xs
xsm
sm
md
lg

NR Sport Radio ไม่ได้ทำหนังโป๊ แค่เป็น "นิกกี้ พิ้ม แห่งวงการพากย์บอล"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาจไม่ไพเราะเสนาะโสตแบบสุภาพชนจ๋า แต่ทว่าก็จริงใจไม่จิงโจ้
อาจดูเหมือนดิบ ด้วยมุกจิกกัดและบรรทุกสัตว์มาทั้งสวน
แต่ก็เพียงกวนๆ ตามสไตล์และไม่ถ่อย
สำหรับคอลูกหนัง คงเคยได้ยินได้ฟังกิตติศัพท์ตลอดจนลีลาการพากย์บอล
ของ 'NR Sport Radio'
คลื่นวิทยุฟุตบอลออนไลน์ที่ครองใจคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
ด้วยการผสานสไตล์หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน
คุณชอบร็อก เขาจะร็อกบวกป๊อป
และถ้าคุณชอบป๊อป บางทีเขาอาจจะแถมพังก์!

แม้จะมาไม่ครบทีม แต่ “นิค-นิกร วิศวะไชยพันธ์” และ “ฮง-สุสิทธิ์ สินชัยวนิชกุล” ก็คือเสียงพากย์ที่จะไขความกระจ่างในตัวตนของคนกวนๆ ทีมนี้ได้อย่างหมดเปลือก...

“มันมักจะมีคนพูดว่า เปิดทีวีปิดเสียงแล้วก็เปิดวิทยุ” นิค เขี่ยลูกเปิดก่อน
“เพราะเขาบอกว่าวิทยุพากย์มันกว่า เขาพากย์สนุกจริงๆ ครับ แต่จะมีเส้นๆ หนึ่งซึ่งเขาข้ามไปไม่ได้ มันมีกรอบหนึ่งอยู่ แต่ด้วยความที่เราเป็นออนไลน์ มันไม่มีอะไรมาล้อมกรอบไว้ เราอยากทำอะไรก็ทำ แต่ก็ไม่ใช่เกินความเป็นมนุษย์ แค่เน้นให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมมากกว่า

ผมมองว่าทุกวันนี้ความเป็นตัวเอง ทุกคนใส่เต็ม ทีมผมมี 5 คนจะคนละเรื่องเลย เพราะเราใส่ความเป็นตัวเอง แล้วก็ไม่เสแสร้งหรือไม่ตอแหล ไม่เหมือนกับนักพากย์บางคน ซึ่งเรารู้ว่าคนนี้คือเด็กผี พอแมนยูโดนนำปุ๊บ หน้าพี่เขาเสีย แต่เขาต้องพูด ซึ่งสวนทางกับอารมณ์เขา แต่พวกผม หน้าเสีย เซ็ง แสดงออกครับ แต่ก็เป็นกลาง ไม่ต้องกลัว พากย์ตามปกติ ถามว่าเซ็งมั้ย ก็เซ็ง แต่ก็ว่ากันไปตามเกม นอกจากว่า คู่ใหญ่ๆ จะได้อีกอารมณ์หนึ่ง สมมุติว่าแมนยูเจอกับลิเวอร์พูล ผมเป็นเด็กหงส์ พี่อีกคนเป็นเด็กผี นั่งพากย์คู่กันเลย บลัฟกันเต็มที่ คือคล้ายๆ กับช่วง Fanzone ของช่อง Sky Sport เลยครับ ผมก็เอามาจากรายการนี้เลย พอยิงเข้าปุ๊บ ไอ้นี่ก็หันไปบลัฟเพื่อนเลย สะใจใส่เลย”

“มันคือทางเลือกใหม่สำหรับคอบอล” นิคยังคงเลี้ยงลูกต่อ
“ไม่ใช่ว่าของเดิมไม่ดีนะ แต่กับข้าวที่มันอร่อย ทานพรุ่งนี้ก็อร่อยครับ เพียงแต่ว่าคนกินคนเดิม อาจจะอยากเปลี่ยนรสบ้าง ฉะนั้น คลื่นเราก็จะเป็นทางเลือกใหม่ และเป็นจุดที่มีความเป็นตัวของตัวเองที่สูงมาก

