรัพย์สินภายในร้านสูทชื่อดัง ก่อนจูงจักรยานแล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี ทำลูกสาวเจ้าของร้านหนีออกมาไม่ทันถูกไฟคลอกเสียชีวิต กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ พบเคยก่อเหตุลักทรัพย์ จำคุก 4 ปีก่อนพ้นโทษ ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก

วันนี้ (22 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน แถลงข่าวการจับกุม นายยุทธนา หรือ บ๊วย อ่อนสุวรรณ อายุ 26 ปี ชาว อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลังควบคุมตัวได้ที่สถานีรถไฟบางซื่อ ถนนเทิดดำริ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นมูฟ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1 กฒ 3126 นครราชสีมา และรถจักรยานสีส้ม ที่ได้มาจากร้านแกละ ออริจินอล และเงินสด โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยใช้ไขควงงัดลูกกุญแจ ก่อนจะเข้าไปลักเอาเงินสด 5,000 บาท และเอาทรัพย์สินไป ซึ่งได้ทำในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง นอกจากนี้ ตนยังไม่รู้ตัวเลยว่าหลังก่อเหตุจะใช้ไฟแช็กเผาเพราะอะไร

สำหรับแนวทางการสืบสวนพบว่าก่อนหน้านี้มีเหตุลักทรัพย์และเผาบ้านมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ที่แฟลตอำรุงชัยในซอยประชาชื่น 10 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งมาครั้งล่าสุด เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในร้านตัดสูท แกละ ออริจินอล เลขที่ 133 ปากซอยประชาชื่น 5 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 03.00 น. ของเช้าวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้ น.ส.ภรณี ซุ้มมหาวงศ์ อายุ 30 ปี บุตรสาวเจ้าของร้านหนีออกมาไม่ทัน สำลักควันและถูกไฟคลอกเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านเรือนใกล้เคียง พบว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าประตูด้านข้างบ้านเกิดเหตุ และเข้าไปในบ้าน จากนั้นเวลา 02.56 น. ได้ออกมาพร้อมลักรถจักรยานซึ่งจอดอยู่ในบ้านจูงออกมา ไปทางแยกประชาชื่น ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ จากนั้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ กระทั่งกล้องวงจรปิด หน้าบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สามารถจับภาพคนร้ายที่จูงรถจักรยานไปยังสถานีรถไฟบางซื่อ กระทั่งได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบนายยุทธนาพร้อมกับรถจักรยานยนต์ มีรูปพรรณสัณฐานตรงกัน จึงจับกุมตัวเอาไว้ได้

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นคนเร่ร่อน อาศัยอยู่แถวสถานีรถไฟบางซื่อ และอาศัยข้าววัดกิน เคยมีประวัติต้องโทษในคดีลักทรัพย์ จำคุก 4 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ปีกว่า ก็ออกมาก่อเหตุอีก โดยใช้รถจักรยานยนต์ที่ลักขโมยมาลงมือในช่วงกลางดึก เมื่อเจอสิ่งของที่น่าสนใจก็จะลักเอาไปด้วย โดยในระยะ 4 - 5 ครั้งหลัง จะมีการใช้ไฟแช็คจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องดำเนินคดีในข้อหาหนักกับนายยุทธนา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรและวางเพลิงเผาทรัพย์ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจะนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายยุทธนา เคยเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ เมื่อปี 2553 ด้วยการออกตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อาทิ รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.วชิรพยาบาล, รพ.รามาธิบดี โดยอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายรีบร้อนขึ้นไปบนโรงพยาบาล และบางรายลืมกุญแจเสียบไว้ที่รถ ซึ่งก่อเหตุมาประมาณ 11 ครั้ง โดยนำรถที่ได้ไปขายต่อบางคันจะขายให้กับพ่อค้าตามตลาดนัดสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเคยต้องโทษในข้อหาขโมยโทรศัพท์มือถือ และได้เรียนวิธีการขโมยรถจักรยานยนต์มาจากเพื่อนในคุกอีกด้วย