“ผมว่าเป็นทั้งสองอย่างนะ ทั้งจุดขายและทางเลือกใหม่” ฝ่ายฮงรับลูกที่ส่งมาจากนิค

“จุดขายก็อย่างที่บอกคือ ตลก ทะลึ่ง และเป็นทางเลือกใหม่ให้คนฟัง ให้เขารู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็มีแบบนี้นะ มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ให้คนฟังและสังคมที่เบื่อกับแนวเดิม หรือไม่ค่อยถนัด เราก็จะเป็นอีกอย่าง ให้มันฉีกแนวออกไป
“เราก็เหมือนกับวัยรุ่นกะโหลกกะลาที่ยังมีความรู้กาลเทศะ” นิคกล่าวเสริม
เราอาจจะหยาบคาย แต่ก็ย้ำเตือนเสมอว่า เราอยู่ตรงนี้ เหมือนอยู่กับเพื่อน แต่ถ้าไปนั่งกินข้าวกับผู้ใหญ่ เราก็ต้องเป็นอีกคนหนึ่งนะ เข้าสังคมให้เป็น บางครั้งเวลามีแขกรับเชิญมา พวกผมก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน อย่างไปออกทีวี แฟนคลื่นอาจจะบอกว่า “เฮ้ย พี่นิคตัวจริงป่าววะ” ต้องมีความเหมาะสม มีกาลเทศะ

• พูดถึงสไตล์การพากย์ ได้อิทธิพลมาจากใครบ้าง

นิค : แกงค์สามแยกปากหวานในยุคน้าเน็ก-พี่โป้ง และพี่เผือก ทางวิทยุน่ะครับ ผมชอบตรงที่อารมณ์เหมือนเพื่อนคุยกัน นอกจากสร้างความสนุกให้คนฟังไม่พอ ยังให้คนฟังรู้สึกว่าอยู่ตรงนั้นด้วย ไม่ใช่แบบเรามานั่งฟังเขาทอล์กโชว์นะ คือทุกคนอินแน่นอน ส่วนอีกคนก็คือ พี่แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) อาจฟังดูไม่เกี่ยวข้อง แต่พี่แสตมป์ถือว่าเป็นนักกวีเลยก็ว่าได้ เขาสามารถอธิบายในแบบที่คนทั่วไปไม่สามารถอธิบายได้ผ่านสองประโยค และผมชอบข้อคิดหลายๆ อย่างของพี่เขา ผมก็เคยเล่นดนตรี ก็มียึดหลักของเขามา แต่ว่าอย่างหนึ่งที่ผมยึดหลักมาเสมอ คือจุดขายของเขา เวลาที่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็ตาม เขาจะเล่นเพลง “ความคิด” และแต่งเนื้อสดๆ แบบเอาฮา ซึ่งก็มีคนถามเขาว่า พี่ทำอย่างงี้ทำไม พี่เขาก็จะบอกว่ามันคือการทำลายกำแพงระหว่างศิลปินกับคนฟัง สำหรับผม ทุกวันก็ต้องคิดแล้วว่าแต่ละวัน จะทำลายกำแพงยังไงดี ไม่ใช่แค่จัดรายการแล้วทุกคนมานั่งด้วยกัน แต่ทุกวันจะต้องมีมุกอะไรเปิดมาให้ได้ก่อน เป็นการทำลายกำแพงระหว่างกัน

• ถ้าเปรียบตัวเองเป็นคาแร็กเตอร์ของใครสักคน คิดว่าตัวเองเป็นใครครับ

ฮง : ผมคิดว่า น่าจะเป็นแบบ “นิกกี้ พิ้ม” นะ บางคนอาจจะบอกว่าบ้า แต่ว่าเขากล้าทำ ผู้ชายหลายคนเมื่อมาถึงจุดหนึ่งจะแบบว่า... “เชี่ย กูทำหนังเอกซ์ดีกว่า” แต่มีสักกี่คนที่ทำ แต่นิกกี้ พิ้ม เขาทำ คืออาจจะดูบ้า คนเกลียดเยอะ แต่เขาไม่แคร์ เขาทำได้เลยทันที และที่สำคัญ เขาก็อยู่ได้ด้วยความบ้าของเขา แต่ไม่เพี้ยนนะ อาจจะดูเกรียน แต่เขาน่าจะรู้ตัวว่าเขาพูดอะไรออกมา อย่างเวลาดาราถูกคนพิมพ์ด่าในโลกออนไลน์ ทนครับ บางคนทนไม่ไหว พิมพ์โต้กลับ แต่นิกกี้ พิ้ม แกอัดคลิปโต้กลับ แกอยู่ในจุดที่ว่าอยากทำอะไรก็ทำเลย

• คิดว่าการมีตัวตนแบบนี้ให้อะไรกับเราบ้าง

นิค : การพากย์บอลของเราให้ความสุขกับครอบครัว จากรสชาติเดิมๆ ที่เด็กผีจะดูสนุก ก็คงตอนดูแมนยูเตะ แต่คู่อื่นอาจจะน่าเบื่อ ซึ่งเรากลับสามารถทำให้คู่นั้นดูสนุกขึ้นได้ ส่วนครอบครัว ไม่ใช่คลื่นกีฬาแก้เหงา แต่คลื่นเราจะมีความรู้สึกแบบครอบครัวนะ คือทุกคนเหมือนครอบครัว อย่างมีน้องคนหนึ่งพยายามจีบหญิง ถึงแม้ว่า ผมจะไม่ได้จัดรายการตลอด น้องก็จะมาพิมพ์รายงานให้เรารู้ว่าเธอรับแอดผมแล้วพี่ คือเหมือนกับว่า เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเขาแล้ว กลายเป็นครอบครัว

• ในฝั่งของคนพากย์ก็พากย์ไป แต่ในส่วนของคนเชียร์ คุณมองเรื่องการเชียร์ฟุตบอลตอนนี้อย่างไรบ้าง

นิค : ผมว่ามันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ ข้อดีมันทำให้ใครหลายๆ คน ให้ชีวิตเขามีอะไร มีเรื่องที่จะเข้าสังคม เพราะมันเป็นหัวข้อสนทนาหลักได้เลย อีกอย่างมันเริ่มเป็นที่มาของอาชีพหลายๆ อย่างแล้ว คือเราไม่ได้มองแค่นักกีฬาครับ เก่งก็เก่งไป คนชอบกีฬา ไปทำอะไรก็ได้ ยิ่งมีสตาฟฟ์โค้ช มีทีมงาน กลายเป็นว่าสามารถที่จะหารายได้จากสิ่งนี้ได้ อันนี้คือข้อดี แต่ข้อเสียคือบางคนทะเลาะกันเลย มันก็เกินไปครับ บางคนอาจจะความอดทนต่ำไปนิดหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับผม สมมุติเราเชียร์ลิเวอร์พูล แพ้ เพื่อนแม่งมาล้อ เราก็...แล้วไงวะ คือปกติ ไม่ใช่ไม่รู้สึกนะ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งมาตั้งนานแล้ว มันก็เป็นข้อดีของกีฬานะครับ ที่ทำให้รู้สึกว่าแพ้เป็นยังไง คือไม่ได้ชนะตลอด ซึ่งบางทีก็แอบเป็นห่วงเหมือนกันนะ เห็นทะเลาะมากันหลายคนแล้ว

ฮง : ผมว่าเดี๋ยวนี้ มันเปลี่ยนไปเยอะนะ คืออาจจะมีพวกที่รุนแรงบ้าง และพวกมีมารยาท ผมว่ามันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน อย่างคนฟังของเราก็โอเคนะ น้องๆ บางคนบอกว่าผมแม่งเกลียดไอ้นี่ว่ะ เราก็พยายามบอกน้องๆ ว่า มันเป็นเกมฟุตบอล แต่พอจบเกม ไอ้พวกนี้ก็เพื่อนกันทั้งนั้น คือถึงแม้ว่าเวลาเราพากย์ อาจจะหยาบ มีอารมณ์ร่วมบ้าง แต่พอจบเกม ก็จับมือกัน เสียบกันแรงแค่ไหน ก็ขอโทษ

ผมอยากจะบอกว่าเวลาเชียร์บอล ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงหรือตีกัน เพราะเรามาเชียร์ด้วยกัน คนไทยด้วยกัน แม้จะต่างสโมสร แต่อยากให้รู้สึกเหมือนเชียร์ทีมชาติ อย่างเวลาทีมชาติไทยเตะ แม้ที่ผ่านมาจะเชียร์สโมสรต่างกัน แต่ทุกคนก็มาเชียร์ทีมชาตเหมือนกัน คือรักกันอย่างนี้ได้หรือเปล่า


เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ และ NR Sports Radio

กำลังโหลดความคิดเห็น